หลวงพี่เท่ง (2548) คือหนังไทยสร้างปรากฏการณ์ทำรายได้เกินร้อยล้านให้กับ พระนครฟิล์ม จนทำให้มีภาคต่อมาอีก 2 ภาค หลวงพี่เท่ง 2 รุ่นฮาร่ำรวย (2551), หลวงพี่เท่ง 3 (2553) ที่แม้จะชื่อเรื่อง “หลวงพี่เท่ง”แต่กลับไม่มี “เท่ง” ร่วมแสดง ไม่มีหลวงพี่เท่ง แต่มีพระรูปอื่นมาแทน แต่ พระเท่ง กลับมาโผล่ใน เท่ง โหน่ง จีวรบิน (2554) หลวงพี่เท่ง 1-3 กำกับโดย โน้ต เชิญยิ้ม (ภาคสามได้ โน้ต จูเนียร์-จิตต์สินธ์ ผ่องอินทรกุล มาร่วมกำกับ) ส่วน  เท่ง โหน่ง จีวรบิน กำกับโดย เท่ง เทิดเถิง, สมิทธิ์ ทิมสวัสดิ์, เฉลิม วงศ์พิมพ์ สร้างโดย สหมงคลฟิลม์

“หลวงพี่เท่ง” กลับมาครั้งนี้! มาแบบครบมุขจัดเต็มทุก GEN “ลูกศิษย์รุ่นเก่า” ก็พร้อม! “ลูกศิษย์รุ่นใหม่”ก็มา! หรือแม้แต่ “คู่ปรับคนใหม่” ก็พร้อมลุย!! ถึงเวลาสนุกไปกับธรรมะหฤหรรษ์ดึงสติคุณให้ขำขันเหนือสุดขอบโลก! เน้นขายความสนุกสนาน มุขต่อมุข สนุกไปกับมุขต่อปากต่อคำ ไม่มีไม่เน้นคำหยาบโลนลามก ดูได้เรื่อยๆ หนังเดินเรื่องไปเรื่อยๆ เดาเรื่องออก เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่าจะเห็นอะไรฉากนั้นจะจบลงแบบไหน แค่รอดูว่าฉากนั้นจะใส่มุขอะไรเข้ามา แทบไม่มีจุดพีค ช่วงไคลแม็กซ์ บทสรุป ทางออกตัวละคร เรียบๆ เกิน จนทำให้รู้สึกว่าหนังเรียบเกินไป น่าจะทำออกมาได้ดีกว่านี้ ถึงมุขอาจจะแป้ก เรื่องอาจจะดูนิ่งๆ หนังมีความเชยแต่ก็ไม่ทำให้หนังแย่ ยังดูได้แบบเพลินๆ ตลอดเรื่อง ภาพรวมบรรยากาศของหนังมาในสไตล์ของ พระนครฟิล์ม คนที่ติดตามมาตลอด หนังพระ หรือหลวงพี่เท่ง คงคุ้นเคยกันดีและในเรื่องนี้มีภาพจากภาคแรกมานิดหน่อย

เท่ง เทิดเทิง มารับบท หลวงพี่เท่ง ในแบบเดิมๆ ที่ดูนิ่งๆแต่ก็เรียกเสียงฮา รอยยิ้ม เสียงหัวเราะในแบบสำรวมๆ

โน้ต เชิญยิ้ม มาในแบบที่น่ารักๆ ช่วยขยี้ เสริมเติมแต่งในทุกๆ ฉาก ที่ออกมา เท่ง กับ โน้ต ดูดี เข้ากันดี ทั้งในด้านการแสดงที่แบกหนังไว้ทั้งเรื่อง และการจับคู่ร่วมกันกำกับทำให้ตัวหนังออกมาดูดีน่าสนใจ

ออกัส-วชิรวิชญ์ ไพศาลกุลวงศ์ ในบท สังข์ ลูกชายเพี้ยน ที่สมัครเป็นลูกศิษย์หลวงพี่เท่ง บทเดินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ชอบไอเดียที่นำบรรดาลูกๆ ของ หม่ำ/เท่ง/โหน่งแก๊งสามช่า มารับบทสำคัญ บทนำในเรื่อง หลวงพี่เท่ง Come Back ดูเพลินๆ ดูได้เรื่อยๆ สบายๆ ดูไปยิ้มไป7/10 คะแนน