เกริ่นกันสักนิด ก่อนจับเข่าคุยกับ 9 ชีวิต บุคคลในตำนานของวงการเพลงไทย สมาชิกวง “แกรนด์เอ็กซ์” ที่กลับมารวมตัวกันครั้งใหม่ หลังห่างหายกันไปร่วม 14 ปี
วงแกรนด์เอ็กซ์ เป็นกลุ่มศิลปินที่ประสบความสำเร็จสูงสุดและยาวนานที่สุดวงหนึ่งของประเทศ สามารถสร้างประวัติศาสตร์ การจำหน่าย เทปคาสเซ็ทแบบถล่มทลายมากกว่าหนึ่งล้านตลับเป็นครั้งแรก ในอัลบั้ม ลูกทุ่งดิสโก้ (ปี2522) และอีกหนึ่งล้านห้าแสนตลับในอัลบั้ม แกนด์เอ็กซ์ โอ (ปี 2524) พวกเขาโด่งดังยาวนานเป็นที่รักของแฟนเพลงทุกวัยอย่างต่อเนื่อง ผลงานเพลงทั้งหมดยังทรงคุณค่าอยู่ในความทรงจำ และหลายเพลงถูกนำไปเรียบเรียงและขับร้องใหม่หลายต่อหลายครั้ง
40 กว่าปีที่แล้ว วงดนตรีแกรนด์เอ็กซ์ ฉีกรูปแบบในการนำเสนอของศิลปินในยุคนั้น ด้วยภาพลักษณ์ที่สุภาพเรียบร้อย ประกอบกับฝีมือการเล่นดนตรีที่เฉียบขาดดุดัน ทำให้พวกเขาได้รับการยอมรับจากประชาชนทุกเพศทุกวัยตั้งแต่ผู้ใหญ่จนถึงวัยรุ่น นอกจากภาพลักษณ์ที่ดีงามแล้ว แกรนด์เอ็กซ์ยังเป็นวงที่มีการวางแผนงานอย่างเป็นระบบ และริเริ่มทำสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ ใส่ความทันสมัยของเครื่องดนตรี และเทคโนโลยีใหม่ๆ จัดกิจกรรมทางดนตรีอย่างมีรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น คอนเสิร์ต แฟนมีตติ้ง คอนเสิร์ตเปิดอัลบั้ม ซึ่งสามารถจำหน่ายบัตรได้อย่างถล่มทลาย และหลายคอนเสิร์ตที่สถานที่จัดงานถึงกับไม่สามารถรองรับแฟนเพลงจำนวนมหาศาลได้
“แจ้” ดนุพล แก้วกาญจน์ เล่าว่า “สมัยนั้นแกรนด์เอ็กซ์ไปเล่นที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์ จนหลังๆ ครูบาอาจารย์ไม่ให้ไปแล้วครับ เพราะหอประชุมพัง (หัวเราะ) ที่สร้างใหม่มา ยังพูดถึงกันเลยว่าเคยพังเพราะวงแกรนด์เอ็กซ์ แต่ไม่ได้ตีกันนะครับ แฟนเพลงแกรนด์เอ็กซ์ไม่เคยมีตีกัน แต่คนดูแย่งกันจะดู เบียดกันจนกระจกแตก เพราะหอประชุมเขาไม่ได้สร้างมาเพื่อรับปริมาณคนมากมายขนาดนี้โรงหนังเอเชียก็พัง รายการโลกดนตรีต้องย้ายจากอัดในห้องส่ง ออกมาจัดข้างนอกก็เพราะแกรนด์เอ็กซ์ไปเล่น คนเบียดกันจนล้น กล้อง ประตูจะพัง เลยต้องย้ายออกมา ย้ายมาแล้วคนก็ดูเยอะ จนเลยไปถึงเกาะกลางถนน ปีนต้นไม้ดูก็มี เวลามีคอนเสิร์ต แฟนๆ จะมารอซื้อบัตรกันล่วงหน้า มากางมุ้งนอนก็มี ที่มีข่าวคนไปนอนรอซื้อบัตรเกาหลีสมัยนี้ สมัยก่อนพ่อ-แม่เขาก็เป็นมาก่อนนะ(หัวเราะ) แล้วเราก็เคยขับรถไปแอบดูช่วงที่แฟนๆไปนอนรอซื้อตั๋วด้วย เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ปลอดภัยกัน”
แกรนด์เอ็กซ์ เป็นวงแรกและวงเดียวที่มีสื่อเป็นของตัวเอง ตั้งแต่ นิตยสารชื่อ IQ ที่คอยอัพเดทเรื่องราวต่างๆ ของวงให้กับแฟนเพลงได้ติดตาม มีรายการวิทยุเป็นของตัวเอง และยังมีโฆษกประจำวง
นอกจากนี้ วงแกรนด์เอ็กซ์ ยังเป็นวงแรกที่มีการตั้งกลุ่มแฟนคลับ และมีการดูแลจัดการอย่างเป็นระบบ โดยกลุ่มแฟนคลับจะเรียกตัวเองว่า “สายเลือดแกรนด์เอ็กซ์” หรือ Grand Ex’s Family และทุกคนมีบัตรประจำตัวสมาชิก นอกเหนือจากนั้น แฟนคลับทุกคนเสมือนคนในครอบครัว
“ต้อง” นคร เวชสุภาพร กล่าวว่า “ถ้าถามว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้วงแกรนด์เอ็กซ์กับแฟนๆ ผูกพันกัน ผมว่าหนึ่งเลยคือผลงาน
ที่ทำให้คนไม่ลืมเรา และคนรุ่นใหม่ๆ ก็หันมาศึกษาเพลงของเราด้วย สองคือปัจจุบันนี้ไม่ใช่เรื่องของรูปร่างหน้าตา อายุสรีระแล้ว แต่เป็นเรื่องของความศรัทธา เหมือนเราไปดูศิลปินเก่าๆ เราไม่ได้ไปดูว่าเขาแตกต่างจากเดิมไปแค่ไหน แต่เราไปดูเพราะเรารักเขา เราชื่นชมผลงานของเขาที่สำคัญคือแฟนๆ เขาจำได้ว่าสมัยเด็กๆ พวกเราเคยสอนอะไรเขาไว้ ให้เขาตั้งใจเรียน ให้เขาเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อ-แม่ ไม่ต้องเอาดอกไม้มาให้ที่หน้าเวที ไม่ต้องมากอดจูบพวกเรา อะไรต่างๆ เรานี้ ทำให้ครอบครัวและผู้ปกครองของแฟนเพลงของเราให้การต้อนรับและไว้วางใจ จนกระทั่งเขาจบมหา’ลัย ไปเรียนนอกกลับมา เราผูกพันกับแฟนเพลงแบบนี้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องเล่นคอนเสิร์ต แค่ไปเจอเราที่ไหนเขาก็ดีใจครับ หลายคนที่เข้ามาหาเราแล้วบอกว่า เขาเป็นตัวเป็นตนก็เพราะแกรนด์เอ็กซ์ นี่คือหนึ่งในจำนวนนิดเดียว หรือบางคนบอกทุกเย็นต้องกลับมาฟังวิทยุ ให้เราสอนเขา นอกจากฟังเพลงเพราะๆ เราก็แทรกคำสอนให้เขา หนังสือ IQ เอามาดูได้เลยครับ ในนั้นมีแต่เรื่องสอนใจคนทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ทำให้แฟนคลับกับเราเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน”
ผลงานที่ส่งให้วงแกรนด์เอ็กซ์ โด่งดังเป็นพลุแตกคือ ชุด “ลูกทุ่งดิสโก้ 1” จากนั้นในปีต่อมา หลังการเข้ามาร่วมวงของ “แจ้”
ดนุพล แก้วกาญจน์ วงก็เข้าสู่ยุคฮอตฮิตติดลมบน โดยมีผลงานชุดที่ 4 อัลบั้ม “เขิน” ออกมาฉีกแนว สร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นในวงการเพลง ตามมาด้วย อัลบั้ม “ผู้หญิง” (มี.ค. 2524) ที่มีเพลงเพื่อชีวิตอย่าง “แม่ใจร้าย” และเพลง “หัวใจมีปีก” ที่สร้างชื่ออย่างมากให้กับแจ้ ก่อนจะปล่อย “บันทึกการแสดงสดที่หอประชุมจุฬาฯ” ตามมาเป็นอัลบั้มชุดที่ 6 ในปี 2524 ในปีเดียวกันนั้น อัลบั้ม “แกรนด์เอ็กซ์โอ” ออกมาที่สร้างความแปลกใหม่ให้วงการเพลงไทยอีกครั้ง เมื่อนำเพลงลูกกรุงอมตะเก่าๆ มาเล่นและร้องใหม่ในสไตล์ของพวกเขา อัลบั้มนี้สร้างยอดขายเทปคาสเซ็ทถล่มทลายมากกว่า 1 ล้าน 5 แสนตลับ นับเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของวง
“ที่มาของชื่อ “แกรนด์เอ็กซ์” คือ “Grand” ที่แปลว่ายิ่งใหญ่ และ Ex ซึ่งมาจาก “Experience” ที่หมายถึงฝีมือและประสบการณ์ครับ” ต้อง-นคร กล่าว
จากนั้นผลงานเพลงของพวกเขาถูกปล่อยออกมาอย่างต่อเนื่อง อัลบั้มชุดที่ 8 “บุพเพสันนิวาส”, อัลบั้มที่ 9 “นิจนิรันดร์” และอัลบั้มที่ 10 “พรหมลิขิต” ที่มี “อ๊อด” ศรายุทธ สุปัญโญ มาเสริมความแกร่งของวง ผลงานเพลงอัลบั้มนี้จึงเจือไปด้วยกลิ่นความเป็นฟิวชั่นแจ๊ซ (ตามสไตล์ถนัดของอ๊อด) พร้อมกับการเรียบเรียงดนตรีที่สวยงามละเมียดละไมนับเป็นการเดินเข้าสู่สีสันใหม่ทางดนตรีของวงแกรนด์เอ็กซ์
ต้อง-นคร เล่าว่า “เราละเอียดถึงขนาด ภายในวงมีระเบียบเป็นข้อๆ เลยนะครับ พิมพ์เป็นระเบียบแจกทุกคนในวงว่าต้องประพฤติตัวยังไง ซึ่งไม่เกี่ยวกับเล่นดนตรีนะครับ ว่ากันแต่เรื่องความประพฤติว่าจะต้องเป็นตัวอย่างให้กับน้องๆ ยังไงบ้าง เพื่อจะเตือนทุกคนว่าถ้าเราทำอย่างนั้นได้ เราก็จะเป็นศิลปินในใจเขาตลอดไป”
แจ้-ดนุพล เสริมว่า “แกรนด์เอ็กซ์มีผู้จัดการวงครับ แล้วผู้จัดการก็มีสิทธิ์เต็มที่ รักษาผลประโยชน์ของวง ให้วงมีภาพลักษณ์ที่ดีที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องยอมเสียสละ บางข้อคนในวงอาจจะไม่ชอบ เพราะความเป็นศิลปินมักจะรักอิสระ อยากไว้ผมยาว อยากพูดอะไรก็พูด แต่ว่าเราเป็นองค์กรที่มีเป้าหมาย อยากเดินไปในทางเดียวกัน ก็ต้องยอมรับข้อตกลงร่วมกัน”
ต้อง-นคร “เราเคยถึงขนาด มีแฟนคลับจะฆ่าตัวตาย เราไปหาเขาถึงที่บ้าน เพื่อพูดให้เขายอมล้มเลิกความคิด สอนเขา ให้แง่คิดในการดำรงชีวิต ทุกวันนี้เขายังมีตัวตนอยู่ คือทุกคนในวงมีหน้าที่ตรงนี้ แล้วแต่ว่าใครจะเจอสถานการณ์แบบไหน เพราะฉะนั้นเรามากกว่าแฟนคลับศิลปิน คนที่ชื่นชอบเราถึงใช้คำว่าเป็น สายเลือดแกรนด์เอ็กซ์”
การเข้ามาของ อ๊อด-ศรายุทธ ได้ชื่อว่าเป็น ยุคสุดยอดของวงแกรนด์เอ็กซ์ เป็นความลงตัวในเรื่องฝีมือการทำงานเพลง ของศิลปินฝีมือฉกาจ ทั้ง 9 คน คือ ต้อง-นคร เวชสุภาพร (กีตาร์/หัวหน้าวง), แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์(ร้องนำ), เบิ้ม-ประสิทธิ์ ไชยะโท (กลอง), ตี๋-วสันต์ สิริสุขพิสัย (คีย์บอร์ด), แดง-เสน่ห์ ศุภรัตน์ (ทรัมเป็ต), แอ๊ด-ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ (เบส), รัก-พนัส หิรัญกสิ (แซ็กโซโฟน), เต๊ะ-โชคดี พักภู่ (ทรอมโบน) และ อ๊อด-ศรายุทธ สุปัญโญ (คีย์บอร์ด/ ซินธิไซเซอร์) ซึ่งทุกคนสามารถร้องเพลงได้ และแต่ละคนมีเพลงประจำตัว
ในหนึ่งอัลบั้มจะต้องมี 1 เพลงเพื่อสังคม
แจ้-ดนุพล “การแต่งเพลงของเราเริ่มจากนโยบายก่อนครับ เราต้องซื้อใจเด็กวัยรุ่น รุ่นเดียวกับเรา แล้วก็วางแผนกันว่าจะให้เพลงเราซึมซับเข้าไปในบ้านยังไง ให้พี่ป้าน้าอาเริ่มชอบ”
ต้อง-นคร “10 เพลงในแต่ละอัลบั้ม แกรนด์เอ็กซ์จะขอไว้เพลงหนึ่ง เป็นเพลงสร้างสรรค์ไว้ให้พ่อ-แม่สั่งสอนเด็ก อย่างเช่นเพลง อย่าหย่า, เดียวดาย, แม่ใจร้าย ถามว่าเป็นการตลาดไหม ก็เป็นการตลาด แต่เราคิดไว้แล้วว่าเป็นสิ่งที่อยากคืนให้กับสังคม เรามีโอกาส เพราะเรามีแฟนเพลง ถ้าเราไม่มีแฟนเพลงเราคงทำไม่ได้ คนฟังไม่เพราะ ไม่เป็นอะไร แต่อย่างน้อยเราได้สอนคน”
แจ้-ดนุพล “เพราะบางทีเด็กวัยรุ่นเขาเชื่อฟังเรามากกว่าเชื่อฟังพ่อ-แม่ เขารักเขาหลงใหล ยิ่งเขามั่นใจว่าเราชักจูงเขาไปในทางที่ดี เราก็อาศัยโอกาสตรงนี้ช่วยพ่อ-แม่เขาทางอ้อม เราไม่ได้ไปดุไปว่า แต่เรามีวิธีการสอนที่ทำให้เขาไม่เบื่อ”
อัลบั้ม “เพชร” ในปี 2526 คือผลงานที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดของวง และเป็นเพชรแห่งวงการเพลงไทยที่ยังคงความคลาสสิกมาจนทุกวันนี้ โดยพวกเขาทำเพลงเอง แต่งเพลงเอง และมีบทเพลงเป็นตำนานมากมาย ตามด้วยอัลบั้ม “บริสุทธิ์” อีกหนึ่งผลงานของแกรนด์เอ็กซ์ ซึ่งที่มาของชื่ออัลบั้มนี้ มาจากการเกิดของหนูน้อย โต๋-ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร (ลูกชาย ต้อง-นคร) หลังจากอัลบั้มที่ 14 “ดวงเดือน” จึงเริ่มมีการแยกตัวของสมาชิกในวง แต่ผลงานเพลงของวงแกรนด์เอ็กซ์ยังไม่หายไปไหน และมีบทเพลงใหม่ๆเกิดขึ้นอีกมากมาย รวมถึงมีสมาชิกใหม่อย่าง โอ๋-ไอศูรย์ วาทยานนท์, จอนนี่ แอนโฟเน่, เอ-อริชัย อรัญนารถ และ ไก่-สุธี แสงเสรีชน เข้ามาเสริมทีม
พ.ศ.2545 วงแกรนด์เอ็กซ์จัดคอนเสิร์ตใหญ่ “Grand Exhibition” ที่อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี และจากครั้งนั้นก็ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในรอบ 14 ปี เพื่อจัดคอนเสิร์ต “แกรนด์ เอ็กซ์ แกรนด์ คอนเสิร์ต” ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 มิถุนายน 2559 ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี
จุดเริ่มต้นของคอนเสิร์ตครั้งนี้?
ต้อง-นคร : ก่อนหน้านี้ผมพบกับทางบีอีซีเทโรอยู่บ่อยๆ ครับ เพราะว่า โต๋ ลูกชายผมเป็นศิลปินสังกัดค่ายนี้ แล้วประมาณปีที่แล้วก็คุยกันว่าทำคอนเสิร์ตรวมแกรนด์เอ็กซ์ไหมเขาก็ถามผมว่าพี่เอาจริงรึเปล่า แน่ใจว่ารวมได้เหรอ เราก็บอกทำไมจะไม่ได้ พอเขาเอาจริงคุณไบรอันยืนยันว่าอยากทำจริงๆ ผมก็เลยไปปรึกษาแจ้ จริงๆ มีคนติดต่อมาเยอะนะครับ แต่พอดีเราเห็นการทำงานของที่นี่มาเยอะ การทำงานเขาอินเตอร์ และก็กล้าที่จะลงทุน ไม่ใช่เอาแต่กำไรอย่างเดียว เพราะเรื่องแสงสีเสียงเป็นส่วนที่สำคัญมาก เราต้องคุยกันรู้เรื่องก่อน ไม่ใช่อยากจะจัดอย่างเดียว แต่อย่างอื่นไม่ยอมลงทุน แล้วต้องมานั่งลำบากใจกัน ก็เลยส่งให้แจ้คุยต่อครับ เพราะรู้ว่าแจ้เขามีโครงการทำอัลบั้มเดี่ยว และคอนเสิร์ตเดี่ยวส่วนตัวอยู่ด้วย”
แจ้-ดนุพล : พอได้คุยกัน เราก็คิดว่าของเรามันออกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้มาบ่อยๆ เลยขอทำคอนเสิร์ตรวมตัวแกรนด์เอ็กซ์ก่อนครับ
กระแสตอบรับของการรวมตัวกันอีกครั้ง?
ต้อง-นคร “บัตรจะเปิดขายวันแรก 30 เมษายนนี้ ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ แต่ผมว่าถึงบัตรยังไม่เปิดขาย ตอนนี้ก็เต็มทุกที่นั่งแล้วครับ เพราะคนจ้องจะซื้อกันเยอะมาก บัตรอาจจะไม่พอด้วยซ้ำ แค่เราประกาศไปว่าจะมีคอนเสิร์ตคนอินบ๊อกซ์เข้ามาที่บีอีซีเทโรกันเยอะมาก แต่ที่เราเปิดรอบเดียว เพราะเราอยากให้ความพิเศษกับคนที่ซื้อบัตรจริงๆ เป็นลิมิเต็ดอิดิชั่น แต่ถ้าอยากดูจริงๆ ตามไปดูที่ต่างจังหวัดได้ครับ เปลี่ยนบรรยากาศกันครับ”
คิวคอนเสิร์ตในภูมิภาคต่างๆ เริ่มที่ หาดใหญ่ เสาร์ที่ 13 สิงหาคม ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ / เชียงใหม่ เสาร์ที่
27 สิงหาคม ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และ ขอนแก่น เสาร์ที่ 24 กันยายน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น
ถูกยกไปเปรียบเทียบกับวงดิ อิมพอสซิเบิ้ล?
แจ้-ดนุพล “ พี่ต้อย-เศรษฐา วงดิ อิมพอสซิเบิ้ล ถือเป็นอาจารย์ เป็นไอดอลของพวกเราครับ อิมพอสซิเบิ้ลเป็นเหมือนผู้ที่เปลี่ยนแปลงดนตรี จากลูกกรุงมาเป็นรูปแบบของดนตรียุคใหม่ มีฮัมโมนี่ มีการเรียบเรียงเสียงประสาน ใช้ความเป็นสากลเข้ามาล้างหูคนไทย ใช้ศัพท์ว่า “สตริงคอมโบ้” เพียงแต่ว่าวงอิมพอสซิเบิ้ลเป็นอาจารย์ที่เขียนตำราไว้ยังไม่จบ แกรนด์เอ็กซ์เป็นแมสโปรดัก คือสามารถทำสิ่งเราเหล่านั้นให้เป็นจริง กระจายไปถึงคนทั้งประเทศได้ โดยการขายเทปคาสเซ็ทเล่นคอนเสิร์ต มีแอคทิวิตี้ต่างๆ นานาที่ทำให้สังคมการฟังเพลงของคนไทยเปลี่ยนใหม่ เลิกฟังเพลงสากลเพลงฝรั่ง หันกลับมาฟังเพลงไทย”
จะมีอัลบั้มใหม่ของวงแกรนด์เอ็กซ์ไหม?
แจ้-ดนุพล “เรายังไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลยครับ อยากให้คอนเสิร์ตนี้สำเร็จลุล่วงก่อน แล้วเราสามารถสร้างความสุขให้แฟนเพลง
หมื่นกว่าท่านแฮปปี้กลับบ้านไป นั่นคือความสุข หลังจากนั้นค่อยมาดูกันครับ ผมว่าคำตอบมีอยู่ในอากาศอยู่แล้ว แต่ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับว่าทุกคนจะต้องมีไฟที่อยากจะทำ”
ต้อง-นคร “หลังคอนเสิร์ตนี้ ทุกคนจะได้ประสบการณ์ใหม่มา เราก็จะรู้แล้วว่าหลังจากนี้ เราควรจะหยุด เลิกเล่นดีกว่า หรือเราเห็นอะไรบางอย่างที่แฟนเพลงตอบรับมา ก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์จากแฟนเพลงครับ เพราะการทำใหม่ ไม่ใช่ของง่าย ของเก่าๆ เราก็ทำไว้ดีแล้วจะทำให้ดีไปกว่าเดิม ค่อนข้างยาก”
อ๊อด-ศรายุทธ “แค่เพลงเก่าๆ ที่มีก็เลือกไม่ถูกแล้วครับ คิดมาหลายเดือนว่าจะเอาเพลงไหนมาเล่นในคอนเสิร์ตนี้บ้าง เอาเข้าเอาออก เพื่อจะให้สมบูรณ์ที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ ลำบากที่สุดตอนนี้คือการคัดเพลง เพราะจาก 100% เหลือ 20% ไม่ใช่เรื่องง่าย ก็ต้องอ่านใจผู้ฟัง แล้วก็ดูความลงตัวเหมาะสมกับสภาวะปัจจุบันด้วยครับ”
ระยะเวลาของคอนเสิร์ต?
ต้อง-นคร “เราเล่น 2 ชั่วโมง 15 นาที ครับ แต่ละคนนี่แข็งแรงมากครับ จริงๆ อาจจะยาวกว่านั้นก็ได้ ผมว่าเป็นเวลาที่กำลังดี การดูคอนเสิร์ต 2 ชั่วโมง ผมว่าอิ่มพอดีๆ ไม่แน่นเกินไป คือเราน่ะไหวอยู่แล้วครับ แต่ต้องถามคนดูว่าเขาไหวไหม (หัวเราะ) เพราะคนดูผู้ใหญ่เขาต้องเข้าห้องน้ำ ทำธุระกัน แต่เราน่ะยิ่งเล่นยิ่งมันส์ครับ บนเวทียิ่งเล่นยิ่งสนุก สมมุติว่ากำลังเราเล่นได้ 100 ถ้าขึ้นเวทีจริงๆ จะได้ถึง 150 นี่คือความสนุก ยิ่งถ้าคนดูสนุกด้วยโอ้โห..ถึงไหนถึงกัน แต่ครั้งที่แล้ว ที่อิมแพคฯ เราทรมานคนเกินไป เล่นไปเกือบ 4 ชม.เราเข็ด เพราะบางคนบอกสนุกแต่มันยาวไปไม่ไหว เที่ยวนี้ก็เลยไม่อยากให้เกินกำลังของคนที่มาดูครับ เพราะไม่อย่างนั้นบางคนเขาต้องพลาดบางเพลงไป เพราะเขาดูไม่ไหว มันก็ไม่ยุติธรรมกับเขา เราเลยอยากให้ส่วนรวมได้เต็มที่ พอดีๆ ครับ เหมือนเราทานเยอะเกินไปก็จะเลี่ยนจริงไหมครับ”
แขกรับเชิญ?
แอ๊ด-ทนงศักดิ์ “คอนเสิร์ตเราระบุเลยว่าเป็นแกรนด์เอ็กซ์ เพราะฉะนั้นทุกคนที่มาก็อยากเห็นเรา 9 คนบนเวที แฟนคลับที่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะจริงๆ เราก็มีเพื่อนๆ ในวงการที่อยากจะมาร่วมเป็น Guest แต่สุดท้ายแฟนคลับเขาก็บอกว่าอยากดูแกรนด์เอ็กซ์ เหมือนเราอยากดูอีเกิลส์ เราก็อยากดูอีเกิลส์ให้เต็มอิ่ม พวกแฟนคลับเขาก็มีความคิดคล้ายๆ กับพวกเรา”
แจ้-ดนุพล “Guest ในคอนเสิร์ตนี้อาจจะมีมา 1 ท่านครับ แต่เรายังไม่ได้เลือกเลยครับว่าจะเป็นใคร ไม่ใช่ไม่บอกนะ แต่ยังไม่ทราบเลยครับว่าจะเป็นใครดี (มีเสียงแซวว่า : อาจจะเป็น ไมเคิล แจ๊คสัน) ชวนเขาแล้ว ไมเคิล แจ๊คสันเขาบอกไม่มา(หัวเราะ)”
ส่วนหนึ่งของตำนานผู้ปฏิวัติเพลงไทย มองเด็กรุ่นใหม่ในปัจจุบัน?
แจ้-ดนุพล “ส่วนตัวผม คิดว่าถึงเวลาที่ควรต้องปฏิวัติเพลงไทยอีกรอบ เพราะสมัยก่อนเพลงลูกกรุงฟังแล้วเรารู้ว่าเป็นเพลงไทย ฟังเพลงอินเดียถึงแม้จะแปลไม่ออก แต่เราฟังเราก็รู้แล้วว่านี่เพลงอินเดีย ฟังเพลงจีนทำนองมานิดหนึ่งเราก็รู้แล้วว่าเพลงจีน แต่ทุกวันนี้เราฟังเพลงไทย เราไม่รู้ว่าเพลงไทยหน้าตาเป็นยังไง ผมมองว่าเมโลดี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เรื่องทำนองสำคัญมาก เพราะสิ่งที่จะติดหูคนเป็นอย่างแรกคือทำนอง ก็ต้องฝากเด็กๆ รุ่นใหม่ เพราะเด็กสมัยนี้เก่ง แต่ไม่มีซิกเนเจอร์ ไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง”
รัก-พนัส “เด็กรุ่นใหม่บางคนทำภาษาไทยวิบัติ บางทีฟังแล้วอึดอัด แต่ถามว่าเพลงดังไหม ดังแต่มันดังแค่ 3 เดือน พอหมด 3 เดือนก็ไม่มีคนฟังแล้ว”
ไม่ใช่เรื่องง่ายกับการสร้างตำนาน และยากยิ่งกว่ากับการยื้อความนิยมให้นานที่สุด ตลอดระยะเวลา 40 กว่าปี ทำไมวงแกรนด์เอ็กซ์ถึงไม่เคยสะดุด? จากบทสัมภาษณ์นี้น่าจะฉุดให้หลายคนซึมซับได้ .. พวกเขาเป็นศิลปินผู้สร้างสรรค์ แม้บางครั้งต้องแลกกับความสุขส่วนตัวบ้าง ก็พร้อมที่จะทำเพื่อแฟนๆ !!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี