กลับมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันแล้วนะคะ สำหรับนักแสดงสาว เกด-ธิญาดา พรรณบัว หลังจากพักงานแสดงไปเอาดีกับธุรกิจส่วนตัวอยู่พักใหญ่ และเมื่อทุกอย่างลงตัว บวกกับเธอเองก็คิดถึงงานแสดง ภาพบรรยากาศเก่าๆ ในกองถ่าย ทำให้เธอตัดสินใจรับเล่นละคร พร้อมเดินหน้าลุยงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มที่ วันนี้ “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” มีโอกาสได้จับเข่าคุยกับสาว “เกด” ถึงช่วงเวลา 7 ปีที่ห่าง เธอไปไหนและทำอะไร!?

เริ่มกลับมารับงานแสดงอีกครั้ง

กลับเข้ามาเล่นละครนิดๆ หน่อยๆ ค่ะ เริ่มด้วยเป็นต่อ แป๊บหนึ่ง แล้วตอนนี้ก็กลับมาเล่น เพราะมีเธอช่อง one รับเชิญที่มาค่อนข้างยาวนิดหนึ่ง เป็นแฟนของพี่แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ ในเรื่องนะคะ นอกจากนี้ก็มีทำทัวร์ศัลยกรรมที่เกาหลี ทัวร์เที่ยวปกติก็มีค่ะ ทำมาประมาณ 4-5 ปีแล้วค่ะ และอีกอย่างคือขายหินมงคลกับเพื่อนๆ ในไอจี เมื่อก่อนนะตอนบูมๆ โอเคเลย แต่พอช่วงนี้คนทำเยอะ หินที่ไม่ใช่หินแท้ก็ค่อนข้างเยอะ คนก็เลยจะรู้สึกว่าเอะ ทำไมหินแพง ก็หินเหมือนกันไม่ใช่หรือแต่จริงๆ แล้วจะไม่เหมือนกันเลยค่ะ เพราะเราคลุกคลีอยู่กับหินตลอดเวลา จะรู้ดีที่สุด กระแสตอบรับตอนนี้ก็อาจจะลดลง เพราะคนหาซื้อได้ง่าย (ขายหินสนุกยังไง?) เกดร้อยเองเลยนะคะ ไปรับหินจากคนต่างชาติ มาร้อยเอง ส่งเอง ทำเอง ตอบไลน์เอง ทำทุกอย่าง เพราะชอบ สนุกค่ะ

อะไรดึงดูดให้หวนคืนจออีกครั้ง

มีพี่ๆ ที่เคยทำงานด้วยกัน เรียกกลับมาค่ะบอกเฮ้ย! เกดยังรับงานอยู่หรือเปล่า เราก็บอกรับๆแล้วเราก็ค่อนข้างพักมานานเหมือนกัน ละครเรื่องสุดท้ายประมาณปี 2551 ค่ะก็ 7 ปีแล้ว แต่ว่าระหว่างนั้นก็มีแวบๆ บ้าง รับเชิญบ้างค่ะ

สาเหตุที่หยุดพักงานแสดง

เกดเริ่มรับงานน้อยลง ตั้งแต่ปี 2548-2549 แล้วค่ะ เพราะไปเรียนปริญญาโท แล้วเกดเป็นคนประเภทที่ว่าไม่ได้เก่งโดยที่ไม่ได้ไปเรียน คือต้องเรียน ต้องไป ขาดเรียนไม่ได้ ถ้าขาดปุ๊บนี่งงเลย กลับมาเรียนอีกรอบ ต่อไม่ติดเลย ก็คิดว่า เป็นช่วงเวลาที่เราอยากจะเรียนแล้วล่ะ ก็เลยเริ่มรับงานน้อยลง (เลือกเรียนอะไร?) ปริญญาโท นิเทศศาสตร์ การตลาด ก็ตั้งใจเรียนอย่างเดียว แต่ช่วงนั้นก็ยังมีสัญญากับ RS อยู่ค่อนข้างเยอะเลยล่ะ ก็ขอเขาไปเรียนซึ่งเขาก็ให้ พอเรียนจบก็คิดนะคะ อยากจะกลับเข้ามาถ้ามีโอกาส เพราะเราก็หายไปนานแล้ว แต่เพราะเปลี่ยนเบอร์ด้วย และสัญญากับ RS ก็หมด เขาคงไม่รู้จะติดต่อเรายังไงด้วย พอมาตอนหลังได้โอกาสจากพี่ๆ ที่เคยทำงานด้วยกันเขาถามว่าเกดยังรับงานหรือเปล่า เราก็โอเค (เรื่องแรกที่คัมแบ๊ก?) จริงๆ เล่น เป็นต่อ มาสักพักแล้วล่ะก็หลายตอนอยู่ แล้วก็มาเป็น เพราะมีเธอ เป็นซิทคอมที่เราก็ออกหลายตอนอยู่เหมือนกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ
รอบทที่โอเคเหมาะสมต่อไปค่ะ

ดูเหมือนจะรับแต่ซิทคอม

หนึ่งที่ชอบซิทคอมเพราะว่า ถ่ายอยู่ในห้องแอร์ (หัวเราะ) ไม่ต้องร้อน สบาย แต่อาจจะต้องทำงานยาวหน่อย ก็ไม่เป็นไร ยิ่งสมัยนี้นะ สงสารนักแสดงที่ต้องไปอยู่กลางแดด แต่ถ้าวันหนึ่งเราได้เล่นละครที่ต้องทำแบบนั้น ก็คงต้องฟิตร่างกายหน่อยค่ะ

จุดเริ่มต้นในวงการบันเทิง

ไม่ได้ตั้งใจที่อยากจะมาอยู่ในวงการ เป็นโอกาสที่ฟลุคๆ มากกว่าค่ะ ทุกอย่างเป็นเรื่องฟลุค เพราะว่าเกดเป็นคนที่แบบจะให้ไปแคสงานเหรอ ขี้เกียจ บางคนเขาอาจจะขยันไปแคสนะ แต่เราไม่ บางทีมีพี่ที่รู้จักโทร.มาให้ช่วยไปแคสบทนี้หน่อย ก็จะไม่ไหว ขี้เกียจเป็นคนที่ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ไม่เอา งานชิ้นแรกของเกดน่าจะเป็นงานโฆษณาค่ะ แต่เป็นสินค้าอะไรจำไม่ได้แล้วค่ะ20 กว่าปีแล้ว (หัวเราะ)

โดยส่วนตัวเกดชอบเล่นละครนะ เพราะว่าได้เปลี่ยนบทไปเรื่อยๆ เราได้เป็นหลายๆ คนสนุกดีวันนี้ได้เป็นคนนี้ อีกวันหนึ่งเป็นอีกคนหนึ่ง ช่วงนั้นถ้าวันไหนถ่ายสัก2 เรื่อง 3 เรื่อง พร้อมกันก็มีเบลอนิดหนึ่งเหมือนกัน แต่สนุกค่ะ เกดชอบทุกบททุกเรื่องที่เกดเล่นเลยนะอย่างเรื่อง คาวน้ำค้าง เป็นเรื่องที่รับบทหนักมาก โดนข่มขืนทั้งเรื่องเล่นยากนะ เป็นเด็กโดนกดดัน โรคจิตประสาทหน่อยๆ เล่นแล้วชอบ ส่วนเรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน เป็นละครที่ถ่ายนานมาก 60 ตอน ถ่ายเป็นปีเลยเราก็จะมีซึมซับแล้วก็ผูกพันกับเรื่องนี้ค่ะ

ผลงานสร้างชื่อ

ขุนช้าง ขุนแผน ทุกคนรู้จักเกดในฐานะที่ว่านี่คือ เกด-ธิญาดา เล่นเป็นนางพิม จนทุกวันนี้ผ่านมานานมากแล้วกี่สิบปีก็ไม่รู้ พอเราไปต่างจังหวัดคนจำได้เรียก นางพิม เกดก็แบบโอ้โห..พี่นานมาก ถ้าหนูมีลูกนี่ลูกเข้ามหาวิทยาลัยแล้วนะ(หัวเราะ) ดีใจนะ แม้จะผ่านมานานแล้ว คนยังจำเราได้

หันมาจับธุรกิจทำทัวร์ศัลยกรรม

ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจทำนะคะ ที่บริษัท ทำแค่ทัวร์เที่ยวปกติ แต่พอดีมีคนรู้จักอยู่ที่เกาหลี แล้วเขาเป็นเพื่อนกับคนเกาหลี ทางนั้นมีคอนแท็กท์กับทางโรงพยาบาล เลยชวนมาทำด้วย ก็เลยได้ทำ พอทำ กระแสตอบรับก็มีมาเรื่อยๆ แต่อาจจะไม่เยอะเท่าทัวร์ปกติ เพราะคนที่จะไปทัวร์ศัลยกรรม คือไปทำศัลยกรรมอย่างเดียวเลย นานสุดไปอยู่ที่นั่นก็ประมาณ 10 วัน ส่วนใหญ่ก็จะแค่ 7 วัน เป็นมาตรฐาน ส่วนทัวร์เที่ยวก็ทำเหมือนบริษัททั่วไปที่เขาไปเที่ยวกัน ไปทุกประเทศค่ะแล้วแต่ลูกค้าอยากจะไปที่ไหน เป็นบริษัทของตัวเองค่ะชื่อ Tripple six NAV เราไม่ใช่บริษัททัวร์ที่ใหญ่ก็อาจจะไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนบริษัททัวร์อื่นที่เขาทำมานานแล้ว ตัวเกดเองจะเน้นดูในเรื่องทัวร์ศัลยกรรม ส่วนทัวร์
เที่ยวทั่วไปก็ให้คนอื่นดูไป มีดูเองบ้างนิดหน่อยค่ะ

มีข้อจำกัดไหมสำหรับทัวร์ศัลยกรรม

แล้วแต่ลูกค้าค่ะ คนนี้อยากทำแค่ตา จมูกหรืออยากจะโมใหม่ทั้งหน้า ก็มีค่าทำศัลยกรรม ค่าที่พักค่าไกด์ ค่าเดินทาง แต่ละคนที่ไปก็จะราคาไม่เท่ากันก็แล้วแต่เคสความยากง่ายด้วย สองคนนี้ไปทำจมูกเหมือนกันแต่ราคาอาจจะไม่เท่ากันก็ได้เพราะคนหนึ่งเคยทำมาแล้ว อีกคนหนึ่งยังไม่เคยทำมาเลยอะไรแบบนี้ ก็มีไปทำกันตั้งแต่อายุ 20 กว่าๆ จนถึงประมาณ 50 กว่าๆ ก็มี

เมื่อก่อนเรื่องศัลยกรรมไม่ได้เหมือนปัจจุบันนี้ มุมมองเราเป็นแบบไหน

โอ้โห…ทำให้เราสวยได้นะ เวลาไปก็มอง ฉันอยากทำเหมือนกันนะ แต่ก็คิดว่ารอแก่ไปเลยแล้วค่อยไปดึงหน้า (หัวเราะ) เคยถามหมอนะว่าเกดควรจะทำอะไรไหม หมอบอกทำหน้าให้เล็กไหม เรียวขึ้น เกดก็โอ้โห…ต้องเหลาเลยเหรอ ไม่ไหวนะ แต่ก็ทำตามานิดหนึ่งค่ะ ทำตาให้ยาวขึ้นซึ่งเมืองไทยก็ไม่ค่อยจะมีแบบนี้ ที่เกาหลีเขาจะเปิดหางตานิดหนึ่งให้เราได้ก็ฉีกแค่ตรงหาง (ทำไมเลือกทำตา?) งบน้อยสุด เล็กสุดค่ะ(หัวเราะ) ตอนแรกที่คิดจะไปทำคืออยากจะลองก่อนที่เราจะเซ็นสัญญา แล้วพาคนอื่นไปทำ ก็เอาตัวเองลองก่อน แล้วต้องยอมรับเลยว่าเกาหลีทำตาสวยจริงๆ เพราะว่าไปทำแต่ละคน ส่วนใหญ่สวยๆ ทั้งนั้น

ฟีดแบ๊กจากลูกค้าที่ได้รับ

ต้องเข้าใจด้วยว่าไม่ใช่ทำวันนี้พรุ่งนี้คุณจะสวยเลยนะ ต้องบวมบ้างเพราะคุณโดนมีดหมอนะ บางคนอาจจะใจร้อน เราก็ได้แต่บอกว่า ต้องรอเวลานะคะ สุดท้ายก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไรเลยนะ สวยจัง กลับไปทำใหม่ (มีเคสที่เหนื่อยใจไหม?) แรกๆ ที่ทำเราก็มือใหม่ด้วย ไม่ค่อยได้เจอกับคนที่ทำศัลยกรรมมากเท่าไหร่แล้วตัวเกดเองก็ไม่ได้ทำ ไม่เคยทำนอกจากตาเล็กๆ นี้ซึ่งบางคนที่เขาทำเยอะๆ แล้วเขาบวมจนพูดแปลกๆ ปากจะเบี้ยวหรือเปล่า ปากโย่วไป ทั้งหมดทั้งมวลที่เขากังวล เราก็กังวลไปด้วย แต่จริงๆ การทำศัลยกรรมเป็นการตัดสินใจของลูกค้า ก่อนที่คุณจะไปทำนั่นหมายความว่าคุณคิดและตัดสินใจมาดีแล้ว บริษัทเราแค่ติดต่อประสานงานเท่านั้น แต่ที่เกดไปด้วย เพราะเกดอยากไปเที่ยว เกดเป็นคนที่ชอบเกาหลีมากเลยนะ อาหารอร่อย ไปก็กินๆ คือเริ่มเลยเคยไปเกาหลีตอนเด็กๆ ไปเที่ยวแล้วไปกับทัวร์ อาหารทัวร์ไม่ค่อยอร่อย เราก็จะอี๋เกาหลีเหรออาหารไม่อร่อยเลยไม่ชอบ กลับมากินที่เมืองไทย เฮ้ย ทำไมที่เมืองไทยอร่อยอ่ะ หรือว่าเป็นรสชาติคนไทย พอมีเพื่อนเกาหลีแล้วไปและได้กินกับเพื่อนเฮ้ย!อร่อยทุกอย่างเลย เนื้อย่าง เป็นคนชอบกินเนื้อด้วย อร่อยสุดๆ ตระเวนกินเลย ยิ่งมาทำทัวร์ยิ่งได้ตระเวนกินทุกร้านเลยคราวนี้ ครั้งไหนที่ได้ไปสัก 10 วัน โอ้โห พระเจ้าสุดยอด กลับมาเป็นหมูเลยเคยนะกลับมาน้ำหนักขึ้น 4-5 โลก็มี

การทำทัวร์สนุกอย่างไร

เกดเป็นคนชอบเที่ยว ซึ่งจริงๆ ทัวร์ศัลยกรรมของเราจริงๆ คนที่ไปทำศัลยกรรมเราก็มีคนที่โน่นคอยรับได้นะ แต่เกดขอไปด้วย แล้วตังค์ก็จะหมดกับการที่เราไปเที่ยวนี่แหละ ไปกับเขาเกือบทุกทริป อยากไปเที่ยวเอง ขอฉันไปด้วยเถอะนะ เป็นงานที่สนุกนะ เพราะเกดได้เที่ยว (หัวเราะ) ได้ความรู้เกี่ยวกับการทำความสุขว่า สมัยนี้คนเราจะเปลี่ยนแปลงร่างกายได้โอ้โห อัจฉริยะมากๆ เปลี่ยนจากอีกคนหนึ่งเป็นอีกคนหนึ่งได้เลย ส่วนถ้าใครสนใจทัวร์ศัลยกรรมทำสวยที่เกาหลีก็ติดต่อเกดได้ค่ะ ไลน์มาที่ Kate.tyd เน้นเรื่องศัลยกรรมเลยค่ะ เรื่องหินก็ได้นะคะ เกดว่างงาน (หัวเราะ)

แล้วถ้าจะไปเที่ยวกับทัวร์

คนที่ไม่ชอบไปเอง แล้วก็ไม่เคยไปเที่ยวเมืองนอกมาก่อนเลยไม่เคยไปสถานที่นั้น ต้องการคนแนะนำ เราก็จะสบายเลยไม่ต้องหาอาหารหรือจัดการอะไรเลยแค่จ่ายตังค์ไปแล้วก็เดินทาง อย่างตัวเกดเองก็เที่ยวทัวร์มาค่อนข้างเยอะ แต่ก็มีเที่ยวเองด้วย แล้วก็จะเน้นช็อปปิ้ง กิน อยู่แค่นี้จริงๆ สถานที่ต่างๆ ก็ดูบ้าง อย่างเกาหลี วัด วัง ก็ดูหมดแล้ว ที่ไปก็แค่ช็อปปิ้ง กิน

ชีวิตคู่ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างคะแต่งงานเรียบร้อยแล้ว?

ยังๆ ค่ะ คบกันเหมือนเดิม ยังไม่ได้แต่งก็อยู่เหมือนเดิมไม่มีอะไรคืบหน้าเลย นิ่งมาก อยู่กันไป(แล้ววางแผนอะไรไหม) เคยมีวางไว้ แต่ตอนนี้เลิกวางไปล่ะค่ะ ก็มีช่วงหนึ่งที่เคยจะแต่งงาน วางแผนไปดูฤกษ์ได้แล้ว แต่เกิดปัญหานู่นนี่นั่น บ้านที่ทำก็มีปัญหา อะไรหลายๆ อย่างที่ยังแต่งไม่ได้ ยอมรับว่าช่วงนั้นได้ฤกษ์มาจริงๆ แต่ก็ยังไม่ได้แต่ง ตอนนี้เลยปล่อยยาวไปเลยตามอิสรภาพ แต่ก็ยังคบกันเหมือนเดิมค่ะ งานในวงการก็ไม่ได้ลาขาดไปไหน มีอะไรก็ติดต่อมาได้ค่ะถ้าผู้ใหญ่เห็นบทไหนดีสำหรับเกด เกดไม่ซีเรียสนะเกดเคารพกับทุกๆ บท เพราะแต่ละตัวละครเขาก็มีความสำคัญของเขาอยู่แล้ว

ได้ประสบการณ์จากวงการบันเทิงไปใช้ชีวิตยังไงบ้าง

ได้เรียนรู้ว่าตรงนี้เป็นอย่างไรบ้าง ได้รู้จักคนค่อนข้างเยอะ แล้วคนก็รู้จักเราด้วยไปไหนมาไหนคนก็จำเกดได้ก็ต้องขอบคุณมากๆ ที่ยังจำกันได้ถึงแม้ว่าบางคนจะทักเกดผิดบ้างเป็นคนอื่น ใช่พี่ธัญญ่าหรือเปล่า (หัวเราะ) สมมุติว่ามา 2 คน คนหนึ่งบอกว่าธัญญ่า อีกคนบอกว่า เกด-ธิญาดา ก็ยังดี ยังจำได้คนหนึ่ง (หัวเราะ)

ตอนนี้ถือว่าตัวเองประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง

เมื่อก่อนเกดก็คิดว่าเกดก็ประสบความสำเร็จแล้ว ตั้งแต่ช่วงเล่นละคร ไม่ว่าจะบ้าน รถ เราก็มีครบหมด ซึ่งเราก็ทำของเราได้เอง แต่พอเราอายุมากขึ้นก็อยากมีมากขึ้น เพราะเกดก็เป็นมนุษย์ ยังมีกิเลสเยอะอยู่ ฉันต้องทำให้ได้มากกว่านี้นะ จริงๆ ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วนะ แต่ก็ยังอยากมีเพิ่มขึ้น อยากไปต่ออยู่ ทำไปเรื่อยๆ มีอะไรให้ทำบ้าง อยากลองแค่นั้นเอง อย่างทัวร์ศัลยกรรมก็เป็นสิ่งที่อยากลองนะ จะเป็นยังไงเหรอ เราก็อยากทำให้คนสวยด้วยก็เลยทำ (อยากทำอะไรอีกไหม?) ตอนนี้ยังนะคะ เพราะก็ทำมาหมดแล้ว เปิดร้านกาแฟก็ทำมาแล้ว แต่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ (หัวเราะ)

ชอบตัวเองเวลาไหนที่สุด

เวลาได้ไปเที่ยว ไปกิน เป็นอะไรที่มีความสุขในโลกแล้วค่ะ จริงๆ เกาหลีถามว่าเบื่อไหมไปบ่อยมาก เที่ยวซ้ำซาก ใจหนึ่งก็เบื่อ อีกใจหนึ่งก็ชอบ ลึกๆ คือชอบ ความเบื่อก็เลยถูกกลบไปด้วยความสนุก ส่วนใหญ่ก็จะไปกับคุณแม่ ส่วนคุณแฟนไม่ได้ไปเลย

ในอนาคตวางแผนชีวิตตัวเองต่อไปยังไงบ้าง

ไปเรื่อยๆ ทำตรงนี้ให้ดีที่สุด อย่างตอนนี้ทำทัวร์ท่องเที่ยว ทำทัวร์ศัลยกรรมอยู่ ก็ทำไปเรื่อยๆ ละครก็มีโอกาสกลับเข้ามาเล่นแล้วก็เล่นไป

คติในการใช้ชีวิต

ไม่ต้องคิดอะไรมาก ถ้าคิดมากแก่เร็ว (หัวเราะ)ห้ามคิดมาก ทำวันนี้ให้ดีที่สุด แล้วทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่าวันนี้สนุกกับชีวิต เกดเป็นคนไม่คิดมาก ไม่มีอะไรที่เราจะทำใหม่ไม่ได้ อะไรที่ไม่ดีก็ปล่อยๆ ไป

มุมมองกับ Rising Star ยุคนี้

เกดมองว่าคนขึ้นแล้วก็ลงเร็วเยอะนะสมัยนี้ แต่ก็เป็นไปตามวิวัฒนาการมากกว่า ถ้าใครมีโอกาสได้เข้ามาทำงานตรงนี้ก็ถือว่าเป็นความโชคดีของเขา ตัวเกดเองก็ถือว่าเป็นความโชคดีเหมือนกัน ที่ได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เพราะว่าก็เป็นโอกาสที่หลายๆ คนอยากจะเข้ามาทำ ซึ่งเราเคยได้มีโอกาสนั้น ถ้าใครมีโอกาสได้ทำแล้วรักในงานนี้ก็ทำไปเถอะค่ะ ถึงแม้ว่าคุณจะอยู่ได้นานหรือไม่นาน นั่นคือโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตถ้าไม่กล้าก็ไม่มีวันเดินหน้า ลองผิดลองถูกดูเถอะค่ะ อย่างน้อยชีวิตนี้ก็มีวันให้เริ่มต้นใหม่เสมอ ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ

กระแตน้อย