การได้รับโอกาสนับเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งในชีวิต แต่การจะต่อยอดโอกาสเหล่านี้ให้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้นั้นต้องพึ่งพาความพยายาม ความอดทนอย่างหนัก เพื่อไต่ขึ้นสู่เป้าหมายที่คาดหวังเอาไว้ บอย  พีซเมคเกอร์ (Peacemaker) หรือ บอย อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี นับว่าเป็นอีกคนหนึ่งที่สามารถนำโอกาสที่ได้รับมาผลักดันตัวเองให้กลายเป็นนักร้องชื่อดังบนเส้นทางสายดนตรีของเขาทำให้เราได้รู้จักกับเนื้อเสียงบาดลึกกินใจกับบทเพลงรักซึมเศร้าประจำตัวของคนอกหักหลากหลายเพลงที่บอยบรรจงเขียนออกมาให้ได้ฟังกันจนเป็นเพลงติดหูจนได้รับฉายา เจ้าพ่อเพลงเศร้า อย่างทุกวันนี้ และแน่นอนว่ากว่าเพลงของเขาจะได้รับการยอมรับจากทุกคน มันไม่ได้มาง่ายๆ แน่นอน

สำหรับจุดเริ่มต้นของผู้ชายคนนี้ บอย พีซเมคเกอร์ (Peacemaker) หรือ บอย อนุวัฒน์ เติบโตมาจากครอบครัวที่รักเสียงเพลง จึงชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่จะเริ่มเดินตามฝันของตัวเองอย่างจริงจัง เขาเริ่มชีวิตการทำงานด้วยการเป็นพนักงานบริษัทเอกชนมาก่อน แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทิ้งสิ่งที่ตนเองรัก โดยได้รับจ้างร้องเพลงตามร้านอาหารกึ่งผับควบคู่ไปด้วย หลังจากทำงานประจำควบคู่กับร้องเพลงตามร้านอาหารกึ่งผับมาได้ระยะหนึ่ง ก็รู้สึกว่างานประจำที่ทำไม่ใช่สิ่งที่ตนเองต้องการ จึงตัดสินใจเลือกที่จะร้องเพลงเพียงอย่างเดียว และเป็นที่ที่ทีมงานของเบเกอรี่ มิวสิก ได้ฟังเพลงที่เขาร้อง จึงได้ชักชวนให้ร่วมงานในอัลบั้ม Million ways to love Part I ของนักร้อง-นักแต่งเพลงชื่อดัง บอย โกสิยพงษ์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการถูกค้นพบและได้รับโอกาสที่ บอย พีซเมคเกอร์ ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและรักษาสิ่งนี้ด้วยมาตรฐานมาเป็นอย่างดี ตลอดกว่า 22 ปี กว่า 4,000 เวที ที่ได้โอกาสขึ้นร้องเพลงในเส้นทางดนตรี

จากการที่ได้ถูกค้นพบและโอกาสที่ตามทำให้เดินตามฝันของตัวเองสำเร็จ บอย พีซเมคเกอร์ จึงเปิดพื้นที่สำหรับทุกคนที่ มีฝัน มีความสามารถ แต่ยังไม่เคยมี ‘โอกาส‘ ได้แสดงศักยภาพ ในรายการ STREET TO STAGE ขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนที่มีฝันได้ก้าวออกมาจาก STREET….แล้วมาเจอกันที่ STAGE ที่พร้อมต้อนรับทุกคนhttps://youtu.be/rnsRLwE2st4?si=HfAAs9ExjTVsaLyV

 บอย พีซเมคเกอร์ “แรงบันดาลใจในการทำ  STREET TO STAGE เริ่มจากการที่ตัวผมได้รับโอกาสมาเป็นนักร้องแล้วในขณะที่เราเป็นนักร้องมาระยะหนึ่งเราได้เห็นคนมากมาย พยายามไปแข่งขันไปประกวดรายการต่างๆบางคนก็สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง บางคนได้ตามความฝันบ้าง บางคนได้รับโอกาสบ้าง ไม่ได้รับโอกาสบ้าง มันยังมีคนอีกเยอะมากที่รอรับโอกาสอยู่ นักเรียน นักศึกษา คนขับแท็กซี่ พนักงานออฟฟิศ คือทุกคนมี STREET เป็นของตัวเอง มีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่ยังไม่เคยมี  STAGE เป็นของตัวเอง

ตอนเปิดรับสมัครวันแรกคือ ถล่มทลายเลยครับ หลายร้อยคนที่ส่งเข้ามาแล้วผมกับทีมงานก็นั่งฟังกันคนนี้น่าสนใจ คนนี้น่าสนใจ จนถึงวันนี้เป็นพันคนไม่คิดเลยครับ  บางคนขับแท็กซี่เลยครับ ร้องเพลงเข้ามาเลยหรือบางคนใส่ชุดนักเรียนยังเรียนอยู่มัธยมเลยเป็นเรื่องน่าประทับใจ เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์มากกว่าที่เราได้เจอมา

เป้าหมายSTREET TO STAGE ชัดเจนอยู่แล้วจะส่งต่อโอกาสได้มีช่องทางที่คนจะเห็นผ่านSTREET TO STAGE ดีที่สุดเขาได้เป็นนักร้องมีรายได้จากการที่ผ่านรายการSTREET TO STAGE แล้วคนรู้จักมากขึ้นได้เป็นนักร้องตามความฝันนั้นคือเป้าหมายสูงสุดจริงที่ผมอยากให้เป้นก็อยากกจะฝากSTREET TO STAGE ให้กับทุกๆคนด้วยนะครับผมเชื่อว่าทุกคนที่มารายการSTREET TO STAGE ทุกคนมาด้วยความหวังแล้วก็มาด้วยความฝันจริงๆผมเชื่อว่าคนเหล่านั้นเขาไม่ได้มีเวทีเป็นของตัวเองมาก่อนครั้งนี้ก็จะเป็นครั้งแรกที่จะได้มีเวทีเป็นของตัวเองก็อยากให้ผู้ติดตามทุกคนนะครับให้กำลังใจแขกรับเชิญทุกคนด้วยทุกคนด้วยนะครับฝากSTREET TO STAGE ด้วยนะครับผมหวังว่าเวทีนี้จะสร้างนักร้องใหม่ในวงการเพลงไทยได้อีกไม่มากก็น้อยครับ”