อีกหนึ่งดาราห้าว ที่ก้าวเข้ามาจากแรงกระตุ้นของรุ่นพี่
“นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร” เปิดเกร็ดวัยรุ่นวุ่นแต่สังสรรค์
เมื่อย่างก้าวเข้าสู่การเป็นดารา คนวงการบันเทิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ความรับผิดชอบ” และ “การยับยั้งชั่งใจ” เพราะเมื่อวันหนึ่งที่เราก้าวขึ้นสู่ที่สูงก็ย่อมมีตกลงมาได้เช่นกัน ดังเช่นบทเรียนชีวิตของอดีตพระเอก “โก้” นฤเบศร์ จินปิ่นเพ็ชร ที่เคยฝากผลงานทั้งด้านการแสดง และผลงานเพลงมาให้แฟน ๆ ได้ติดตาม กันมาแล้ว “สตาร์เรโทร” ได้ตามติดชีวิตของพระเอกคนนี้ พร้อมอัพเดท เรื่องราวชีวิต และแง่คิดจากประสบการณ์ที่ผิดพลาดในอดีตมาให้แฟน ๆ ได้หายคิดถึงกันอีกครั้ง ซึ่งวันนี้เขาเปิดใจ “ขอทำวันนี้ให้ดีที่สุด พร้อมเดินทางสายกลาง”
เริ่มต้นด้วยการถ่ายแบบ
“ช่วงนั้นจบจากเทคโนบางกะปิ ปวช. ผมไปทำงานของโรงเรียนไปซ่อมไฟข้างนอก ทีนี้ได้มีโอกาสไปเจอกับพี่ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ โดยความบังเอิญแล้วพี่เขาเห็นผมด้วยรูปร่างหน้าตาประมาณนั้นเลยชักชวนผมมาถ่ายแบบ แต่ว่าจริงๆเราไม่ได้คิดว่า ตัวเองเป็นคนหน้าตาดีในช่วงนั้นนะครับ ที่ว่าจะมีโอกาสเข้ามาทำงานในวงการก็เลยไม่ได้คิด แต่พอพี่เขาชวนเราเลยลองเปิดโอกาสให้ตัวเองพี่เขาขอรูปไปเที่ยว แต่ช่วงนั้นเราเรียนเลยไม่ค่อยมีรูปอะไรมากเลยส่งเป็นรูปถ่ายติดบัตรธรรมดา แล้วพี่เขาเอาไปให้เพื่อนดูเลยมีโอกาสได้ถ่ายแบบลงหนังสือครั้งแรกในนิตยสาร “เปรียว” ครับ”
ผลตอบรับจากผลงานชิ้นแรก
“ถือว่าโอเคนะคือผมได้เก่งแอคติ้งไม่เก่งเรื่องมุมกล้องต่างๆ ไม่ได้เรียนอะไรทางนี้เลย ส่วนใหญ่ภาพถ่ายจะด้านข้างใส่แว่นมากกว่า หน้าตรงจะน้อยมาก ผลตอบรับก็ออกมาประมาณหนึ่ง หลังจากนั้นก็มีโอกาสถ่ายแบบลงหนังสือ และเดินแฟชั่นมาตลอด”
เข้าสู่วงการการแสดง
“เริ่มจากถ่ายหนังก่อน เรื่อง “เวลาในขวดแก้ว” แต่หนังกว่าจะได้ออกมันนาน ได้เล่นละครทีหลังหนัง แต่ละครออนแอร์ก่อน ตอนนั้นเรื่อง “มณีร้าว” เรื่องแรกกับช่อง 7 เล่นกับ “พี่กวาง”- กมลชนก ( เขมะโยธิน ) ครับ พอละครอออกมากระแสตอบรับค่อนข้างดี มีแฟนคลับส่วนหนึ่งที่ชอบ อีกส่วนหนึ่งจะบอกก็ประมาณว่าบทมันไม่เหมาะกับผม เพราะเรื่องนี้ดูเป็นผู้ใหญ่ ก็มีทั้งติทั้งชม ทั้งดีไม่มีก็คละเคล้ากันไป เรื่องแรกก็แข็งทั้งการเล่นต่างๆ ซึ่งผมก็นำมาปรับปรุงตลอด”( แต่เรื่องนี้ผลออกมาได้รางวัลกันมากมาย )
ฟีดแบคจากหนัง “เวลาในขวดแก้ว”
“เรื่องนี้ผมแสดงคู่กับ “เจี๊ยบ” ปวีณา ชารีฟสกุล และมี “แอน” วาสนา พูนผล หนังผลตอบรับดีครับเพราะว่า อาประยูร วงศ์ชื่น แกเป็นคนทำหนังเรื่องนี้ ฉีกแนวไปจากเดิมที่เป็นดราม่า หนังจะออกพีเรียดนิด ๆ บวกกับผมเป็นนักแสดงน้องใหม่ แล้วหนังเรื่องนี้มาจากหนังสือนอกเวลาการเรียนการสอนของเด็ก ๆ ที่ใช้เรียนในโรงเรียนด้วยมันยิ่งส่งผลให้ตัวผมมีคนรู้จักขึ้น ต้องขอบคุณตรงนี้ด้วย”
ความภูมิใจกับรางวัลนักแสดงนำฝ่ายชายยอดเยี่ยม
“เป็นรางวัลแรกจากเรื่อง “ฝากฝันไว้เดี๋ยวจะเลี้ยวมาเอา” ราว ๆ ปี พ.ศ. 2535 เป็นรางวัลแรกดีใจมากก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำงานชิ้นนี้ได้บรรลุเป้าหมายที่ผู้กำกับฯ ( พรพจน์ กนิษฐเสน )ได้วางไว้ มันเป็นหนังดราม่ากึ่งคอมมาดี้ เป็นลูกทุ่งหน่อย ๆ มันเป็นเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสามคนออกมาทำงานด้วยกัน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไม่ได้อยู่กับผู้ใหญ่ทางบ้าน แล้วไปพบสาวคนหนึ่งเข้ามาในวงโคจรของเราสามคน เพื่อนเราคนหนึ่งคอยดูอยู่ห่างๆ แต่ว่าเราสองคนเนี่ยะกลับชอบผู้หญิงคนเดียวกัน แต่ตัวผู้หญิงก็ไม่ได้บอกว่าชอบใครเลย ในช่วงที่เราไม่อยู่เราออกไปขายของ เขามีอะไรกันเรามาเห็นเราก็เฮิร์ท จนฆ่าตัวตาย คือเสียใจ ซึ่งผมคิดว่าเหตุผลที่ได้รางวัลอยู่ที่ตัวผู้กำกับ มุมภาพด้วย ผมว่าช่วงนั้นในยุคนั้นภาพสวย เขาสรรหามุมภาพที่น่ารักเก๋ๆ แล้วบทดีมากเลยครับยอมรับ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยได้มีบทพูดอะไรมากมาย”
เข้าสู่การเป็นศิลปิน
“มันเป็นความบังเอิญอีกแล้วครับ จริง ๆ ค่ายใหญ่ ๆ หลาย ๆ ค่ายชักชวนตอนนั้นตั้งสองสามค่าย ซึ่งผมได้มีโอกาสเข้าไปคุยทุกค่ายแต่ผมเลือกเข้าสังกัดคีตา เรคคอร์ด เพราะผมได้มีโอกาสเจอพี่ “อ๊อฟ” พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง เขาเป็นคนขี่มอเตอร์ไซต์เหมือนกัน ช่วงนั้นเห็นผลงานของคีตา ถือว่าโอเค และผมก็ถูกใจการทำงานของที่นี่มากกว่านะครับ เลยตัดสินใจร่วมงานกับคีตา ออกอัลบั้มชื่อว่า “Jiggo” เพลงที่ดัง ๆ มี “ต้มยำทำแกง” , “ชิงดำ” , “พอแล้ว” , “มนุษย์กบ” และเพลง “เอาเลยไหม” เป็นเพลงเปิดตัวของอัลบั้ม”
กระแสตอบรับของอัลบั้ม
“กระแสตอบรับผมมองประมาณว่าเรายังวัยรุ่นยังเด็ก เรามองว่าโอเคแล้วนะครับ พอเราผ่านมาแล้วมาดูตอนนี้ ส่วนหนึ่งมันยังไม่เต็มที่มาก แต่ถามว่ากระแสที่คนรู้จักได้มันมาจากเรื่องของการถ่ายแฟชั่น หนัง และละคร สะสม บวกกับเราเป็นศิลปินหน้าใหม่ด้วย ผลตอบรับเลยโอเคในส่วนหนึ่ง อยากขอบคุณแฟนๆทุกคนในยุคนั้นมาก ๆ เลย แต่ผมก็ทำงานชุดเดียวเพราะช่วงนั้นเราต้องเข้าใจ ถ้างานมันออกไปแล้วมันขายไม่ได้เจ้าของเขาคงไม่อยากทำต่อเราเลยต้องเบรกออกมา แต่จริง ๆ แล้วถ้ามีโอกาสย้อนกลับไปได้ก็อยากแก้งานใหม่ ทำงานที่มีซาวด์ดนตรีที่ดีกว่านี้ มีเนื้อหาลึกซึ้งหนักแน่น กินใจมากกว่านี้ แต่ถ้าทำแล้วมันแย่เราไม่ทำดีกว่า”
หายไปจากวงการ
“จริง ๆ ผมไม่ได้หายไปจากวงการนะยังวนเวียนอยู่เพียงแต่ว่า งานมันลดลงเพราะว่าหนึ่งความประพฤติเราหรือเปล่า ช่วงวัยรุ่นเราก็มีบ้างที่ไปสาย โดดกองบ้าง อย่างนี้นะครับ แต่เรื่องอื่นๆไม่มีอยู่แล้ว แล้วอาจเป็นเพราะตอนนั้นเรายังเป็นวัยรุ่นพองานดึกเราไปเที่ยวสังสรรค์ต่อ แล้วเราไม่ไหว เรื่องความรับผิดชอบเริ่มแย่ลง เรามีความรู้สึกว่าพอผ่านระยะเวลามาแล้วเราย้อนมาดูตัวเอง เราทำอะไรไปบ้างทำให้ผู้ใหญ่ไม่ชอบเราไหม หรืออะไรประมาณหนึ่ง แต่ถามว่าอย่างน้อย ๆ ผมเองก็ไม่ได้แย่ไปกว่าหลาย ๆ คนที่มีข่าว ผมยังนั่งคิดกับตัวเองอยู่นะผมทำอะไรไม่ดี ผู้ใหญ่ไม่เข้าใจหรือเปล่า ไม่ได้คิดน้อยใจ ก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้มาในทางที่ดีขึ้นมากกว่า หรืออาจเป็นเพราะบุคลิกหน้าตาเราไม่ตรงคาแรกเตอร์เขาหรือเปล่า คือคิดหลายอย่างคิดหลายข้อไม่ได้มุ่งไปประเด็นเดียว”
ปัจจุบัน
“ตอนนี้ผมทำประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทเซิร์ท เอนเตอร์เทนเม้นท์ เป็นพิธีกรของคอนเสิร์ต ทีวี 3 สัญจร กับคอนเสิร์ต เพาเวอร์ทีม ครับ ซึ่งต้องขอขอบคุณพี่ “อาร์ม” วิบูลย์ ลีรัตนขจร ที่ให้โอกาสผมเข้าไปทำตรงนี้”
มุมมองวงการบันเทิง
“วงการบันเทิงให้อะไรผมมากมาย ทั้งความรู้ ประสบการณ์ ได้รู้จักการเข้าสังคม ได้รู้จักเพื่อน ๆ หลากหลายเรื่องราว หลากหลายอารมณ์ สำหรับวงการบันเทิงตอนนี้กับเมื่อก่อนผมว่ามันต่างกันนะ แต่ว่าแนวทางของการทำงาน หรือการเดินทางมันทางเดิมอยู่แล้ว แนวทางในการดูแลหรือปกครอง หรือสื่อต่างๆ มันต่างกัน ค่าแรงในการทำงานมากขึ้น วิธีการจูงใจก็ต่างไป มันเปลี่ยนไปเยอะ ผมรู้สึกว่าบางอย่างมันก็ดีนะ แต่บางอย่างมันก็ไม่ดี ที่ไม่ดีก็เรื่องของสื่อที่ตอนนี้ไวมาก เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยี ความเร็วของมันเราก็ไม่รู้ว่าบางทีกรองหรือยัง เราก็อ่านไปมันใช่ไหม แต่พออ่านเราก็ต้องเช็คก่อนว่าจริงหรือเปล่า อย่าไปมุ่งประเด็นว่าใช่แน่นอน เขาชัวร์ อ่านแล้วเราก็ต้องมองก่อนว่าเขาดีหรือไม่ดีไม่ใช่แบบว่าตอบตกลงตามสื่ออย่างนั้น บางทีต้องให้โอกาสเขาด้วยครับ”
ให้คำแนะนำน้อง ๆ นักแสดง
“จริง ๆ แล้วน้อง ๆ รุ่นใหม่ ผมยอมรับเลยว่าทุกคน เก่งในเรื่องทางด้านการศึกษา เก่งในเรื่องของความรู้รอบตัว เก่งในเรื่องของการทำงาน นอกจากเรื่องชู้สาวเท่านั้นเองครับ เรื่องอย่างอื่นน้อย ผมว่าเขาเก่งกันอยู่แล้ว ไม่ต้องไปสอนเขาเลยดีกว่า เพราะว่าบางทีเขามีผู้จัดการที่คอยสอนน้องเขาอยู่ ผมยอมรับว่าที่ผ่านมาถือว่าน่ารักครับ เพียงแต่ว่าในเรื่องของความมีมารยาทเป็นสิ่งสำคัญมือไม้ต้องอ่อนหน่อย อย่างบางทีผมเองเป็นดาราที่ถือว่าก็เก่านะ งานไม่ค่อยมีตลอดคนก็ไม่ค่อยเห็นหน้า คนที่จะมาทักทายไหว้เราก็เข้าใจ แต่บางที่เราเห็นกับผู้ใหญ่คนอื่นเขามีชื่อเสียงมีงานเยอะกว่าเราทำไมน้องเขาไม่ทักทาย เรามีความรู้สึกว่าด้วยความเคารพระหว่างผู้น้อยกับผู้ใหญ่มันห่าง อยากฝากตรงนี้นิดหนึ่ง ทีสำคัญเมื่อเราเป็นคนในวงการบันเทิงควรเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะการยับยั้งชั่งใจ ต้องรู้จักดูแลตัวเองครับ”
คติในการดำเนินชีวิต
“ผมพยายามทำทุกวัน ให้มันดีขึ้น ผิดแล้วก็อย่าทำซ้ำ มองสิ่งรอบข้างให้มันสวยงาม พยายามมอง และเดินสายกลางครับ ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ฆ่าสัตว์ พยายามถือศีล 5 บางครั้งไปงานเราก็เข้าใจตัวเองว่ามันก็มีบ้างสังคมของหมู่โลก แต่ว่าเราพยายามละลดเลิกให้มันน้อยไปเท่านั้นเอง”
ฝากถึงแฟนๆที่ติดตามผลงาน
“ฝากถึงแฟน ๆ ที่ติดตามผลงานอยู่นะครับ ตั้งแต่รุ่นนู้นจนถึงรุ่นนี้ ขอบคุณมากนะครับ ถึงตอนนี้จะยังไม่มีผลงานอะไรมากมาย แต่ก็ยังมีข่าวคราวติดตามได้ตามเฟสบุ๊ค “นฤเบศร์ พวงเพชร จินปิ่นเพ็ชร” หรือแม้กระทั่งหนังสือต่าง ๆ ที่ผมลง ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ยังให้กำลังใจอยู่มาจนทุกวันนี้ ขอให้โชคดีครับ”
ผลงานละคร : มณีร้าว , หนูละเบื่อ เสือสวมรอย, วิมานมะพร้าว, ดาวพระศุกร์, ฟ้าเพียงดิน, มือผี, นิรมิต,กิ่งไผ่ และ ฉลุย ช่อง 7
ผลงานภาพยนตร์ : เวลาในขวดแก้ว (2534) ,ฝากฝันไว้เดี๋ยว จะเลี้ยวมาเอา (2535) , ป้อ สำหรับบางวัน (2535), ขอความรักบ้างได้ไหม (2535) ,ผีตุ๋มติ๋ม (2552) ,ผู้หญิง 5 บาป 2 (2553)
พินิตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี