แรงดีไม่มีตกสำหรับคณะหมอลำน้องใหม่แต่ไฟแรงไฟถึงสุดๆ กับคณะ “อีสานนครศิลป์”ที่มาแรงไม่หยุด! ส่งพระเอก-นางเอกหมอลำน้องใหม่ แจ้งเกิดประดับวงการไปแล้วมากมายจนคิวโชว์แน่นยาวไปถึงปีหน้าเป็นที่เรียบร้อย ที่ล่าสุดเปิดตัวนางเอกหมอลำคนใหม่แต่ประสบการณ์สุดปังอย่าง “อาย-ปาลิตา เชื้อสาวะถี” สาวเสียงสวยในวัย 24 ปี ให้เทียบเคียงกับ พระเอกหมอลำที่กำลังฮอตสุดในขณะนี้ “นุกเกอร์-กฤษกร” วันนี้จะพามาทำความรู้จักเค้าทั้งสองแบบเอ็กซ์คลูซีฟกันสักตั้ง

แนะนำตัวกันก่อน

นุกเกอร์ : สวัสดีครับ ผมนุกเกอร์-กฤษกรอีสานนครศิลป์ ครับ

อาย : สวัสดีค่ะ อาย-ปาลิตา อีสานนครศิลป์ ค่ะ

จริงๆ เป็นคู่ขวัญกันบนเวทีใช่ไหม

อาย : ไม่ค่ะ หนูเพิ่งเข้าวงมาหลังจากที่เขาได้บทบาทไปแล้ว

นุกเกอร์ : ก็กำลังเป็นคู่ขวัญครับ

‘อีสานนครศิลป์’ มีมานานแค่ไหนแล้ว

นุกเกอร์ : เพิ่งตั้งปีแรกปีนี้ครับ

วงการหมอลำก็มีคู่แข่งเยอะ วงเรามีความโดดเด่นยังไง

นุกเกอร์ : คอนเซ็ปต์ของ “อีสานนครศิลป์” คือจะมีคำขวัญที่ว่า หมอลำมิติใหม่ของคนรุ่นใหม่ คือเราจะทำแตกต่างจากหมอลำทุกวง คือเราจะมีโชว์ที่มีความอินเตอร์มากขึ้น เช่น โชว์เพลงสากล โชว์ของแอลจีบีทีคิว (LGBTQ) และมีโชว์บอยแบนด์ของหมอลำด้วย เป็นบอยแบนด์ แต่เรามาปรับใช้กับหมอลำ

อาย : ในทางผู้หญิง ส่วนมากถ้าสมมุติว่าเรามาโชว์ในกรุงเทพฯ เราก็จะมีโชว์ที่ทำให้สำหรับคนที่คิดถึงบ้าน คนที่อยู่ต่างจังหวัดและมาทำงานที่กรุงเทพฯ ค่ะ

สำหรับอายเป็นหมอลำที่มาจากนักร้องลูกทุ่งก่อน แล้วมาร้องหมอลำได้ยังไง

อาย : หลังจากที่ช่วงโควิด หนูเรียนจบพอดี จากที่เราเคยมีงานมันก็ไม่มีงาน มันซบเซามาเรื่อยๆ ตอนนั้นหนูประกวดเป็นนักร้องลูกทุ่งมาตลอดเลย พอไม่มีงานเราก็ไปสอนร้องเพลงแต่การสอนร้องเพลงมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เรารักเท่าไหร่เราอยากออกไปทำอะไรที่ได้ร้องเพลงให้ทุกคนได้ฟังค่ะ และมีน้องทักมาพอดี ชวนให้ไปอยู่วง“อีสานนครศิลป์” เขาบอกว่าเป็นวงเปิดใหม่ก็คิดนานเหมือนกันกว่าจะตกลงก็เป็นเดือน เพราะว่าเป็นหมอลำมันก็เหนื่อยมากๆ และเราต้องปรับการใช้ชีวิตเรามากๆ ค่ะ

เหมือนการร้องลูกทุ่งกับหมอลำมันเป็นคนละศาสตร์กันใช่ไหม

อาย : ใช่ค่ะ ถ้าลูกทุ่งก็เป็นการร้องเอื้อนปกติ แต่ถ้าหมอลำ การร้องมันจะต้องมีลูกเอื้อนหลายลูก เป็นศาสตร์ลึกๆ ของอีสานเลย ถ้าร้องไม่ได้คือต้องฝึกเยอะมากเลยค่ะ

ตอนที่เป็นลูกทุ่ง ‘อาย’ ก็ได้แชมป์มาเยอะมากใช่ไหม

อาย : ค่ะ ก็เยอะอยู่ จะเป็นเวทีของช่องวันของรายการศึกวันดวลเพลง ที่มีศึกวันดวลเพลง แบบปกติ, ศึกวันดวลเพลง เสาร์ ๕ และ ศึกวันดวลเพลง สงครามแชมป์ ค่ะ

ไม่ยึดติดกับการเป็นแชมป์พวกนั้น เปลี่ยนจากลูกทุ่งมาเป็นหมอลำเลย

อาย : ไม่ยึดติดเลยค่ะ แค่รู้สึกว่าเรามาเริ่มต้นใหม่กับสายหมอลำ ก็ให้คิดว่าเป็นน้องใหม่ทางด้านสายหมอลำ

ส่วน ‘นุกเกอร์’ มาจากสายแดนเซอร์

นุกเกอร์ : ใช่ครับ มาสมัครหมอลำครั้งแรกเราก็ยังรำไม่เป็น เพราะว่าเราร้องสตริงมาก่อน เลยมาเป็นแดนเซอร์ในวงการหมอลำก่อน 2 ปี ปีที่ 3 ถึงได้เริ่มเป็นพระเอกหมอลำ

เขาเริ่มเห็นแววเรายังไง

นุกเกอร์ : คือเราได้ฟังหมอลำทุกวันในช่วงที่ออกงานเป็นแดนเซอร์ มันเลยทำให้หลงเสน่ห์ในหมอลำและชอบ เลยฝึกร้องเล่นๆ ไป พออาจารย์ได้ยินเสียงเรา เห็นเราฝึก เห็นความมุมานะของเรา ก็คิดว่าจับเรามาฝึกเป็นพระเอกหมอลำเลยดีกว่า เลยตั้งใจฝึกเดือนนึงเต็มเลยครับ ฝึกทั้งเช้า กลางวัน เย็น และดึก 4 เวลาเลย จนได้เป็นหมอลำ

เรามีพื้นฐานการร้องมาก่อนอยู่แล้วหรือเปล่า

นุกเกอร์ : ตอนแรกร้องสตริงก่อน แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นพาร์ทร้องลูกทุ่ง พอร้องลูกทุ่งเลยได้ฝึกลูกคอ ลูกเอื้อนเยอะขึ้น เลยมีพื้นฐานในการร้องลูกทุ่งมา และมาฝึกเป็นหมอลำ ซึ่งมันก็ยากกว่าลูกทุ่งอยู่แล้วครับ ซึ่งพอมาร้องก็ไม่ได้เต้นเท่าเดิมครับ เพราะว่าพอเราได้เป็นตัวพระเอกเต็มตัวแล้ว มันจะได้มาหนักทางพระเอกหมอลำ แดนเซอร์ก็จะไม่ได้เต้นแล้วครับ

วันนี้ทั้งคู่เข้าขากันดีหรือยัง

อาย : เราเคยร่วมงานกันมาก่อนที่จะมาอยู่“อีสานนครศิลป์” แล้ว เราเคยร่วมงานกันที่เสียงอีสาน ซึ่งเป็นโชว์พิเศษของรายการชิงช้าสวรรค์ และหนูได้ไปรับเชิญร้องเพลงกับพี่นุกเกอร์

นุกเกอร์ : ก็ไม่ต้องปรับตัวกันแล้ว คุยกันก็รู้เรื่องเลย

ในแต่ละวันได้นอนกี่ชั่วโมง

อาย : มันแล้วแต่ว่างานนั้นเลิกกี่โมง ถ้างานในกรุงเทพฯ จะได้นอนเยอะหน่อย งานในกรุงเทพฯ จะเลิกประมาณตีหนึ่ง แต่ถ้าอยู่อีสานก็เล่นถึงประมาณหกโมงเช้าเลยค่ะ ถ้าอีสานเราเริ่มเล่นตอนสามทุ่มค่ะ ก็ถึงตีห้า หกโมงเช้า และเราต้องขับไปอีกจังหวัดนึงอีก เพื่อหาที่พักที่ใกล้ๆ งานต่อไป และเราจะได้นอนไม่เกิน 5 ชั่วโมง

นุกเกอร์ : เลิกตีหนึ่งก็ตื่นอีกทีประมาณช่วงบ่าย ส่วนถ้าเล่นที่อีสานเราจะได้นอนไม่เกิน 5-6 ชั่วโมง ประมาณนี้ กว่าจะล้างหน้า กว่าจะกินข้าว กว่าจะขับรถไปถึงที่พัก

คิดว่าหมอลำมีเสน่ห์ยังไงบ้าง

อาย : หนูรู้สึกว่ามันมีเสน่ห์มากๆ ค่ะ เพราะว่าเมื่อก่อนหนูเป็นคนที่ไม่ชอบฟังหมอลำไม่ชอบร้องหมอลำ พอหนูได้เข้ามาอยู่ในวง ได้ฟังแม่ๆ พี่ๆ ร้องหมอลำ ร้องกลอนลำ ก็รู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่สวยงามมาก เป็นวัฒนธรรมของอีสานที่ไม่ควรหายไป และมันต้องอยู่กับเราไปเรื่อยๆ ค่ะและหนูรู้สึกว่าพอฟังแล้วก็อยากร้องได้ อยากทำให้ได้ มันเป็นอะไรที่ฟังแล้วรู้สึกภูมิใจ

นุกเกอร์ : แต่ก่อนผมก็ร้องสตริง ผมไม่ฟังหมอลำเหมือนกัน ผมก็มาหลงเสน่ห์หมอลำตอนที่เข้ามาสมัคร ด้วยความเป็นหมอลำ มันต้องคู่กับคนอีสานอยู่แล้ว ยังไงเราก็หนีไม่พ้นเรื่องของหมอลำ เหมือนกับน้องอายที่ร้องลูกทุ่ง สุดท้ายก็ต้องมาอยู่กับหมอลำ เพราะหมอลำมันคู่กับคนอีสานอยู่แล้ว เสน่ห์ของหมอลำก็คือจังหวะมันเร้าใจนะครับ มันสนุก พอได้ยินเสียงหมอลำปั๊บต้องลุกขึ้นฟ้อนเลย อันนี้มีเสน่ห์ในตัวของหมอลำอยู่แล้วมันก็ทำให้เราชอบและอยู่กับมันได้

ใน ‘อีสานนครศิลป์’ มีสไตล์แตกต่างจากวงอื่นยังไงบ้าง

อาย : อย่างวงอื่นจะเป็นวัฒนธรรม ส่วนมากเป็นโชว์ แต่ของเราจะมีบอยแบนด์ โชว์ต่างประเทศเข้ามาร่วมแจมด้วย โชว์แอลจีบีทีคิว

นุกเกอร์ : อีกอย่างนึง ก็คือช่วงหมอลำเรื่องต่อกลอน ส่วนมากเขาจะโชว์เป็นฉากๆ ไปสมมุติว่าเป็นฉากป่า ก็จะพูดให้เหมือนคนจินตนาการว่านี่แหละฉากป่า แต่ว่าของเราจะมีเอฟเฟกท์ มีฉากเข้ามาประกอบให้เห็นภาพมากขึ้น อารมณ์ประมาณละครเวทีอีสานเข้ามาร่วมด้วยครับ ซึ่งแบบนี้อาจมีในบางวง และยุคนี้ก็อาจเริ่มมีกันเกือบทุกวงแล้ว แต่ว่าของเราเป็นวงที่เริ่มทำออกมาก่อนแล้ว

ฝากติดตามผลงาน

อาย : ฝากทุกคนเป็นกำลังใจและติดตาม “อีสานนครศิลป์” ด้วยค่ะ เป็นวงน้องใหม่ แต่ว่าทุกคนคือพยายาม อดทน ฝึกฝนกันเต็มที่มาก เพื่อให้ผลงานออกมาดี ก็อยากให้ทุกคนคอยให้กำลังใจ ซัพพอร์ต และมีอะไรก็ติชมเข้ามาได้ เราจะได้พัฒนาให้มันดีขึ้นไปและเป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยค่ะ

นุกเกอร์ : ฝากทุกคนติดตามให้กำลังใจกับหมอลำ “อีสานนครศิลป์” ฝากติดตามได้ที่ช่องทางเฟซบุ๊ก หมอลำอีสานนครศิลป์ แฟนเพจ ความเคลื่อนไหวและคิวงานต่างๆ ของศิลปินทุกคนอยู่ที่นี่ และฝากเป็นกำลังใจให้ทีมงานทุกคนด้วย เพราะว่าเราตั้งใจฝึกฝนกันมาเป็นแรมเดือน แรมปีเลยก็ว่าได้ เพื่อผลงานให้ทุกคนได้สนุกด้านหน้าเวทีครับ