อลหม่านหลังบ้านทรายทอง คือ ละครเวทีในตำนานของ ดรีมบ็อกซ์ที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ละครเวทีในบ้านเรา เปิดการแสดงสองครั้งจำนวน100 รอบ
ครั้งแรก ในปี 2542 ที่โรงละครกรุงเทพ 50 รอบการแสดง ครั้งที่สองในปี 2548 Bangkok theatre เมโทรโปลิส ราชดำริ อีก 50 รอบ
จากผลงานการกำกับของ ลิง-สุวรรณดี จักราวรวุธ บทละครโดยดารกา วงศ์ศิริ ที่นำเอาตัวละครจากบทประพันธ์ของ ก.สุรางคนางค์ เข้ามาเป็นธีมหลักของเรื่อง
นอกจากนี้ ยังเคยถูกนำไปเป็นละครเวทีศิลปนิพนธ์ ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ในปี 2561 อีกด้วยมาปีนี้ 2566 ดรีมบ็อกซ์ ได้นำ อลหม่านหลังบ้านฯ มารีสเตทอีกครั้ง เป็นรอบที่ 101-108 (จริงๆ แล้ว เรื่องนี้เตรียมเปิดการแสดงในปี 2563 แต่ติดปัญหาโควิด เลยต้องงดการแสดงไป นักแสดงหลักเปลี่ยนตัวแสดงไปหลายคน)
อลหม่านหลังบ้านทรายทอง เล่าเรื่องของการซ้อมละครเวทีเรื่องบ้านทรายทอง ก่อนวันแสดง มาจนถึงวันแสดงจริงที่มีเรื่องวุ่นวาย การแก้ปัญหาเฉพาะหน้ามากมาย
ตัวละครแบ่งเป็น 2 องก์ องก์แรกพาไปรู้จักตัวละครที่มา บุคลิก นิสัย คาแร็กเตอร์ต่างๆ โยงเข้ากับตัวละครในบ้านทรายทองที่เราคุ้นๆ กันดี ในวันซ้อมใหญ่ ก่อนที่จะเข้าในองก์ที่สอง วันแสดงจริงความวุ่นวายทั้งบนเวทีและหลังเวที
ลิง-สุวรรณดี จักราวรวุธ กลับมากำกับละครเวทีเรื่องนี้คงจากบทเดิมของ ดารกา วงศ์ศิริ ที่ยังคงยึดเส้นเรื่องการเล่าเรื่องแบบเดิมๆ เอาไว้เพียงแต่ดัดแปลงบทสนทนา มุขตลกบางส่วนให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปโดยเฉพาะเทคโนโลยีโซเชียล โดยไม่ทำให้ความสนุกสูญเสียไป
อลหม่านหลังบ้านทรายทอง เป็นละครที่ใช้ฉากเดียว คือ ฉากภายในบ้านทรายทอง ที่ใช้เวทีการแสดง แต่ที่เก๋ไก๋คือฉากนี้จะหมุนกลับไป-กลับมาในองก์สอง ให้เห็นความวุ่นวายหลังเวทีได้อย่างเต็มที่ เสื้อผ้า หน้าผม ดูดีเข้ากับเรื่อง หากฉันรู้สักนิด ยังคงถูกนำมาเป็นเพลงหลักมาเป็นระยะส่วนเพลง บ้านทรายทอง นั้นถูกแต่งขึ้นมาใหม่ที่บอกเรื่องไพเราะมากๆ
เสน่ห์ของ อลหม่านหลังบ้านทรายทอง อยู่ที่เรื่อง/มุขที่สนุกสนานและการแสดงที่ลื่นไหลเข้าขากันของเหล่านักแสดงทั้ง 9 คน
หมอก้อง-รวิชญ์ สุบุญ ครั้งแรกกับงานละครเวที ทำได้ดี เล่นได้แบบลื่นไหล ฉีกไปจากภาพเดิมๆ ที่เคยดูกันมา เรียกเสียงฮา และรอยยิ้ม
ได้ตลอดเวลา ในบท หรั่ง ผู้กำกับเวทีผู้ต้องเผชิญปัญหาสากกะเบือยันเรือรบ
จอย-รินลณี ศรีเพ็ญ สวยด้วย เก่งด้วย ใช่เลยกับบท น้ำ อดีตนางเอกพจมาน ที่ปลดระวาง ต้องมารับบทหญิงใหญ่ เล่นได้แบบลื่นไหล
ทั้งบทจริงจังหรือบทที่เรียกเสียงฮา
ปุยฝ้าย-ภัทณชา วิภัทรเดชตระกูล ในบท นุช นางเอกสาวสวย ที่มารับบท พจมาน มาพร้อมกับพัฒนาการทางการแสดงละครเวทีที่เอาอยู่
ตรึงคนดูให้สนุก เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา
นีโน่-เมทนี บูรณศิริ เหมาะมากๆ กับบท อาทูน เสี่ยใหญ่ ผู้กำกับจอมเจ้าชู้ บุคลิกท่าทาง ลูกก้อร่อก้อติกสาวๆ ใช่เลย เหมือนมาดูตัวนีโน่มากกว่าจะมาดูตัวละครที่เขาเล่น
เนย BNK48-กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล น่ารักสวยสมวัย กับบทน้องพลอย นักศึกษาที่เข้ามาช่วยเพิ่มความสดใสน่ารักให้กับตัวเรื่องได้มากทีเดียว
ผัดไท-ดีใจ ดีดีดี ในบท จุ๋ม ที่มาสวมบทหญิงเล็ก แค่เห็นหน้าก็ฮากระจาย เข้ามาเพื่อขยี้เสียงหัวเราะได้แบบเต็มที่
เวลล์-ดิษย์กรณ์ ดิษยนันท์ ในบท หนุ่ม ที่มารับบทชายกลาง เล่นแบบเรื่อยๆ สบายๆ ในตอนที่สวมบทชายกลางที่ดูแข็งๆ ทื่อๆ พูดเหมือนท่องบท เป็นการล้อเลียนบทนี้ เล่นดีจนเหมือนเขาเล่นแข็งจริงๆ
และต้องขอคารวะปรบมือให้กับสองนักแสดงที่ยังคงผูกขาด กลับมารับบทเดิมอีกครั้ง ป้าจิ๊-อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ นักแสดงอาวุโส
ขี้เหล้า ผู้สวมบท หม่อมพรรณราย เล่นได้แบบมีพลัง ดูขี้เมาดูสูงวัย เรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเวลา แทบจะไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปจาก 100 รอบ
ที่ผ่านมา เวลาผ่านไปนานกว่า 20 ปี
ก่อ กมลพัฒนะ ยังคงเรียกเสียงฮาได้ในทุกๆ ฉากที่ปรากฏตัวออกมากับบท ดอน ที่มาแสดงเป็นชายน้อย หยิบเอาคาแร็กเตอร์บุคลิกของชายน้อย มาล้อเลียนได้ใช่เลย แม้วัยจะดูเปลี่ยนไปตามวัย แต่ ก่อ ก็คงทำให้คนดูเชื่อและอินไปกับบทนี้
อลหม่านหลังบ้านทรายทอง ยังคงเหลือการแสดงอีก 4 รอบสุดท้าย ศุกร์ที่ 7 ก.ค. รอบ 19.30 น., เสาร์ที่ 8 ก.ค. รอบ 14.00 น., 19.30 น. และอาทิตย์ที่ 9 ก.ค. รอบ 14.00 น.
อลหม่านหลังบ้านทรายทอง คือ ละครเวทีแนวสนุกสนานเสียดสีอีกหนึ่งงานขึ้นหิ้ง น่าจดจำของละครเวทีแบบไทยๆ ที่ต้องไม่พลาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี