30 สิงหาคม 2567 เรียกได้ว่าจบสิ้นสักทีสำหรับมหากาพย์คดีลักทรัพย์ มูลค่ากว่า 20 ล้าน หลังจากที่ผู้จัดฯ-นักแสดงชื่อดัง 'แอน ทองประสม' ได้ขึ้นศาลครั้งแรก นัดสืบพยานในคดีถูกอดีตผู้ช่วยเลขาขโมยทรัพย์สินนำไปขายและจำนำ ก่อนที่นางเอกสาวจะทำการอายัดทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปคืนกลับมา แต่ยังเหลือเพชรที่มีมูลค่าเยอะกว่าทุกชิ้น ที่เจ้าตัวยังไม่ได้คืน
โดยล่าสุด 'แอน ทองประสม' ได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว "@annethong" ระบุข้อความว่า "จบแล้วค่ะ 2 ปีเต็ม กับมหากาพย์ ”find my Diamonds“ เป็น 2 ปี ที่มีเรื่องมากมายระหว่างทางให้ได้ต่อสู้ และจดจำ
ตอนแรกแอนเกือบถอดใจแล้ว ในการตามเอาทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปคืนมา จนวันนึง มีผู้ใหญ่ท่านนึง เรียกแอนไปถามว่า “เรื่องคดีความไปถึงไหนแล้ว อย่าหมดหวัง ไปตามกลับคืนมา ทุกอย่างมีทางออก เดี๋ยวช่วยกันคิด”
หลังจากนั้นระหว่างทาง แอนมีผู้คนใจดีมากมาย ที่คอยให้คำแนะนำ ให้ความรู้ ชี้แนะแนวทาง และประคับประคองให้แอนผ่านเรื่องยุ่งยากนีมาได้ ในวันนี้ แอนได้รับความยุติธรรมให้กับตัวเองแล้ว แอนกราบขอบพระคุณทุกๆท่านจากหัวใจ ที่ให้ความเมตตากับแอนด้วยนะคะ ???????????? 25/7/65-28/8/67"
ต่อมา 'แอน ทองประสม' ได้เดินทางมาร่วมงาน 'เปิดตัวคอลเลกชัน UNIQLO Fall Winter2024'ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ปิดจ๊อบแล้วค่ะ แอนลุ้นมากค่ะ เมื่อวานนี้แอนไปศาลนัดสืบพยานทั้งฝั่งเราและเขามา แอนก็เตรียมสคริปต์ที่ต้องพูดไปแต่ก็ไม่ได้ใช้ เพราะก็มีการสรุปกันได้เร็วกว่านั้น มันเป็นอะไรที่เรารู้สึกมันน่าขมขื่นมาก ทำไมมันถึงเกิดขึ้นกับเรา มันเหมือนในละคร ฉันทำอะไรเนี่ย ณ ตอนนั้นแอนไม่เคยได้บอกเลยว่ารู้สึกอะไร บอกแค่ว่าเหตุการณ์เป็นยังไง แต่วันนี้ก็พอเล่าได้แล้ว
แต่ท้ายสุดแอนโชคดีที่มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งเดินกวักมือเรียกแอน แล้วบอกว่า แอนมานี่หน่อย เล่าให้พี่ฟังหน่อยว่าไปถึงไหนแล้ว แอนบอกเม็ดสุดท้ายนี่ยากสุดเลย แอนคงหมดใจแล้วที่จะตามอาจจะต้องไปจ่ายเงินทั้งหมด เขาก็บอกไม่ต้อง มันมีทางออก ก็เลยมาเริ่มศึกษากัน แอนก็มีผู้ใหญ่ท่านนี้คอยให้คำแนะนำ
ที่ตามมาได้ก็หืดสุด เหนื่อยสุดเลย มันเป็นเม็ดใหญ่สุด แล้วมูลค่ามันสูง มันก็ทำให้ทางฝั่งเขาทำใจยากที่จะคืนกลับมา คือคนอาจจะงงว่าแอนเอาคืนมาจากไหน คนที่ขโมยไปเขาได้รับโทษเรียบร้อย แต่แอนต้องไปต่อสู้กับร้านเพชรร้านนี้แหละที่เขารับซื้อไป ซึ่งในแต่ละร้านที่ผ่านมาทุกท่านก็คืนให้ด้วยเงื่อนไขต่างๆ นานา แต่ส่วนใหญ่ก็จะเห็นใจแอนกันหมด มีอันสุดท้ายนี่แหละที่ต้องใช้เวลา
อย่างที่แอนบอกว่าแอนไม่ได้อยากเดินทางมาถึงจุดที่ต้องขึ้นศาล อยากเอาเวลาไปใช้ชีวิต ทำมาหากินกันเหมือนเดิม แต่มันตกลงกันไม่ได้เราเลยต้องมาถึงสเต็ปนี้
ได้เพชรคืนมาแล้ว? ...
"ได้คืนแล้ว เอาจริงๆ แอนก็ยังมีความไม่กล้าใส่อยู่ มันยังกล้าๆ กลัวๆ มันเป็นเรื่องของอีโมชั่นจัดๆ เลยว่าเราใส่ได้ใช่ไหมเขาเป็นของเราใช่ไหมทำไมมันยากจัง เพราะตอนแอนได้เขามาแอนแทบจะไม่ได้ใช้เขาเลยก็อย่างที่บอกว่าซื้อมาลงทุน เมื่อวานที่นักข่าวจะมาถามแอน แอน ก็ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรได้เพราะไม่รู้ว่าตอนนั้นจะผิดหวังหรือสมหวัง แต่วันนี้ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนและทำให้เรารู้ว่าบางทีการที่เราถูกต้องถ้าเราไม่เตรียมข้อมูลเพียงพอมันก็จะไม่ใช่เป็นฝ่ายเราที่จะได้ไปเช่นกัน"
ในมุมที่สู้มาจนชนะวันนี้? ...
"คือเราเก็บของต้องมีทั้งใบเซอร์ ทั้งหลักฐานที่เป็นของๆ เรา ถ้าหายไปแล้วในการแจ้งความเราก็ต้องชัดเจนว่าเป็นเจ้าของที่แท้จริง เพราะวันหนึ่งมันจะพิสูจน์ได้ว่าเป็นของเราจริงหรือไม่"
หลังจากนี้จะกล้าซื้อทรัพย์สินอะไรใหม่ๆ อีกมั้ย? ...
"แอนไม่ได้อยากให้ทุกคนหลอนคนใกล้ตัวนะ แต่เราไม่เปิดช่องไม่เปิดโอกาสให้ใครมันก็จะดีกว่า บางทีเขาอาจจะไม่เคยมีนิสัยคิดอยากจะทำแบบนั้น แต่พอเราไปวางโต้งๆ ให้เห็น มันอาจจะหวานหรือเกินอยากจะหยิบหรืออะไร ซึ่งกับใครมันก็เกิดขึ้นได้ เราก็ไม่ได้อยากทำให้คนๆ หนึ่งต้องมาติดคุกเพราะเรา อย่าได้เกิดกับใครเลย แอนแค่รู้สึกแบบนั้น"
"แอนเดินเข้าไปบอกอันนี้เป็นของแอน แอนขอดูหน่อยได้ไหม อยากยืนยันว่าของที่คุณรับไปมันเป็นของเรา บางร้านเขาก็เหมือนจะเรียกตำรวจกันไว้กลัวเราจะฉกของเราไปเลยทันที มันเลยทำให้เกิดสัจธรรมว่า ของของเราแต่เราแตะต้องเขาไม่ได้ วันหนึ่งมันถูกเปลี่ยนสถานะ ตรงนั้นมันไม่มีความหมายเลยเรายืนดูแบบไม่สามารถแตะต้องมันได้ในทุกชิ้นที่แอนไป"
"มันเลยทำให้แอนเกิดความรู้สึกว่าไม่ได้อยากได้อะไรอีกแล้วในตอนนั้น ตอนนี้ก็พอก่อน ทำงาน คือเราไม่ได้ขยาดขนาดนั้นแต่มันไม่ได้เร่าร้อนจะอยากได้ คือถ้าต้องมางานแอนก็ใส่ปกติได้ เพียงแต่ว่าต้องให้เวลาแอนคลายตัวอีกหน่อยนึงเท่านั้นเอง"
ณ วันนี้ แอนยอมรับว่าสบายใจขึ้นเพราะตอนแรกไม่รู้ว่าจะชนะคดีไหม มีความกลัวที่จะขาดความเคารพความยุติธรรม เพราะชอบมโนซ้อมความรู้สึกที่จะไม่ได้ว่าจะรู้สึกยังไง คงจะดาวน์เหมือนโดนเตะซ้ำๆ จนเจ็บ แล้วถ้าหากจะโดนอีกคงไม่ไหวถ้าความยุติธรรมไม่เกิดขึ้นกับเราปรากฏว่าความยุติธรรมเกิดจริงๆ เรายังเชื่อมั่นและเรายังมีใจฟูขึ้นมาในการที่จะทำอะไรต่อ ตอนนี้ก็รู้สึกโล่งใจ อย่าขึ้นโรงขึ้นศาลดีที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี