คราวนี้ต้องหลีกทางให้บอสใหญ่อย่าง “คุณน้ำผึ้ง”ที่ชวน “แห้ว” ตระเวนเที่ยว จ.อุดรธานี เริ่มต้นทริปอยู่กันที่แหล่งศึกษาและท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ อนุสรณ์สถานโฮจิมินห์วีรบุรุษนักต่อสู้ และนักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม เป็นผู้นำที่ทำให้เวียดนามประกาศเป็นเอกราชได้สำเร็จภายในมีอาคารจัดแสดงภาพชีวประวัติ และหุ่นขี้ผึ้งจำลองท่านโฮจิมินห์ และภาพบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเป็นมาเส้นทางการต่อสู้กอบกู้เอกราชของท่านโฮจิมินห์ รวมทั้งบ้านจำลองที่ได้จำลองมาจากบ้านท่านโฮจิมินห์ที่เคยมาอาศัยอยู่ที่บ้านนาจอก เพื่อวางแผนกอบกู้

เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ งานนี้คุณน้ำผึ้งเลยขอใส่ชุดอ๋าวใหญ่ด้วยซะเลยจากนั้นเที่ยวต่อที่ อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท ตั้งอยู่บนภูเขาภูพระบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน จากการสำรวจทางโบราณคดีที่พบว่าบนภูพระบาทแห่งนี้ ปรากฏร่องรอยกิจกรรมของมนุษย์มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ราว 2,500-3,000 ปีมาแล้ว ซึ่งดูได้จากภาพเขียนสีที่มีมากกว่า 54 แห่ง และยังพบการดัดแปลงเพิงหินธรรมชาติให้กลายเป็นศาสนสถานของผู้คนในวัฒนธรรมทวารวดีวัฒนธรรมเขมร วัฒนธรรมล้านช้างและรัตนโกสินทร์อีกด้วย ซึ่งร่อยรอยหลักฐานทางโบราณคดีเหล่านี้ แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการทางสังคมของมนุษย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยได้เป็นอย่างดีใครที่เข้ามาสัมผัสจะตะลึงไปกับเสาหิน และเพิงหินอายุหลายพันปี อย่างไฮไลท์ของที่นี่ก็ต้อง “หอนางอุสา” เป็นเพิงหินสูงรูปร่างแปลกตาคล้ายดอกเห็ด ล้อมรอบด้วยใบเสมา นอกจากนี้ยังมี “ถ้ำพระ” ลักษณะเป็นเพิงหินเตี้ยๆ ถูกดัดแปลงให้เป็นศาสนสถานของศาสนาพุทธ หลักฐานคือ ที่ผนังใต้เพิงหินมีการสลักเป็นรูปพระพุทธรูปอยู่รอบด้าน, “หีบศพพ่อตา” เป็นเพิงหินธรรมชาติที่พบหลักฐานทางโบราณคดีคือภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์, ถ้ำคน เป็นเพิงหินมีลักษณะเป็นชะง่อนขนาดใหญ่ใช้กันแดดฝนได้ ภายในมีภาพเขียนสีสมัยก่อนประวัติศาสตร์พิกัดสุดท้ายอยู่กันที่ สวนพฤกษศาสตร์ภูฝอยลม 60 พรรษา มหาราชินี จ.อุดรธานี ตื่นตากับม่านหมอกบนจุดชมวิวภูตะวัน และจุดชมวิวผาเบิ่งอุดร ที่สามารถมองเห็นวิวของเมืองอุดรธานีได้อย่างชัดเจนส่วนใครที่ชอบสวนดอกไม้ ที่นี่ก็ยังมีแปลงดอกไม้ที่จะมีการเปลี่ยนดอกไม้หมุนไปตามฤดูกาล