หลังจากที่เปิดตัวจากใน จัสติซลีก ของฝั่ง DC ก็ได้เวลาของน้องเล็กในทีมอย่าง เดอะ แฟลช หรือที่สมัยเด็กๆ เราเรียกกันว่ามนุษย์สายฟ้า จะได้มีหนังเป็นของตัวเอง
แบร์รี่ อัลเลน ใช้พลังพิเศษในตัวเองย้อนเวลากลับไปวันที่แม่ถูกฆ่าและช่วยพ่อให้พ้นข้อหาฆ่าภรรยาของตัวเองทั้งที่ไม่ได้ทำด้วยทำให้ Timeline ปั่นป่วน โลกกำลังจะเกิดหายนะ พลังพิเศษเขาหายไปบรรดาทีมจัสติซลีกสาบสูญ มีเพียงแบทแมนในอดีตที่ปลดเกษียณซูเปอร์เกิร์ลที่ถูกกักขัง และแบร์รี่ในยุคนั้นที่กำลังเรียนรู้ในพลังของเดอะ แฟลช ที่เป็นกำลังสำคัญในการรับมือกับ นายพลชอต ที่กำลังจะทำลายโลก
เดอะ แฟลช (The Flash) มาในบรรยากาศของความเป็นหนังฮีโร่ฝั่ง DC ที่เน้นสบายๆ เหมือนนั่งอ่านการ์ตูนคอมมิคแบบเพลินๆ ไม่ต้องมาดาร์กหรือดำดิ่งด้านมืด เหมือนที่หนัง DC ในยุคหลังนิยมทำกัน ตัวเรื่องเน้นอารมณ์ขัน จิกกัดผสานกับฉากแอ๊กชั่นสวยๆ
แต่ถึงจะไม่ดาร์ก ส่วนดราม่า ปมในใจ เรื่องของครอบครัว เอาไว้ไม่ทิ้ง พูดแบบเน้นตลอดเวลาๆ เพียงแต่ไม่ขยี้จนหนักเกินไป และได้มุขขำๆมาช่วยผ่อนคลาย
มิติจักรวาล หรือมัลติเวิร์ส ที่แทบจะเจอทั้งในหนังฮีโร่ของ DC มาร์เวลหรือในหนังแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ จนหลายคนเริ่มเบื่อ มาอีกแล้ว ยิ่งมายิ่งซับซ้อน ดูวุ่นวาย สร้างความมึนงงให้กับคนดูที่อยากดูหนังสบายๆ แต่ถูกใจ คนที่นิยมเสพพล็อตเรื่องยากๆ ต้องติดตาม ยังคงถูกนำมาใช้เป็นเส้นเรื่องหลัก เพียงแต่เรื่องนี้อธิบายได้ชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนสับสน ฉากแอ๊กชั่น ยังทำได้ดี CG เนียนๆ มีหลายตอนที่ดูระทึกฉากต่อสู้หรือตัวร้ายน่าจะมีอะไรที่ตื่นตาตื่นใจได้มากกว่านี้ ชอบมากๆ
เอซรา มิลเลอร์ เล่นเป็น แบร์รี่ 2 คน 2 บุคลิก จากช่วงไทม์ไลน์สองช่วงเวลาที่แตกต่างกันแบบชัดเจน มีบทหลากหลายให้เล่น ทั้งดราม่าแอ๊กชั่น ขำขัน มีเสน่ห์ในตัวเอง เวลาเป็น เดอะ แฟลซ ก็ดูดี แบกหนังได้แบบสบายๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
ไมเคิล คีตัน คือ สิ่งที่ดีงามมากที่สุด จนทำให้ต้องร้องว้าว!! ออกมาพาย้อนกลับไปสัมผัสกับมนุษย์ค้างคาวในฉบับทิม เบอร์ตัน ฉบับที่หลายคนชื่นชอบ และเป็นแบทแมนที่โดนใจใครหลายคน บุคลิกเดิมๆ ชุดแบทแมน ถ้ำค้างคาว รถ/เครื่องบิน อาวุธต่างๆ กลับมาให้แฟนเดิมๆ FC ได้ยิ้มอย่างมีความสุข หรือแม้แต่ เบน แอฟเฟล็ก มนุษย์ค้างคาวยุคใหม่แม้จะมาแต่นิดหน่อย แต่ก็ดูดี ดูมีพลัง ให้ภาพของฮีโร่ DC ที่ทำมาในยุคนี้เป็นตัวเชื่อมภาพของหนังฝั่ง DC ในสองยุคเข้าหากัน
บรู๊ซ เวนย์ สองยุค ทั้ง ไมเคิล คีตัน กับ เบน แอฟเฟล็ก ยังมาช่วยขยี้ เติมเต็มในส่วนของความเหงา ความเดียวดายของความเป็นฮีโร่ไม่เพียงแต่สองมนุษย์ค้างคาวเท่านั้น อัลเฟรด คนสนิท ที่รับบทโดย เจเรมี่ไอรอน ยังกลับมาร่วมขบวนการอีกด้วย
ซาช่า แคลล์ มาพร้อมกับความสวยเซ็กซี่ เป็น คาร่า ซอร์-เอลหรือ ซุปเปอร์เกิร์ล ที่มีแรงดึงดูด ดูมีพลัง บทเหมือนจะส่ง แต่ดูไปๆกลับรู้สึกค่อยๆ แผ่ว น่าจะเด่นกว่านี้
มีเสียงบ่นออกมาว่า เดอะ แฟลช (The Flash) แทบจะไม่มีอะไรที่ต่างไปจากในซีรี่ส์เลย ทำให้ลดทอนความสนุก แต่ถ้าคนที่ไม่เคยดูซีรี่ส์ไม่เคยอ่านคอมมิคมาก่อน ไม่น่าจะมีผลอะไรกับในส่วนนี้ (แล้วทำไมแบทแมน หรือซูเปอร์แมน หรือฮีโร่คนอื่นๆ ก็รู้เรื่องดีอยู่แล้วมาทำใหม่แต่ละครั้งกลับไม่เห็นมีใครบ่น) ท้ายเอนเครดิตมีติ่งให้ดูกัน 1 ตัว อย่าเพิ่งลุกต้องดูจนปิดจอนะครับ เดอะ แฟลช (The Flash) ยังคงเป็นซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ที่ดูสนุกถูกใจ ดูแบบปล่อยใจเพลินๆ ไปตลอดเวลา 140 นาทีของตัวหนังมนุษย์สายฟ้า ฮีโร่ที่คุ้นเคยมาตั้งแต่เป็นเด็กน้อย หรือเดอะแฟลช ในยุคนี้สนุกสนานได้ใจระดับ 10/10 คะแนนครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี