ถึงเวลาสำคัญที่แฟนๆ รอคอยกับการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เวที “The Golden Song เวทีเพลงเพราะ 6” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยฝีมือ อาจารย์ภัทรไชย แสงดอกไม้ สาขาหัตถศิลป์ วิทยาลัยเพาะช่างมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ กับเส้นทางการแข่งขันที่ขับเคี่ยวอย่างเข้มข้นตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาของผู้สมัครหมื่นกว่าชีวิตเพื่อค้นหาผู้ที่ขับร้องบทเพลงทองคำได้ไพเราะโดนใจ ซึ่งในที่สุดก็ได้ 6 คนสุดท้ายมาทำการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งต้องบอกเลยว่าแต่ละคนดีกรีไม่ธรรมดา เสียงดี มีของความสามารถไม่เป็นสองรองใคร
อู๊ด-อุดมศักดิ์ นักร้องอิสระ วัย 63 ปี จาก จ.อุบลราชธานี แม้จะเคยออกอัลบั้ม มีเพลงเป็นของตัวเองมาแล้วแต่ก็ไม่เคยทิ้งฝันการเป็นนักร้องและอยากเป็นแบบอย่างให้คนวัยเก๋า อย่าให้อายุมาปิดกั้นโอกาสในการหาความสุขในการใช้ชีวิต ซึ่งตลอดการแข่งขันลุงอู๊ดก็พิสูจน์ให้ผู้ชมได้เห็นว่า 60 กว่าก็เจ๋งได้ ไม่แพ้ใคร
ปุ้ย-ดวงพร ครูสอนร้องเพลง วัย 41 ปี จาก กรุงเทพมหานคร ที่หลายคนจดจำได้จากการประกวดเวที The Voice ผ่านงานในวงการบันเทิงมาแล้วมากมาย แต่ตลอดเส้นทางการแข่งขันของเธอบนเวทีนี้ก็มีอุปสรรคไม่ใช่น้อย แต่สุดท้ายเธอก็ขอฮึดสู้ ปลุกไฟให้ตัวเองอีกครั้ง เพื่อโชว์ศักยภาพให้ทุกคนได้เห็น
ไอติม-กัลยรัตน์ เรืออากาศตรีหญิง วัย 30 ปี จาก จ.ตราด สาวดุริยางค์ทหารอากาศที่อยากพิสูจน์ตัวเองในการเป็นนักร้อง และอยากมาถ่ายทอดบทเพลงทองคำในแบบฉบับของตัวเองให้ทุกคนได้เห็น โดยมีคุณพ่อเป็นคนแรงใจสำคัญที่คอยซัพพอร์ตทุกการเดินทางบนถนนสายดนตรีนี้
ซาย-ภิสา นางเอกลิเก อายุ 32 ปี กรุงเทพมหานคร ลูกสาวคนสวย ทายาทเพียง 1 เดียวของ พงษ์ศักดิ์ สวนศรี พระเอกลิเก เจ้าของคณะลิเกโรงใหญ่ พงษ์ศักดิ์ สวนศรี และหวังอยากนำลิเกมาแสดงบนเวทีเกียรติยศ ให้ลิเกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง เหมือนที่เวทีนี้ที่ทำให้บทเพลงทองคำกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
โก๊ะตุลย์-พันธนนท์ ข้าราชการ พลอาสาสมัคร กรมดุริยางค์ทหารบก อายุ 24 ปี จาก จ.นครศรีธรรมราช นักร้องเสียงดี ที่กวาดรางวัลมาแล้วหลายเวที และมีคุณแม่คอยเป็นลมใต้ปีกและจับมือสู้ด้วยกันในทุกเส้นทางแม้กระทั่งต้องนอนป้ายรถเมล์เพื่อรอไปประกวดตามเวทีต่างๆ ก็ทำมาแล้ว ซึ่งการมาประกวดบนเวทีนี้ก็หวังให้ใครหลายๆ คนได้ฟังเขาร้องเพลงอย่างมีความสุข
บิ๊ก-จักริน อดีตครูหนุ่ม วัย 24 ปี จาก จ.เชียงใหม่ ที่รักในการร้องเพลง และเดินสายประกวดมาตั้งแต่เด็กๆ แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องตัดสินใจเลือกเส้นทางชีวิต เขาจึงลาออกจากอาชีพครูที่ยึดเป็นอาชีพหลักเลี้ยงดูครอบครัว เข้าสู่กรุงเทพฯ เพื่อมาทำความฝันการเป็นนักร้องบนเวทีแห่งนี้ให้สำเร็จ
ด้วยความมุ่งมั่น บวกกับความสามารถและน้ำเสียงที่ไพเราะจับใจทำให้พวกเขาสามารถก้าวเข้ามาเป็นผู้แข่งขัน 6 คนสุดท้าย และจะทำการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศกันอย่างดุเดือด โดยจะถูกแบ่งออกเป็น 2 รอบ คือ รอบเก็บคะแนน และรอบประกาศผลซึ่งผู้ที่ได้รับคะแนนรวมสูงสุดเพียงหนึ่งเดียว จะได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัลจาก Carrier มูลค่า 500,000 บาท ใครจะเป็นแชมป์คนใหม่ของ The Golden Song? พบกับรอบชิงชนะเลิศรอบเก็บคะแนน วันอาทิตย์ที่ 18 ส.ค.นี้ เวลา 18.00 น. ทางช่องวัน 31
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี