เมแกน ฟ็อกซ์ เผยไม่เคยอยากเป็นนักแสดง
ภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอ “Teenage Mutant Ninja Turtles : Out of the Shadows” กำลังเข้าฉายและได้รับความนิยมอย่างสูงแต่นางเอกสาว เมแกนฟ็อกซ์ กลับให้สัมภาษณ์อย่างน่าสนใจว่าเธอไม่เคยใฝ่ฝันอยากเป็นนักแสดงมาก่อน
ฟ็อกซ์กล่าวว่า “ฉันเองไม่ได้หลงใหลในการแสดงมากมายสักเท่าไร ฉันไม่เคยรู้สึกว่าถูกเติมเต็มเลยเวลาที่อยู่ในกองถ่าย หรือกำลังถ่ายทำภาพยนตร์อยู่ คือฉันก็สนุกมากนะคะในการถ่ายภาพยนตร์เหล่านั้น แต่มันไม่ได้สะท้อนออกมาถึงสิ่งที่ฉันเป็นจริงๆ ข้างในเลย”
อย่างไรก็ตาม นางเอกสาวกล่าวว่าเธอชอบมาในการถ่ายทำภาพยนตร์ที่ต้องใช้พละกำลังสูงอย่างนินจาเต่านี้“มันเป็นอะไรที่ต้องอาศัยความเป็นนักกีฬามากกว่าในกระบวนการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ มันต้องอาศัยอะดรีนาลีนมากกว่า มีอะไรที่ทำให้ต้องเสี่ยงมากกว่า มีความวุ่นวายกว่า ดังนั้นฉันเลยรู้สึกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นกว่า แล้วมันก็ยังเป็นภาพยนตร์ประเภทที่ฉันอยากจะชมมากกว่าด้วย เพราะว่ามันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่ในโลกที่มีพลังเหนือธรรมชาติ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ฉันใฝ่ฝันถึงอยู่แล้ว” ฟ็อกซ์กล่าว
‘เคลวิน แฮร์ริส’
ทวิตถึง ‘เทเลอร์ สวิฟท์’
ช็อกไปตามๆ กันเมื่อ เคลวิน แฮร์ริส และเทเลอร์ สวิฟท์ ออกมาประกาศเลิกร้างกัน ยุติความสัมพันธ์แสนหวานเมื่อเร็วๆ นี้โดยตอนนี้ฝ่ายชายได้อาศัยทวิตเตอร์บอกเล่าความในใจให้แฟนๆ ได้รับทราบ
เมื่ออาทิตย์ก่อน แฮร์ริสได้โพสต์ข้อความสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “ความจริงเพียงอย่างเดียวในตอนนี้คือ ความสัมพันธ์ได้สิ้นสุดลงแล้ว และสิ่งที่ยังเหลืออยู่อย่างมากมายคือความรัก และความเคารพ”
แฮร์ริส และสวิฟท์คบกันมาได้ราว 15 เดือน ก่อนออกมาประกาศว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองได้เดินทางมาถึงทางตัน โดยไม่ได้บอกเหตุผลแต่อย่างใด ก่อให้เกิดข่าวลือไปต่างๆ นานาถึงสาเหตุของการเลิกรากันของคู่รักที่เคยหวานคู่นี้
‘เซน มาลิค’ เลิกแล้ว ‘จีจี้ ฮาดิด’
เป็นอีกคู่ที่ต้องเลิกรากันทั้งที่ยังคบกันได้ไม่นาน มีข่าวว่าความรักของนักร้องหนุ่ม เซน มาลิค กับนางแบบสาว จีจี้ ฮาดิด ไปไม่รอดอีกราย หลังจากที่เริ่มเดทกันมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่แล้ว แต่ข่าววงในก็กล่าวว่า ทั้งสองอาจกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง
แหล่งข่าวกล่าวว่า “เซนและจีจี้เลิกกันแล้วก็จริง แต่ทั้งสองอาจจะกลับมาดีกันอีกก็ได้ ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทั้งสองคนในตอนนี้ หลังๆ ทั้งสองมีปัญหากันในเรื่องการสื่อสาร และการเข้ากันไม่ได้”
เมื่อเร็วๆ นี้ ฮาดิดเพิ่งมีข่าวว่าได้ฉลองวันเกิดกับครอบครัว และหวานใจ และถึงแม้ภาพจะออกมาดูดีมีความสุข แต่ก็มีคนลือว่าทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรง ซึ่งทั้งสองก็รักๆ เลิกๆ กันมาสักระยะหนึ่งแล้ว “จีจี้เสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น และก็อยากจะพยายามทำให้ทุกอย่างกลับมาดีเหมือนเดิม เรื่องของเรื่องน่าจะมาจากการที่เธอไม่สามารถติดต่อเซนได้บ่อยๆ เหมือนก่อน ทั้งๆ ที่ทั้งสองเคยใกล้ชิดกันมาก”
ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าฮาดิดและมาลิคใกล้ชิดกันมาก และทั้งสองเคยคิดที่จะลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่ โยลันดา มารดาของฝ่ายหญิงไม่ค่อยจะเห็นด้วยนักกับความคิดนี้“เซนรู้ว่าโยลันดามีความสำคัญมากต่อชีวิตของจีจี้ แต่เมื่อเขาได้ยินว่าเธอไม่อยากให้จีจี้หมั้นหมายอย่างน้อยก็หลังจากนี้อีก 1 ปี นั่นทำให้เขารู้สึกอยากจะถอย เขารู้สึกว่าเธอก้าวก่ายมากเกินไป...ส่วนจีจี้เองก็รู้สึกเจ็บปวดมาก เธออยากจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเซน และบอกให้โลกรู้ว่าทั้งสองจริงจังกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ แต่เธอก็เข้าใจว่าแม่ของเธอกังวลว่าเซนกำลังเร่งรัดทุกอย่างมากจนเกินไป”
ฮาดิดและมาลิคตกหลุมรักกันขณะถ่ายทำมิวสิกวีดีโอเพลง “Pillowtalk” ของฝ่ายชาย ซึ่งในตอนนั้น ฝ่ายหญิงเพิ่งเลิกรากับนักร้องหนุ่มโจ-โจนาส มาแค่อาทิตย์เดียว ส่วนฝ่ายชายนั้น ก่อนหน้านี้ก็เคยหมั้นกับนักร้องวง ลิตเติ้ล มิกซ์ อย่าง
เพอร์รี่ เอ็ดเวิร์ดส์
ตำรวจเผยสาเหตุการตายของ พรินซ์ เสพยาเกินขนาด
ในที่สุด สาเหตุการเสียชีวิตของนักร้องชื่อดัง พรินซ์ ก็ถูกเปิดเผยออกมาแล้วว่า เป็นเพราะเขาไม่สามารถจะควบคุมอาการติดยาได้ โดยในกรณีของพรินซ์นั้น เนื่องมาจากเขาได้เสพยาแก้ปวดที่มีส่วนผสมของฝิ่นเกินขนาด
เมื่อเร็วๆ นี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางได้ประกาศว่า การเสียชีวิตของนักร้องชื่อดังระดับตำนาน พรินซ์ นั้น มีผลมาจากการที่เขาเสพยาประเภทเพอร์โคเซ็ทมากจนเกินไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเขามีกำหนดที่จะต้องเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับการบำบัดอาการติดยาอยู่แล้ว
เมื่อต้นเดือนเมษายน พรินซ์ได้รับใบสั่งยาจากแพทย์ประจำตัว และหลังจากนั้นเพียงสัปดาห์เดียว ก็มีข่าวว่าเครื่องบินส่วนตัวของเขาต้องของลงจอดอย่างฉุกเฉิน เพื่อนำตัวพรินซ์ส่งโรงพยาบาล เนื่องจากเขาเกิดอาการป่วยอย่างเฉียบพลันอันเป็นผลข้างเคียงมาจากยาที่มีส่วนผสมของฝิ่น อย่างไรก็ตาม นักร้องหนุ่มยังคงได้รับใบสั่งยาแบบเดิม จากแพทย์คนเดิม ทำให้เขาเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แอมเบอร์ เฮิร์ด เผยข้อความยืนยัน
‘จอห์นนี่ เด็ปป์’ ทำร้ายร่างกาย
ท่าทางจะจบไม่สวยขึ้นเรื่อยๆ สำหรับข่าวการหย่าร้างของ จอห์นนี่ เด็ปป์ และ แอมเบอร์ เฮิร์ด เมื่อฝ่ายหญิงกล่าวหาว่าโดนอดีตสามีทำร้ายร่างกายมาโดยตลอดระยะเวลา 15 เดือน ที่แต่งงานกัน ล่าสุดดาราสาวได้แสดงหลักฐานเพื่อให้ศาลเห็นว่าเธอถูกเด็ปป์ทำร้ายมาก่อนหน้าที่ทั้งสองจะแต่งงานกันเสียอีก
มีข่าวว่า ดาราสาวขอคำสั่งศาลห้ามอดีตสามีเข้าใกล้ หลังจากที่เธอแจ้งความว่าเขาได้โยนโทรศัพท์ใส่เธอระหว่างการทะเลาะกันเมื่อสองวันก่อนที่เธอจะตัดสินใจขอหย่า หลังจากนั้น เฮิร์ดได้ให้ข่าวว่านี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ ครั้งที่เธอถูกทำร้าย ก่อนที่จะมีภาพหลุดเป็นข้อความที่ถูกอ้างว่าเป็นการสื่อสารกันระหว่าดาราสาวกับ สตีเวน ดิวเตอร์สผู้ช่วยของเด็ปป์ ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2014 ซึ่งข้อความส่อให้เห็นว่าพระเอกหนุ่มได้มีพฤติกรรมรุนแรงและทำร้ายร่างกายก่อนที่ทั้งสองจะแต่งงานกันในเดือนกุมภาพันธ์ 2015
ข้อความดังกล่าวเริ่มจากการที่ดิวเตอร์สส่งหาเฮิร์ดว่า “เมื่อผมบอกเขาว่าเขาเตะคุณ เขาก็ร้องไห้ มันน่ารังเกียจมาก และเขาก็ทราบดี” และเฮิร์ดก็พิมพ์ตอบว่า “เขาทำแบบนี้มาก่อนแล้วหลายครั้ง...โตเกียว ที่เกาะ ที่ลอนดอน (จำได้ไหม) และฉันก็ยังคงอยู่ ยังคงเชื่อว่าเขาจะดีขึ้น และจากนั้นทุกๆ 3 เดือน (เฮ้อ) ฉันก็ตกอยู่ในสภาพแบบนี้อีกเหมือนเดิม” ซึ่งข้อความยังคงดำเนินต่อไปในลักษณะที่เฮิร์ดไม่แน่ใจนักว่าเธอจะยังอยากจะสานความสัมพันธ์กับเด็ปป์ต่อ โดยเธอกล่าวทำนองว่าเธอรู้ดีว่าเด็ปป์ไม่รู้สึกตัวว่าเขาทำอะไรลงไป
ทางด้านพระเอกหนุ่มไม่ได้ออกมาตอบโต้ข่าวดังกล่าวแต่อย่างใด โดยตัวแทนของเด็ปป์กล่าวแต่เพียงว่าเฮิร์ดได้แต่เรื่องการทำร้ายร่างกายขึ้นเพื่อให้เกิดผลดีกับตัวเองต่อการฟ้องหย่าในครั้งนี้
Quote
ยิ้มเสมอ...แม้จะเป็นตอนที่ชีวิตของคุณแย่ที่สุด คุณไม่มีวันรู้หรอกว่าเมื่อไรคุณจะเจอคนที่ทำให้คุณใจหายไปเลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี