6 สิงหาคม 2567 ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ ออกมาเปิดใจทั้งน้ำตาหลังคุณแม่ถูกแก๊งมิจฉาชีพ หลอกให้โอนเงินหลักล้าน โดยอ้างว่ามีชื่อพัวพันกับบัญชีม้าสำหรับใช้ฟอกเงินกว่า 14 ล้าน อีกทั้งยังมีการให้ข้อมูลน่าเชื่อถือ จนคุณแม่เกิดหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อ
โดยได๋ ไดอาน่า เล่าว่า คุณแม่โดนคอลเซนเตอร์หลอกให้โอนเงิน มูลค่า 1 ล้านบาท ซึ่งเราไม่เคยคิดว่าวันนึง เราจะต้องมาแก้ปัญหานี้ให้กับคุณแม่ เรื่องของเรื่องก็คือ เมื่อวานนี้มีมิสคอลจากคุณแม่แจ้งเข้ามาที่โทรศัพท์ได๋ ซึ่งได๋กำลังทำงานอยู่ แล้วพอได๋โทรกลับไปก็ไม่มีใครรับสาย จนกระทั่งติดต่อได้ คุณแม่ก็พูดขึ้นมาว่า แม่ไม่มีเวลาแล้ว แม่ไม่มีเวลาแล้ว แม่เหลือเวลาอีกไม่มาก ตอนนั้นได๋ก็ตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พยายามถามท่าน ซึ่งคุณแม่ก็ให้ข้อมูลว่า 'แม่พูดอะไรไม่ได้เลย มันต้องเป็นความลับ บอกใครไม่ได้ แม่ตกอยู่ในอันตราย' ตอนนั้นด้วยความที่ได๋เองก็ตกใจ ได๋เลยรีบเดินทางไปหาท่านที่บ้าน จนไปถึงบ้านคุณแม่ก็บอกกับได๋ว่า แม่ต้องไปรายงานตัว แล้วสุดท้ายได๋ก็ได้เห็นว่า เขาวิดีโอคอลรายงานตัวกับมิจฉาชีพ
โดยจะเล่าย้อนว่าก็คือเมื่อเวลาประมาณ 11 โมง แม่ได้รับโทรศัพท์จากคนที่อ้างว่าเป็น เจ้าหน้าที่ค่ายมือถือค่ายหนึ่ง โดยเขาบอกว่า เจ้าของเบอร์โทรศัพท์นี้ถูกตรวจสอบพบว่ามีการฟอกเงินมูลค่า 14 ล้าน และต้องโอนสายให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อพูดคุย จากนั้นพอโอนสายปุ๊บ เจ้าหน้าที่ก็พูดประมาณว่าแบบ ชื่อของคุณถูกใช้แอบอ้างเป็นบัญชีม้า และตอนนี้คุณก็ตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งเราจะช่วยคุณ คือเขาก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งได้แอดไลน์ แต่ไฮไลต์ของเรื่องมันอยู่ตรงที่ พอแอดไลน์เสร็จเขาถ่ายหน้าบุ๊กแบงค์ แล้วหน้าบุ๊กแบงค์นั้นก็มีชื่อของคุณแม่อยู่จริงๆ นั่นหมายความว่า เขาลงทุนทำเอกสารที่เป็นบุ๊กแบงค์ส่งมาให้คุณแม่ดู เพื่อให้แม่เข้าใจว่าท่านตกเป็นผู้ต้องหาแล้วจริงๆ รวมถึงเขามีข้อมูลเชิงลึกอีกหลายๆ อย่าง ที่เราเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขารู้มาได้ยังไง
นั้นแหละค่ะ แล้วคุณแม่ก็โอนให้เขาหมดบัญชีเลย บัญชีที่เป็นโมบายแบงค์กิ้ง คุณแม่โอนให้หมดเลย ซึ่งทางมิจฉาชีพเขาก็เก่ง เพราะเขากำกับให้ตลอดเลย เขากำกับจนคุณแม่เดินทางไปธนาคารเพื่อขายกองทุน จนคุณแม่แบบเตรียมล้างทุกบัญชีที่มีอยู่ เพื่อโอนให้มิจฉาชีพ แต่ทางเราก็ยังมีโชคดีอยู่ตรงที่ธุรกรรมบางอย่างมันติดขั้นตอนเคลียร์ลิ่ง เลยทำให้คุณแม่โอนได้แค่ 1 ล้านบาท ยอดแรก 199,000 บาท , ยอดที่สอง 330,000 บาท , ยอดที่สาม 500,000 บาท
ซึ่งพอเกิดเรื่องขึ้นปุ๊บ เขาก็บอกกับคุณแม่ว่าห้ามบอกใคร เพราะถ้าบอกจะเป็นอันตราย จะจับเข้าคุก บอกลูกก็ไม่ได้ เพราะถ้าลูกรู้ ลูกก็จะโดนไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นมันจึงเป็นการที่คุณแม่เขาเป็นห่วงได๋ และเขาพยายามที่จะสู้ด้วยตัวเอง มิจฉาชีพมันร้ายมากเลยนะคะ
ตอนที่ได๋ไปเจอกับคุณแม่ครั้งแรกแล้วรู้เรื่อง ก็คือคุณแม่ท่านตกใจ แต่ได๋ก็ต้องพยายามบอกกับเขาว่าทั้งหมดมันเป็นแผนการของแก๊งมิจฉาชีพ กระทั่งเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (6 ส.ค) เวลาประมาณ 9 โมง ทางนั้นเขาก็ยังโทรมาหาคุณแม่อีก เขาบอกให้แม่รายงานตัว ซึ่งได๋คิดว่าน่าจะเป็นเพราะเขาเห็นบัญชีของคุณแม่หมดแล้ว ว่าคุณแม่มีทรัพย์สินอะไรบ้าง ดังนั้นเขาจึงอยากที่จะกำกับให้คุณแม่โอนให้เขาทั้งหมด
จริงๆ ได๋ก็อยากจะใช้โอกาสนี้บอกกับทุกคนนะคะว่า เงินที่มันเสียไป มันไม่มีทางได้กลับคืนมา และให้ถือว่าเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ได๋ขอฝากให้ช่วยกระจายเรื่องนี้ต่อไปถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในครอบครัวของทุกคนนะคะ เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้มันเกิดขึ้นอีก ส่วนเรื่องการแจ้งตำรวจ ก็ไปมาแล้วนะคะเมื่อคืน ซึ่งทางตำรวจเขาก็บอกว่าเคสแบบนี้มีวันหนึ่งประมาณ 20 ราย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี