ถือเป็นศิษย์ร่วมสังกัดเดียวกับหนุ่มฮอต “เจมส์” จิรายุ ที่น่าจับตามองไม่น้อย สำหรับสาว “มุก” สิรินรัตน์ วิทยพูม ที่ผ่านการปลุกปั้นโดยบริษัท มีตา ของผู้จัดการดาราคนดัง “ปิ๊ก” ฌาณฉลาด ทวีทรัพย์ ให้ได้ก้าวเข้ามาชิมลางงานละครเรื่องแรกในซีรี่ส์ดังเลือดมังกร ตอน แรด ที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นผลงานที่ภาคภูมิใจ

จุดเริ่มต้นบนเส้นทางบันเทิง?
“ช่วงมุกอายุ 13-14 ปี มีคนชวนให้ลองเล่นโฆษณาค่ะ จากนั้นก็มีงานมาเรื่อยๆ ทั้งงานเอ็มวี และก็หนังเรื่อง “แก๊งปรี๊ดจะ Read ใจเธอ” แล้วทางบริษัทมีตา ได้เข้ามาพูดคุยชวนเข้าสังกัด พอเราเซ็นสัญญา ทางมีตาก็ส่งให้เรียนแอ๊กติ้ง เรียนร้อง เรียนเต้น อยู่ประมาณ 3-4 ปีได้ค่ะ ก่อนที่จะมีงานละครเรื่องแรก”

ต้องเข้าคอร์สเสริม เพื่อเพิ่มความสามารถ?
“หนูสนุกค่ะที่ได้ลองอะไรใหม่ๆ เหมือนเราได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ด้วย ในคลาสจะมีประมาณ 20 กว่าคนได้ค่ะ ส่วนใหญ่ของมุกจะเน้นแอ๊กติ้ง ช่วงแรกๆ เราอาจจะยังไม่มีความรู้ ก็มีคุณครูหลี่เจิน เข้ามาสอนเกี่ยวกับการเล่นละคร ว่าเราต้องรู้สึกออกมาจากข้างใน ช่วยให้เข้าใจศาสตร์ทางด้านนี้มากขึ้น เพราะเรียนแอ๊กติ้งตลอดตั้งแต่อยู่ ม.3 จนจบมัธยมค่ะ”

เคยคิดอยากเลิกกลางทางไหม?
“ช่วง ม.5-6 เป็นช่วงที่หนักมาก คือเรียนหนังสือเสร็จทุ่มหนึ่ง ต้องไปเรียนแอ๊กติ้ง เรียนเต้น ต่อถึงตีสอง แล้วเช้าก็ต้องตื่นไปโรงเรียน 6 โมง เป็นแบบนี้อยู่ประมาณ 2-3 เดือน จนพูดกับคุณแม่ว่า เหนื่อย แม่ก็บอกว่า ถ้าเหนื่อยจะเลิกก็เลิกได้ ถ้าไม่ชอบจริงๆ ซึ่งเหมือนผิดคาด ไม่คิดว่าแม่จะพูดแบบนี้ เลยเหมือนฮึดให้เราทำต่อ เพราะมุกคิดว่ามุกไม่ได้เหนื่อยคนเดียว พ่อแม่ก็เหนื่อยกับเราด้วย หรืออาจจะเหนื่อยกว่าด้วยซ้ำ ที่ต้องไปรับไปส่งเราตลอด”

ผลงานที่ผ่านมา?
“มีถ่ายโฆษณา Coke เล่น MV ไม่กล้าบอกชัด-Jeff Demo Project แล้วก็ MV ถ้ารู้ก็คงไม่บอก ของ คชา นนทนันท์ค่ะ และก็ได้เล่นหนัง “แก๊งปรี๊ดจะ Read ใจเธอ” ที่ได้เรื่องนี้ เพราะตอนนั้นมีคนทักมาในเฟซบุ๊คให้หนูเข้าไปแคส แต่หนูกลัวจะโดนหลอก ก็เลยไม่ไปค่ะ จนเขามาดักรอหนูที่หน้าโรงเรียน ถามว่า ใช่น้องมุกไหมครับ หนูงงมาก แล้วเขาก็บอกว่าให้ไปแคสงานด้วยนะครับ หลังจากนั้นหนูก็ไปแคส โดยให้คุณพ่อพาไปค่ะ และก็ได้เล่น หนังฉายไปเมื่อ 2-3 ปีก่อนค่ะ”

พอใจไหมกับงานภาพยนตร์เรื่องแรก?
“ยังไม่พอใจค่ะ หนูรู้สึกว่าการแสดงเรายังไม่แข็งแรงพอ แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดี ได้เรียนรู้งานในกองถ่าย ผู้กำกับฯเพิ่งเรียนจบแล้วมาทำ บรรยากาศเหมือนเพื่อนๆ ร่วมกิจกรรมกันค่ะ”

ด้านการศึกษา?
“ตอนนี้มุกเรียนปี 1 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ภาคอินเตอร์ คณะ Business English ค่ะ ที่เลือกเรียนสายนี้เพราะตั้งใจว่าโตไปจะเปิดธุรกิจของตัวเอง อยากทำอะไรสักอย่างเป็นของตัวเอง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ได้บังคับอะไร แล้วแต่เราเลยค่ะ เพราะมุกมีพี่น้อง 5 คน (ผู้หญิง 3 ผู้ชาย 2) หนูเป็นคนที่ 5 ซึ่งทุกคนก็จะไปคนละทางหมดเลย มีหมอฟัน เรียนศิลปะโน่นนั่นนี่ ซึ่งหนูก็จะเป็นน้องเล็กของครอบครัว”

ความสนิทสนมในหมู่พี่น้อง?
“หนูจะห่างจากพี่คนโตประมาณ 6 ปี จะอายุไล่ๆ กันมากกว่าค่ะ รู้สึกเหมือนมีพี่เป็นเพื่อน นิสัยมุกก็จะกวนๆ นิดหน่อยค่ะ (หัวเราะ) ชอบกวนพี่ๆ คือพี่กวนมา เราก็กวนกลับ ไม่ยอมกัน (ส่วนใหญ่ทำกิจกรรมอะไรร่วมกันบ้าง?) ชอบไปเที่ยวด้วยกันค่ะ ถ้ามีเวลาว่าง ซึ่งหายากมาก(ลากเสียงยาว) ก็จะไปทะเลบ้าง ไปกันทั้งครอบครัว แต่จะรวมตัวกันยากมาก เพราะแต่ละคนก็ยุ่งๆ พี่ๆ ก็เรียนต่อโทกันด้วยค่ะ”

สไตล์ที่ถูกเลี้ยงดูมา?
“ตอนเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ไม่ปล่อยเลยค่ะ คือโหดเลยล่ะ ต้องนอนสองทุ่ม อ่านหนังสือหกโมงเช้า แล้วพอโตขึ้นก็เริ่มพูดกับเขาว่าโลกสมัยนี้ ไม่ได้เป็นแบบนั้นแล้วนะ เราก็รู้ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี เราแยกได้ เขาก็เชื่อใจค่ะ ซึ่งพี่ๆ ทุกคนก็จะโดนแบบนี้มาก่อนแล้ว ตัวหนูเองเริ่มถูกปล่อยตอนประมาณ ม.2 ทุกอย่างเปลี่ยนตอนนี้ล่ะค่ะ หนังเรื่องแรกก็เริ่มตอน ม.2”

งานละครเรื่องแรก?
“พอรู้ว่าได้มาเล่นละครซีรี่ส์เลือดมังกร เรื่องแรด แรกๆ มุกเกร็งมากค่ะ ว่าเราจะทำได้ไหม มุกต้องเล่นเป็นน้องสาวของนางเอกแพน (แต้ว-ณฐพร) แต่คนละแม่กัน แม่ของเราไม่ชอบเจ๊แพน เราก็เหมือนดูพฤติกรรมแม่ และรู้สึกว่าคุณพ่อรักเจ๊แพนมากกว่า คาแร็กเตอร์จะออกแนวร้ายนิดๆ ค่ะ ร้ายแบบเด็กๆ เป็นบทที่สนุกนะคะ และเล่นไม่ยากมาก อาจจะเพราะมุกโดนเทรนเรื่องแอ๊กติ้งมาเยอะ ก่อนหน้านี้ด้วยค่ะ”

บรรยากาศในกองถ่าย?
“สนุกค่ะ ของกินเยอะ (หัวเราะ) มุกจะเล่นเป็นลูกสาวพี่ดี้-ชนานา นุตาคม เข้าฉากด้วยกันบ่อย พี่ดี้ก็จะแนะนำเทคนิคต่างๆ เยอะมากค่ะ”

ถูกคอมเม้นท์อย่างไรบ้างจากผู้กำกับฯและผู้จัด?
“มุกจะโดนพี่แดง (ธัญญา วชิรบรรจง) สั่งให้เพิ่มนํ้าหนักค่ะ แต่ไม่ได้จริงๆ หนูกินเยอะแล้วนะ แต่น้ำหนักไม่ขึ้น หนูไม่เคยลดนํ้าหนักเลย แต่ผอมเอง (เคยปรึกษาแพทย์ไหม?) เคยค่ะ แพทย์บอกว่าระบบเผาผลาญดี (หัวเราะ) แต่หนูจะเป็นคนที่ไม่ชอบทานนํ้าอัดลมนมเปรี้ยวก็จะไม่ชอบเลย เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ รู้สึกว่าทานแล้วเจ็บปาก”

ต้องทั้งเรียนและทำงาน?
“เคยคิดนะคะว่าเวลาส่วนตัวเราหายไปหมดเลย เวลาที่จะได้อยู่กับเพื่อน แต่หนูรู้สึกว่าได้ทำตรงนี้ ดีกว่าไปเที่ยวเล่น เรามีทางเลือกเยอะกว่า และอยากหารายได้ด้วยตัวเองค่ะ ไม่อยากขอคุณพ่อคุณแม่ แต่ตอนนี้ก็ขออยู่ (หัวเราะ) ยังไงดีล่ะ คือเหมือนเรามีโอกาสแล้วเราก็ทำให้ดีที่สุดค่ะ”

ความฝันในวัยเด็ก?
“ความฝันแรกเลย อยากเป็นนักร้องค่ะ แต่ถูกพี่น้องล้อ ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นแอร์โฮสเตส เพราะว่าเห็นคนเป็นเยอะดี แต่พอไปๆ มาๆ ก็ได้มาทำงานในวงการแทนค่ะ”

มีคนรู้ใจหรือยัง?
“คนคุยด้วยก็มีค่ะ แต่ไม่ใช่แฟนนะคะ มุกจะอยู่กับเพื่อนมากกว่าค่ะ ไม่มีใครเป็นคนพิเศษ”

ไอดอลทางการแสดง?
“หนูชอบพี่ชมพู่-อารยา ชอบดูเรยาค่ะ อย่างถ้าตอนนี้ก็ต้อง อีแย้ม พี่รัดเกล้า อามระดิษ เก่งมาก แล้วก็ชอบพี่ญาญ่าหญิง-รฐา
โพธิ์งาม ชอบมาก ชอบทุกด้านเลยของพี่เขา เพราะเขามีความสามารถ พออยู่ในจอแล้วเหมือนสะกดเราได้ สวย ดี มีเสน่ห์ หน้าเขาจะไม่เหมือนคนทั่วไป เขาจะมีเสน่ห์ของเขา”

สิ่งที่เปลี่ยนไปมากที่สุดหลังเข้าวงการ?
“เรื่องการแต่งตัวค่ะ ตั้งแต่เข้ามาสังกัด มีตา วันแรก พี่ปิ๊ก (ชาญฉลาด) เห็นหนูใส่กางเกงยีนส์ขาสั้น เสื้อยืดวงร็อก พี่ปิ๊กบอกใส่กระโปรงด้วยนะลูก หนูเลยต้องโละตู้เสื้อผ้าใหม่หมด ตอนแรกก็อึดอัดนะคะ ที่ต้องเปลี่ยนอะไรแบบนี้ แต่พอตอนนี้รู้สึกว่าสนุกกับการแต่งตัวมาก แต่งได้หลายแบบ เพราะแต่ก่อนจะแต่งสไตล์ห้าวๆ ใส่แต่รองเท้าผ้าใบตลอด พอตอนนี้เพื่อนๆ เห็น ก็บอกว่าเปลี่ยนไปนะ แต่ชอบแบบเดิมดีกว่า (หัวเราะ)”

มองรุ่นพี่ อย่างเจมส์จิ?
“ทุกคนจะได้เห็นว่าพี่เขามีความตั้งใจ ตอนแรกเขาก็เหมือนหนูค่ะ ที่เข้ามา ก็ไม่รู้จะต้องทำตัวยังไง พี่ปิ๊กก็จะคอยสอนตลอด ว่าห้ามยอมแพ้นะ เหมือนพี่เขามีความอดทนจริงๆ บางทีนะหนูเห็นเขาไปถ่ายละครดึกๆ กลับมาก็มาเรียนเต้น เรียนร้องอีก ก็รู้สึกว่าเราต้องพยายามให้ได้อย่างพี่เขา เหมือนเขาก็เป็นต้นแบบที่ดี เป็นตัวอย่างให้กับคนในบริษัทได้เห็นค่ะ”

ฝากผลงาน?
“ฝากละครซีรี่ส์เลือดมังกร ตอน แรด ด้วยนะคะ เป็นละครเรื่องแรกของมุก ก็อยากจะให้ทุกคนติดตามและให้กำลังใจค่ะ” ถ้ายังไม่จุใจกับการทำความรู้จักกับสาว “มุก” ลองไปติดตามชีวิตส่วนตัวของเธอได้ใน อินสตาแกรม @mookvidh แล้วคุณจะหลงรักเด็กสาวคนนี้!