กลับมาอีกครั้งสำหรับแอ๊กชั่นสตาร์ขาเดือด “เจอร์ราด บัตเลอร์” ที่ครั้งนี้เตรียมปิดฉากไตรภาคภารกิจเสี่ยงตายปกป้องประธานาธิบดี สานต่อความมันส์บทสรุปวินาศกรรมหยุดโลกในหนังแอ๊กชั่นฟอร์มยักษ์สุดระห่ำแห่งปี “Angel Has Fallen ผ่ายุทธการ ดับแผนอหังการ์” ภาพยนตร์ภาคต่อของแฟรนไชส์หนังแอ๊กชั่นที่สร้างมาแล้วสองภาค  อย่าง Olympus Has Fallen (2013) และ London Has Fallen (2016) 2016 ที่เคยกวาดรายได้ไป 170 ล้านเหรียญ และ 205 ล้านเหรียญ ทั่วโลกตามลำดับ และกำลังจ่อคิวเข้าฉายบ้านเรา 22 สิงหาคมนี้  

สำหรับแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Has Fallen เป็นเรื่องราวของเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษของสหรัฐ “ไมค์ แบนนิ่ง”(เจอร์ราด บัตเลอร์) กับภารกิจการต่อสู้กับเหล่าผู้ก่อการร้ายที่หมายปองชีวิตของประธานาธิบดีของสหรัฐฯ (ใน Olympus Has Fallen) หรือผู้นำจากประเทศทั่วโลก (ใน London Has Fallen)แม้ว่ามันอาจจะดูเป็นภารกิจที่ใหญ่เกินสำหรับคนคนหนึ่ง แต่แบนนิ่งก็ยังคงสามารถปกป้องผู้คนเหล่านั้นได้ทุกครั้ง ทว่าสำหรับครั้งนี้ เป้าหมายสำคัญไม่ใช่ประธานาธิบดี ไม่ใช่ผู้นำของประเทศประเทศหนึ่ง และไม่ใช่ใครอื่นไกล… เพราะเป้าหมายต่อไปคือตัวเขาเอง เมื่อเขาถูกใส่ร้ายว่าเขาเป็นคนที่วางแผนลอบสังหารประธานาธิบดี (มอร์แกน ฟรีแมน) และโดนไล่ล่าจากกองกำลังทั่วทั้งประเทศ จนต้องไปขอความช่วยเหลือจาก เคลย์ แบนนิ่ง พ่อแท้ๆ ของเขา

โดยในภาคนี้  มอร์แกน ฟรีแมน ในบทของ อัลลัน ทรัมบูล จะเข้ามารับบทเป็นประธานาธิบดีต่อจาก อารอน เอคฮาร์ท ที่เคยรับบทเป็นประธานาธิบดีในภาค Olympus และ London “Angel Has Fallen” นับว่าเป็นภาคแรกของแฟรนไชส์ที่เป้าหมายของการไล่ล่าไม่ใช่ประธานาธิบดี แต่เป็นตัวเอกของเรื่องอย่างแบนนิ่ง เมื่อเขาตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุลอบสังหารประธานาธิบดี และต้องเผชิญกับการตามล่าจากหน่วยงาน ที่เขาสังกัด กลายเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของประเทศ ซึ่งดูมีความคล้ายคลึงกับบทของ “The Fugitive”ภาพยนตร์ที่เล่นโดย แฮร์ริสัน ฟอร์ด ในปี 1993 ที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 7 สาขาด้วยกัน  

“Angel Has Fallen ผ่ายุทธการ ดับแผนอหังการ์” 22 สิงหาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์