หนังสารคดี จากค่าย BrandThink Cinema และ Smalt Pictures หนัง  Real Footage รสชาติใหม่ของหนังไทยที่สะท้อนภาพชีวิตนักมวยไทย ผลงานการกำกับหนังเรื่องแรกของ ท็อป-ระวีพิริยะพงศ์ศักดิ์ ที่ใช้เวลาการเดินทางกว่า 3 ปี ถ่ายทอดภาพจริงของนักมวยที่ชีวิตไม่ได้มีแต้มต่อ ทางเลือกเดียวคือกัดฟันสู้เพื่อความฝันที่จะพาตัวเองและครอบครัวให้สุขสบายขึ้น โดยเปรียบได้กับการชกยกที่ 5 ซึ่งเป็นยกสุดท้าย ไม่ว่ามีเรี่ยวแรงเท่าไรก็ต้องใส่ไม่ยั้งใส่ไปให้หมด

ซำเหมา เพชรประกายจันทร์ นักชกเด็กในวัยเพียง 7 ขวบ ผู้ฝันจะได้เป็นมวยเด็กภาคอีสาน, พลายเงิน ศิษย์ศรพิชัย ดาวรุ่งเลือดใหม่ที่ไขว่คว้า
หาทางโด่งดังบนเวทีราชดำเนิน, เพชรดำ เพชรยินดี และ ช่อฟ้า ท.แสงเทียนน้อย นักมวยหนุ่มที่กำลังจะเตรียมสู้ศึกครั้งสำคัญ 

วันฉลอง พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักมวยรุ่นใหญ่ที่ต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อให้สามารถอยู่ในสังเวียนผ้าใบได้ต่อไป ทุกคนล้วนเป็นนักสู้ที่ไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรค เป้าหมายเดียวของพวกเขาคือเข็มขัดแชมป์ที่จะเปลี่ยนชีวิตเดิมๆ ให้ดียิ่งขึ้น 

5th Round สังเวียนมวยรอง พาไปตามติดชีวิตของนักมวยทั้ง 5 ผ่านการติดตาม การพูดคุยกับตัวของเจ้าของเรื่องเอง ครูฝึกและ เจ้าของค่ายมวย

ท็อป-ระวี พิริยะพงศ์ศักดิ์ ทำ 5th Round สังเวียนมวยรอง ออกมาเป็นหนังสารคดีที่ดูสนุกดูได้เพลินๆ จังหวะการเล่าเรื่องดี ไม่น่าเบื่อ ดูรู้เรื่อง แม้ว่าจะเป็นแฟนมวย หรือไม่ใช้แฟนมวยก็ตาม คนที่รู้จักนักมวยต้นเรื่อง สนุกไปกับการตามดูชีวิตจริงๆ ข้างล่างเวที ส่วนคนที่ไม่ใช่แฟนมวย ก็เพลินไปกับการดูชีวิตจริงที่แทบจะไม่ต่างจากในนิยาย 

ตัวหนังไม่ได้เน้นไปที่การต่อสู้บนเวทีอันดุเดือดถึงเลือดถึงเนื้อ แต่ บนสังเวียนเป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้น ภาพจริง เสียงจริง สู้กันจริงๆ เจ็บจริง และเป็นชีวิตจริงๆ ที่นักมวยทุกคนต้องเจอ

ภาพสะท้อนชีวิตอันหลากหลาย จุดเริ่มต้น ความฝัน ที่แทบจะไม่ต่างกัน ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ชื่อเสียง เงินทอง การเดินทางตามหาและทำความฝันให้เป็นจริง

จุดจบ จุดพลิกผัน จุดเปลี่ยนที่ต่างกันออกไป

ฝันสลายจากการบาดเจ็บจากการมวย นักมวยโนเนม เด็กหนุ่มเดินทางไกลเข้ากรุงเทพฯ ฝึกหนัก ทำทุกอย่างเพื่อเป็นนักมวย รอโอกาส มาช่วยเพื่อชีวิตครอบครัวที่ดีขึ้น มีเพียงการวีดีโอคอลคุยกับลูกเมียเป็นเครื่องคลายเหงา

แชมป์หลายเวทีแต่ถูกน็อกเพียงครั้งเดียว ชีวิตบนสังเวียนดับวูบแพ้ตลอด กว่าจะใช้เวลากลับมาอีกครั้งก็กินเวลานาน นักชกระดับแชมป์ ฝีมือดี แต่ไปขึ้นเวทีระดับโลกพ่าย เพราะสภาพแวดล้อมนักมวยที่หมดสภาพ จากค่าตัวหลักล้านเหลือแค่หลักหมื่น 

นอกจากนำเสนอภาพของนักชกบนเวทีแล้ว ตัวหนังยังสะท้อนภาพของวงการมวยผ่านการบอกเล่าของเจ้าของค่ายมวย ผ่ายการนำเสนอที่ ชวนให้อมยิ้ม ผ่านมุขที่ง่ายๆ สบายๆ ไม่ซับซ้อน

“บนเวที ชกกันแทบเป็นแทบตาย แต่พอลงมาเป็นเพื่อนกัน”

“เราต้องไปไหว้เซียนมวย การไหว้ศาลพระภูมิ ไม่ได้ช่วยให้เป็นแชมป์”

“การพนันมันอยู่คู่กับมวยมานานแล้ว มันแยกกันไม่ได้

“อยากให้กีฬานำการพนัน ไม่ใช่การพนันนำกีฬา”

“ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน มันขึ้นราคา ถ้ามวยชนะก็รอด ถ้าแพ้ก็แย่”

“นักมวยที่จะไปเป็นแชมป์โลกได้ ต้องผ่านเวทีมามากกว่า 300 เวที ไม่ใช่แค่ 100 กว่าเวที”

“นักมวยไทย มักจะมีจุดจบอยู่ที่การกลับไปเป็นตำนานที่ต่างจังหวัด”

“การจะปั้นนักมวยสักคนต้องใช้เงินมากมายหลักแสน แต่พอชกไม่กี่ไฟล์ก็เกเรย้ายค่าย คนที่เจ็บหนักคือเจ้าของค่าย...ถ้านักมวยไม่ชนะ จะยุบค่าย”

5th Round สังเวียนมวยรอง ชัดเจนในความเป็นหนังสารคดีชีวิตนักมวยที่ครบถ้วน จุดเริ่มต้นพลิกผันบทสรุปในแบบที่สั้นกระชับได้ใจความ เฉลี่ยๆ กันไป น้ำหนักเท่าๆ กันในแต่ละคน เพลินไปกับภาพการฝึกซ้อม ชีวิตประจำวันภาพในสนามมวย การพนันขันต่อ เสียงปี่กลองที่อยู่คู่กับมวยไทย คนที่ดูที่ไม่ยอมรับแม้ผลออกมาจะเสมอ หนังดูได้เพลินๆ แต่...อาจจะไม่สนุกนัก สำหรับคนที่คาดหวังจะเข้ามาดูการต่อสู้อันดุเดือดบนเวที

ชีวิตบนสังเวียน สุดท้ายแล้วไม่ต่างอะไรกับยกที่ 5 ยกสุดท้ายที่มี ทั้งแพ้/ชนะ/เสมอ เวทีต่อไปจะมีหรือไม่ ไปต่อหรือหยุดเพียงแค่นี้ แต่เอาเข้าจริงๆ เลือดนักมวยเข้มข้น ทุกคน..หนีเวทีมวยไม่พ้น สนุกดูได้เรื่อยๆ ในระดับ 7/10 คะแนน