ถือเป็นหนุ่มหล่อลุดแบดบอยที่กำลังมาแรงสำหรับ “พร้อม-ราชภัทร วรสาร” ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ม.ขอนแก่น ล่าสุดกับบทบาทพระเอกหน้าใหม่ป้ายแดงในโปรเจกท์ “En of love รักวุ่นๆ ของหนุ่มวิศวะ” ตอน “เหนือพระราม”รับบทหนักต้องเล่นซีรี่ส์ Y ครั้งแรกในชีวิต ล่าสุด “ทีมข่าวบันเทิงแนวหน้า” เลยไม่รอช้าให้ “หนุ่มพร้อม” มาเปิดวาร์ปล้วงลึกข้อมูลชีวิตหนทางสู่วงการบันเทิงและเล่าถึงบทบาทการขึ้นแท่นพระเอกซีรี่ส์ Yหน้าใหม่ขวัญใจสาวๆ

จากเดือนคณะสู่วงการบันเทิง?

“เริ่มแรกเลยได้เป็นเดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเครื่องกล ม.ขอนแก่น เลยทำให้พอมีคนรู้จักในมหาวิทยาลัย พี่คนหนึ่งติดต่อมา ของบริษัทรุกกี้ (ไทยแลนด์) สนใจไปเล่นซีรี่ส์ดูไหม ผมเลยถามกลับไปว่าจริงเหรอ เพราะถือเป็นเรื่องแรกของผมเลยนะ ก็เลยอยากลองดูและอยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เลยเลือกที่จะเล่นเรื่องนี้ และที่เหลือเป็นโอกาสในอนาคตที่ต่อยอดงานในวงการไปนะครับ”

ผลงานเรื่องแรกเป็นอย่างไรบ้าง?

ในเรื่องรับบท “เหนือ” เป็นพระเอกเรื่องที่ 3 ของจักรวาล “En of love”โปรเจกท์นี้มี 3 เรื่องต่อกันผมเล่นเรื่องสุดท้ายคือ “เหนือพระราม” รู้สึกมีความสุขมาก หลังซีรี่ส์ได้ฉายให้แฟนๆ ได้ชมกันเพราะไม่คิดว่าจะดีขนาดนั้นตอนถ่ายคิดว่าตัวละครที่ได้ต้องหล่อเท่ ออกมาจริงๆขายขำมาก ในนิยาย เท่ๆแต่บางฉากผู้กำกับมองว่าขายขำดีกว่า พอออกมาก็ตลกดี จนแฟนคลับทวิตเตอร์มาแซวว่า ขายขำจนไม่เห็นความเป็นพระเอกในซีรี่ส์แล้ว ซึ่งผมก็มีความสุขแล้วที่เห็นแฟนๆ ยิ้ม

รู้สึกอย่างไรบ้างที่ผลงานชิ้นแรกได้มาเล่นซีรี่ส์เป็นครั้งแรก?

“รู้สึกดีใจครับ เพราะผมไม่เคยแสดงมาก่อน ยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง ต้องเล่นอย่างไง มีหลายๆ อย่างที่ต้องเรียนรู้ และลองทำ ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเอง อยากจะหลายๆ งานเป็นประสบการณ์ของตัวเองด้วย และพอทำงานทุกครั้งก็มีความสุขที่ได้ทำอะไรที่ไม่เคยได้ลองทำ”

ตื่นเต้นไหมที่ได้มาเป็นนักแสดง?

“ตื่นเต้นมากครับ ด้วยความที่เป็นเรื่องแรกของผม กลัวว่าจะทำออกมาดีไหมและคนดูจะชอบไหม เลยกดดันตัวเอง (มาก)ซึ่งผมก็ไม่คิดเหมือนกันว่าจะมาเป็นนักแสดงตอนนั้นคิดแค่ว่าพอเรียนจบก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป แต่พอมีโอกาสเข้ามาผมเลยอยากลองทำ เพราะโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีกับทุกคน ผมมองโอกาสเป็นสิ่งสำคัญที่ได้ลองเรียนรู้ ได้ลองทดสอบตัวเองว่าจะทำได้มากน้อยแค่ไหน”

คิดว่าจุดเด่นหรือเสน่ห์ตรงไหน ทำให้เราได้เข้ามาเป็นนักแสดง?

“ผมคิดว่าน่าจะเพราะคาแร็กเตอร์ ด้วยความที่ผมเป็นคนชอบแต่งตัว และใบหน้าของผมเหมือนคนขี้โกง ก็อาจจะเป็นลุคแนวแบดๆ เขาเลยชอบ”

ตอนนี้ชอบงานในวงการบันเทิงไหม?

“ชอบนะครับ ผมรู้สึกว่างานในวงการบันเทิงสอนให้รู้ว่า ตัวเองสามารถทำอะไรได้บ้าง ทั้งดีและไม่ดี แต่งานในวงการที่ชอบคืองานแฟชั่น เพราะผมมีความฝันตั้งแต่เด็กว่าอยากเป็นนายแบบให้แบรนด์ต่างๆ แต่ถ้าถามว่าชอบงานแสดงไหมก็ชอบครับ แต่ถ้าชอบที่สุดคือ แฟชั่น ก็ถ้าได้มีโอกาสลอง ก็จะเป็นประสบการณ์ที่ดี ที่ได้แอ๊กชั่นให้แบรนด์สินค้า เสื้อผ้าดังๆ” 

ประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้ในวงการบันเทิง?

“ผมรู้สึกว่าการที่ได้เข้ามาเป็นคนในวงการบันเทิง ต้องรู้จักการวางตัวที่ดี การพูดการสื่อ การใช้ชีวิต เพราะต่างจากคนทั่วไปที่ไม่ได้มายืน ณ จุดจุดนี้ รู้สึกว่าการทำงานในวงการมีทั้งเรื่องง่ายและเรื่องยาก รวมถึงเรื่องวินัย ผมเป็นคนขี้เกียจ ชอบตื่นสายแต่พอได้มาทำงานตรงนี้ได้เห็นความตั้งใจของหลายๆ คน เลยรู้สึกเกรงใจ ทุกครั้งที่นัดกองถ่ายก็จะต้องกะเวลาเดินทางแล้ว คนอื่น เขาไปกองถ่ายกันก่อนเวลา จะมาสายให้ทุกคนรอ ก็ไม่ใช่ เป็นเหมือนหน้าที่ของตัวเราเองที่ต้องรับผิดชอบมากกว่า เพราะถ้าไม่รักษาเวลาทำให้คนหมู่มากต้องเสียเพราะผม ก็คงไม่ดีแน่ๆ”

รู้สึกพอใจไหมที่ได้เดินเส้นทางของวงการบันเทิง?

“พอใจครับ แต่ไม่ใช่สิ่งที่พอใจที่สุด เพราะรู้สึกว่า ต้องพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ในทุกด้าน และสามารถไปได้ไกลกว่านี้ ทำได้มากกว่านี้ เลยมีหลักการในการทำงานคือ ทำให้เต็มที่ที่สุด ให้ดีที่สุด แม้ว่าจะเหนื่อย แต่หนทางข้างหน้ามีรางวัลและความสำเร็จรออยู่ เลยพยายามวิ่งไปให้ไกลที่สุด เท่าที่จะทำให้ได้ พอมีโอกาสเข้ามาผมก็จะรีบคว้าเอาไว้ สิ่งที่ทำได้ผมก็ทำ แต่สิ่งไหนที่ไม่เคยทำก็ขอเรียนรู้และสู้ให้ได้”

ให้นิยามกับวงการบันเทิง?

“วงการบันเทิงของผมคือ Google ครับ เพราะถ้าอยากรู้เทคนิคต่างๆ ในการแสดง เพียงแค่ต้องเข้าไปเรียนรู้ และเป็นศาสตร์อีกด้านที่ผมต้องค่อยๆ ศึกษาเรียนรู้อย่างค่อยเป็นค่อยไป”

รู้สึกอย่างไรที่เป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ต้องมารับเล่นซีรี่ส์ชายรักชาย?

“ดูพีคทุกอย่างเลย แต่ผมมองว่าเป็นสีสันใหม่ของชีวิต เพราะเคยสงสัยคนที่เป็นชายรักชายว่า เขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องความรัก พอมาเล่นแบบนี้ก็จะมีครูมาคอยสอน ทำให้รู้ว่าตอนตกหลุมรักความรู้สึกมันเป็นแบบนี้นะ แต่ก็รู้สึกเกร็งมากกลัวว่าตัวเองจะเล่นไม่ตรงตามความรู้สึกที่หวังไว้ แต่จะมีเขินมากกว่า คือ ผมไม่เคยที่ต้องมาเล่นจ้องตากับผู้ชาย ชีวิตจริงแค่มองหน้าเพื่อนผู้ชายก็ขำแล้ว พอเล่นซีรี่ส์มีเขิน ยากสำหรับผม ก็หลายเทคถือว่าเปิดประสบการณ์ใหม่”

สุดท้ายอยากจะขอบคุณใครบ้าง?

“อยากจะขอบคุณทุกคนที่ให้โอกาสผมก่อนเลยครับ ที่ทำให้ผมมายืนอยู่จุดนี้ จากคนที่ไม่เคยทำและกล้าเสี่ยงเลือกผมจากที่ไม่มีอะไรเลย แต่เขาอยากรู้ว่าผมจะ
ทำได้ไกลขนาดไหนก็อยากจะขอบคุณและอยากขอบคุณแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศด้วยที่สนับสนุนกัน อย่างไรขอให้ซีรี่ส์ “En of love” ไปอยู่ในใจใครหลายๆ คนด้วย อนาคตมีผลงานอะไรให้ออกมาอีกอยากจะให้แฟนๆ ค่อยติดตามผมด้วย”