“ผัวผู้ชาย เอาไว้ใช้แรงงาน หาเงิน เมียผู้หญิงเอาไว้เป็นคนใช้ดูแลแม่” วิมานหนาม ผลงานเรื่องล่าสุดของ GDH ที่ผลิตร่วมกับ ใจ สตูดิโอ ค่ายหนังน้องใหม่ งานกำกับหนังชิ้นแรกของ บอส-นฤเบศ กูโนตอนแรกที่เห็นตัวอย่าง วิมานหนาม รู้สึกเฉยๆ ตัวอย่างเหมือนจะเล่าเรื่องทุกอย่าง แค่รอเข้าไปเก็บรายละเอียดระหว่างกับบทสรุปภาพหนัง GDHมาแบบชัดเจน มักจะหยิบจับเอาสิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวมานำเสนอ
บอส-นฤเบศ กูโน ทำ วิมานหนาม ออกมาดูสนุกแทบจะไม่มีช่วงน่าเบื่อ ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการพูดในแบบตรงไป-ตรงมาไม่อ้อมค้อม โทนหนังมีความเป็นหนังวายสูง แม้จะเป็นหนังดราม่าทริลเลอร์ก็ตาม ชัดเจนในการนำเสนอเรื่องของ LGBTQ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น สิทธิความไม่เท่าเทียมในสังคม ทั้งในแง่ของกฎหมาย สังคมรอบข้างผ่านการเล่าเรื่องในพลอตที่คุ้นเคย ในหนัง/ละครโทรทัศน์ แม่ผัว ลูกสะใภ้การแย่งชิงสมบัติ การแย่งชิงความรัก ตัวหนังค่อยๆ ปูรายละเอียดความสัมพันธ์ของตัวละครหลัก ก่อนที่จะเผยอีกด้านให้เห็นว่าทุกคนมีทั้งด้านดีด้านร้าย ด้านมืดด้านสว่าง ทำให้สนุกไปกับการปรับอารมณ์ที่มาพร้อมกับความสนุกสนาน ดราม่าหนักที่ดูกันได้แบบไม่ซีเรียส มุขตลกจิกกัดสะท้อนสังคม ระบบราชการ แพทย์ ที่ดิน การเชือดเฉือนกันของตัวละคร ชอบ ฉากสงครามทุเรียนที่ดูจริงจัง ดุดัน แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน หนังถ่ายภาพสวยมากๆ แสง สี ภาพ ทั้งกลางวันกลางคืน รับกับโทนหนังในแต่ละช่วงเหตุการณ์ได้ดี สวนทุเรียนออกมาสวยงาม ภาพหุบเขาสวนสวยจนชวนให้อยากไปสัมผัส รวมทั้งหนังยังแทรกประเพณีบนดอย ทั้งงานศพ งานบวช งานแต่งงาน การจุดบั้งไฟขอฝนออกมาให้เห็น หรือวิธีการทำสวนทุเรียนตั้งแต่ยังเป็นดอก ดูจบแล้วแทบจะเป็นชาวสวนได้เลยฉากเลิฟซีนในเรื่องไม่ได้พร่ำเพรื่อ มาเท่าที่จำเป็น ตัวละครหลักในเรื่องมีแค่ไม่กี่ตัว แต่ละคนมีความหลากหลาย มีความเป็นตัวของตัวเองไม่ซับซ้อน ทำให้หนังดูไม่ยาก ต้องชมนักแสดงทุกคนที่เล่นได้ดี ทำให้ อินไปกับตัวละครต่างๆ
เจฟ ชาเตอร์ อาจจะดูแข็งๆ บ้างในช่วงแรกแต่พอดูๆ ไปก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ เหมือนค่อยๆ โตขึ้น โตตามเหตุการณ์ต่างๆ ที่ต้องเจอ เล่นดีมีเสน่ห์เฉพาะตัว แม้น้ำเสียงคำพูดอาจจะไม่ค่อยชัดนัก แต่เสน่ห์เฉพาะตัวทำให้มองข้ามได้
อิงฟ้า วราหะ เล่นได้ดีเกินคาด ทั้งอารมณ์เก็บกด ฟาดงวงฟาดงาความร้าย ความเห็นแก่ตัว ชอบในหลายๆ ฉาก อาทิ สงครามทุเรียนฉากเต้นรำที่ดูปลดปล่อยทุกอย่างในงานบุญบั้งไฟ หรือฉากเฉลยปมทั้งหมดทั้งกับแม่เลี้ยงและพี่เสก
สีดา พัวพิมล สุดยอดยอดเยี่ยม พลังจัดเต็มทั้งสีหน้าท่าทางสิ่งที่ซ่อนอยู่ข้างใน หรือปล่อยทุกอย่างออกมา ส่งบทส่งพลังให้กับนักแสดงคนอื่น ทำให้หนังสนุกขึ้น
เก่ง-หฤษฎ์ บัวย้อย ค่อยๆ ไต่น้ำหนักการแสดงขึ้นไปเรื่อย จากที่ จิ่งนะ เป็นเหมือนตัวประกอบ กลายมาเป็นตัวละครสำคัญขึ้น ค่อยๆ โตขึ้น
เต้ย-พงศกร เมตตาริกานนท์ ฉีกภาพเดิมๆ ที่คุ้นๆ กันมาบทอาจจะน้อย แต่พอตอนเฉลยปม ทำให้คนดูเกลียดได้ไม่ยาก
สิ่งหนึ่งที่เหมือนจากหายไป คือ ตัวละครขโมยซีน บทเล็กๆ ที่โดนใจคนดู ที่ทุกเรื่องของ GDH ต้องมี แต่ เรื่องกลับหายไปนอกจากบทหนังที่สนุก โปรดักชั่นงาม นักแสดงทุ่มสุดตัวแล้ว ดนตรีประกอบยังเข้ามาช่วยขยี้อารมณ์ได้อย่างไพเราะ ในทุกช่วงทุกตอน รวมไปถึงเพลงประกอบที่คุ้นหูหลายเพลง รวมทั้งเพลงท้ายเรื่องช่วงเอนเครดิตวิมานหนาม จบแบบไม่อยู่เหนือความคาดหมาย ด้วยโทนหนัง บรรยากาศ และตัวละคร คิดไว้แล้วว่าต้องออกมาแบบนี้ ลงเอยแบบที่ควรจะเป็น ไม่โลกสวย ไม่ฟิลกู้ดด้วย ทางออก..แบบนี้ใช่เลย ดู วิมานหนามแล้วชวนให้นึกถึง วิมานลอย (Gone With the Wind) ที่บทสรุปไม่ต่างอะไรกัน วิมานทุเรียน ท้ายสุดแล้วก็เป็นได้แค่ วิมานลอย“คนแบบพวกเรา จะโง่ยกทุกอย่างให้ผู้ชายไม่ได้หรอกนะ” ให้ 8/10 คะแนน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี