กว่าจะมารับบท “ไอ้ไข่” ในภาพยนตร์ “ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์” อำนวยการสร้างโดย ดร.ประพล มิลินทจินดา และผลิตโดย ไอยารา แอนนิเมชั่น แอนด์ สตูดิโอ ไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย งานนี้ น้องโกฮัง-ณัฐวรรธ สุ่มพลอย วัย 13 ปี ต้องผ่านการคัดเลือกถึง 3 รอบ จากจำนวนผู้สมัคร 2,000 กว่าคน แถมรอบสุดท้าย “ไอ้ไข่” เป็นคนเลือก งานนี้“โกฮัง” ปลื้มใจที่ได้เป็นนักแสดงนำเต็มตัวครั้งแรก แถมยังได้โชว์ทักษะแอ๊กชั่นที่เรียนสั่งสมมาตั้งแต่อายุ 9 ขวบโดยเจ้าตัวเผยว่า

“ตอนที่มาแคสติ้งไม่คิดว่าตัวเองจะได้ครับ มีนักแสดงเด็กมาร่วมแคสประมาณ 2,000 กว่าคน รอบแรกผ่านรอบที่คัดจากรูปเพื่อดูภาพลักษณ์ภายนอก ติดรอบ 1,000 คน พอรอบที่ 2 เขามีแคสจากความสามารถพิเศษ 2 รอบ รอบกทม. และปริมณฑล จาก 1,000 คน เหลือ 40 คน โซนภาคใต้มีคนมาสมัคร 200 คน คัดเหลือ 40 คน ผมติด 1 ใน 40 ของ กทม. ครับ จากนั้นรอบสุดท้ายเด็กๆ ที่แคสผ่านในรอบ กทม.เดินทางไปสมทบแคสกับโซนภาคใต้ที่ จ.นครศรีธรรมราช ทั้งหมด 80 คน ทางผู้กำกับ พี่เอก-ธีรธร เชาวนโยธิน ให้เด็กทุกคนจับคู่เล่นแอ๊กติ้งรอบไฟนอล ให้เวลาอ่านบท 1 วันก่อน แล้ววันรุ่งขึ้นมาก็แคสกัน ตอนนั้นผู้กำกับ พี่เอก-ธีรธรบอกว่าจะมีเด็ก 16 คน ในจำนวน 80 คนจะได้เล่นหนังเรื่องนี้แน่ๆ พ่อของผมก็เลยบนไอ้ไข่ไปว่าถ้าผมติด 1 ใน 16 คน จะถวายประทัด 10,000 นัด ไม่ได้หวังว่าจะได้เป็นไอ้ไข่เลยครับ แต่ปรากฏว่าคณะกรรมการทุกคนพร้อมใจกันเลือกผม เหนือความคาดหมายมาก พ่อของผมดีใจมากแก้บนกันวันนั้นเลย แล้วผู้กำกับ พี่เอก-ธีรธรก็มาเล่าให้ฟังว่าไอ้ไข่เลือกผม ตอนแรกผมก็ไม่รู้ว่าไอ้ไข่เลือกยังไง พี่เอกมาเล่าให้ฟังว่าวันที่แคสเขาขอไอ้ไข่ว่าถ้าคนไหนที่ไอ้ไข่ อยากให้เล่นบทนี้ ก็ขอให้คณะกรรมการทุกคนพร้อมใจกันเลือกนะ ซึ่งผมเป็นคนเดียวที่คณะกรรมการทุกคนเลือกครับผมดีใจมากที่ได้มารับบทนี้

“สำหรับคาแร็กเตอร์ไอ้ไข่ ผมว่า “ไอ้ไข่” ก็เหมือนเด็กทั่วไป เป็นเด็กร่าเริง สนุกสนาน ซุกซน ซึ่งก็เหมือนผมนะครับ แต่ที่แตกต่างกันก็คือเวลาไอ้ไข่จะโกรธง่ายเวลาที่ใครมายุ่งกับสมบัติของวัดเจดีย์ในขณะที่ตัวผมเองไม่ค่อยโกรธใคร ตอนที่เล่นเป็นไอ้ไข่ฉากที่ยากที่สุดคือโกรธครับ ผมต้องทำหน้าโมโห จะแสดงเยอะไปก็ไม่สมจริง ต้องเล่นเป็นให้พอดีครับ สำหรับฉากที่ยากอีกอันก็คือ ฉากที่ต้องเล่นกับซีจี เพราะในเรื่องผมต้องแสดงอิทธิฤทธิ์ต่างๆ ด้วย ช่วงแรกๆ ยากครับ ตาและบล็อกกิ้งไม่สัมพันธ์กัน ผมก็จะหาหนังแนวแฟนตาซีมาดูเยอะๆ เพื่อศึกษาการแสดงเรียนรู้ลักษณะท่าทาง ก็ช่วยให้ผมเล่นได้ง่ายขึ้น แต่ที่เข้าทางผมเลยคือ ฉากบู๊แอ๊กชั่นครับเพราะผมเรียนสตั๊นท์มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ตอนที่ถ่ายหนังอายุประมาณ 11 ปี มีขึ้นสลิงและเล่นคิวบู๊ด้วย ไม่มีปัญหาเลยครับ ดีใจที่ได้ปล่อยของได้ใช้วิชาความรู้ที่เรียนมายังไงก็ฝากพี่ๆ น้องๆ ไปชมกันนะครับ หนังเรื่องนี้ครบรส เล่าถึงมิตรภาพระหว่างเพื่อน สอนให้รู้จักหน้าที่ของตัวเองที่สำคัญมีฉากแอ๊กชั่น แฟนตาซี ครบรสมากๆ เลยครับ” ติดตามชมแอ๊กติ้งและแอ๊กชั่นของ “น้องโกฮัง” ได้ใน “ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์” 19 ม.ค.นี้ ในโรงภาพยนตร์