ย้อนเวลากลับไปในปี คศ.1832 ด็อกเตอร์หลุยส์และภรรยาคือ เดลฟีน ลาลัวรีซื้อคฤหาสน์หลังงามย่านเก่าแก่ของนิวออลีนส์ ทั้งคู่ได้รับการกล่าวขวัญในวงสังคม ทั้งเรื่องความร่ำรวยและนิสัยใจคอว่าน่าคบค้าสมาคมจนใครๆ ก็อยากคบหาตระกูลลาลัวรี
คฤหาสน์เลขที่ 1140 ถนนโรยัลที่พำนักของครอบครัวลาลัวรีเป็นอาคารหรูหราสูงสามชั้น ตัวมาดามเองได้รับการยกย่องว่าทั้งสวยทั้งฉลาด แต่นี่คือมายาภาพด้านเดียวที่แสดงให้คนภายนอกเห็นเท่านั้น ไม่มีใครล่วงรู้ว่าด้านมืดของมาดามสุดแสนโหดร้ายเต็มไปด้วยความคลั่งบ้าวิปริต
เพื่อนบ้านเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างในบ้านมาดามลาลัวรี เริ่มมีเสียงซุบซิบนินทาว่าทาสในคฤหาสน์มาดามเปลี่ยนบ่อยจนไม่ซ้ำหน้า โดยที่ทาสคนเก่าหายหน้าไปอย่างลึกลับ วันหนึ่งในเดือนเมษายน คศ.1834 ข้อกังขาทั้งมวลเกี่ยวกับครอบครัวลาลัวรีถูกเปิดเผย และเป็นความจริงที่น่าขนพองสยองเกล้าที่สุด
เปลวไฟเริ่มต้นขึ้นจากในห้องครัว ท่ามกลางเสียงลือหนาหูว่าแม่ครัวเป็นผู้จุดไฟเผาเอง เพราะทนไม่ไหวกับการถูกมาดามลาลัวรีทารุณ จากนั้นเพลิงลามตามห้องต่างๆในคฤหาสน์หลังงาม หลังจากไฟมอดดับ นักดับเพลิงค้นพบความจริงอันน่าสยดสยอง ซุกซ่อนอยู่หลังบานประตูลับชั้นใต้หลังคา เมื่อเปิดประตูห้องใต้หลังคาเข้าไป ทุกคนตกตะลึงจนตัวชาเมื่อเห็นภาพเบื้องหน้า !
ตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์นิวออร์ลีนส์บี ทาสทุกคนเปลือยเปล่า ส่วนทาสคนไหนที่ไม่ได้อยู่บนโต๊ะที่ใช้ทดลองก็ถูกล่ามกับผนัง บางคนถูกสับลิ้นละเอียด ดวงตาและริมฝีปากถูกเย็บติดกัน หูและจมูกถูกเฉือนขาด ทาสหญิงบางคนถูกกรีดหน้าท้องเปิดอ้า แล้วลากลำไส้ให้มาผูกติดกับข้อมือ ส่วนทาสหญิงอีกรายหนึ่งถูกยัดปากด้วยขี้ แล้วเย็บปากปิดด้วยเชือก ทาสชายนั้นอยู่ในสภาพที่น่าทุเรศยิ่งกว่า ถูกถอดเล็บมือเล็บเท้าออกหมด ดวงตาถลนออกมานอกเบ้า อวัยวะเพศถูกเฉือนขาด ทาสชายรายหนึ่งถูกเปิดกระโหลกศีรษะออกเพื่อเอาแท่งไม้แยงลงไปคนสมอง ชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์กระจัดกระจายไปทั่วห้อง ศีรษะและอวัยวะภายในตับไตไส้ ม้าม ยัดเขละอยู่ในถังส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง ขวดโหลดองอวัยวะมนุษย์เรียงรายอยู่บนชั้นวาง ถัดไปนั้นคือแส้และกระบองสำหรับหวด ความสยดสยองเกินกว่าจะพรรณนาออกมาได้ครบถ้วน
ทาสเหล่านี้ถูกทรมานอย่างช้าๆ ทีละนิดเพื่อไม่ให้เสียชีวิตทันที ส่วนมากถูกเย็บปากปิดสนิทด้วยเส้นเชือก มือถูกจับโยงไปเย็บติดกับหลายส่วนของร่างกาย หลายคนทนความเจ็บปวดและบาดแผลไม่ไหวก็ขาดใจตาย ส่วนที่ยังไม่สิ้นใจอยู่ในอาการช็อคหมดสติไม่รู้สึกตัว บางคนร้องโหยหวน คร่ำครวญอ้อนวอนหาความตายเพื่อจะไม่ต้องรองรับความวิปริตของมาดามลาลัวรีอีกต่อไป
กลุ่มนักดับเพลิงถึงกับผงะ เมื่อเห็นความสยดสยองเบื้องหน้า จึงรีบนำตัวทาสเหล่านี้ส่งโรงพยาบาลทันที ไม่มีใครรู้ชัดเจนว่าทาสกี่รายเสียชีวิตระหว่างการถูกทรมานใน “ห้องทรมาน” ของมาดามลาลัวรี แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ ทาสทุกคนเสียชีวิตหลังจากถูกทำร้ายร่างกาย เหลือเพียงไม่กี่รายที่ยังมีชีวิตอยู่ เช่นทาสหญิงนางหนึ่งที่ถูกตัดแขนขาออกจนหมดเหลือแค่ลำตัวด้วนๆ ส่วนทาสอีกรายหนึ่งซึ่งถูกจับยัดลงไปในกรงเล็กแคบเพื่อทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและถูกดัดแขนขาให้บิดเบี้ยวผิดรูปร่างเหมือนปู
หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้อันนำไปสู่การค้นพบห้องทรมาน ผู้คนจำนวนมากในเมืองลุกฮือ ฉวยอาวุธและคบเพลิงจะมาเผาบ้านหลังนี้และหวังจะจับครอบครัวของมาดามใจโหดมาลงโทษ แต่มาดามลาลัวรีและครอบครัวหายไปจากเมืองนิวออลีนส์โดยที่ไม่มีใครพบเห็นครอบครัวนี้อีกเลย บางคนกล่าวว่าครอบครัวนี้หนีไปอยู่ฝรั่งเศส แต่มีข่าวลือว่าครอบครัวนี้ย้ายไปอยู่เมืองเล็กๆ ไม่ไกลจากนิวออลีนส์
หลังจากครอบครัวลาลัวรีหนีไป ก็ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าไปใกล้คฤหาสน์แห่งนั้น หลังจากช่วยเหลือทาสที่พิกลพิการจากความโหดร้ายทารุณของมาดามลาลัวรีออกไป ฝูงชนที่โกรธแค้นก็บุกเข้าทำลายและปล้นสิ่งของในคฤหาสน์หลังหรู หลังจากนั้นคฤหาสน์ถูกทิ้งร้างหลายปีจนทรุดโทรม ต่อมามีคนมาซื้อ ขณะที่เจ้าของคนใหม่กำลังซ่อมแซมคฤหาสน์หลังนี้ ตอนรื้อพื้นไม้ออกพบว่าเกลื่อนไปด้วยซากศพและซากกระดูกมนุษย์ นับได้เกือบร้อยศพ
การค้นพบโครงกระดูกเหล่านี้เป็นหลักฐานอีกชิ้นหนึ่งว่า มาดามลาลัวรีนำศพทาสมาโยนทิ้งไว้ใต้พื้นไม้ที่ปูห้อง เพื่อหลบเลี่ยงเงื้อมมือกฎหมาย การค้นพบซากศพและกองกระดูกนำไปสู่อีกคำถามหนึ่งว่า ทาสกี่คนต้องจบชีวิตไปภายในบ้านหลังนี้ด้วยน้ำมือของมาดามผู้อำมหิตจนเป็นที่กล่าวขานเป็นตำนานบทหนึ่งของนิวออลีนส์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี