อย่ากลับบ้าน มาพร้อมกับหน้าหนัง ที่ออกมาในแนวหนังผี น่ากลัวๆ ชวนค้นหา ของแม่กับลูกน้อย ในบ้านเก่าๆ โบราณ มี นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี เป็นตัวขาย แต่เอาเข้าจริง อย่ากลับบ้าน แม้ ตอนต้นๆ บรรยากาศชวนระทึกไปกับ สิ่งลี้ลับ แต่ดูไปๆ ตัวหนังกลับไม่ใช่ อย่างหน้าหนังระทึกไปกับเรื่องราวลึกลับในมิติใหม่ เมื่อ “บ้าน” อาจไม่ใช่สถานที่ที่ควรกลับไป
อย่ากลับบ้าน พาเราตามสองตัวละครหลักๆ คือ วารี กับน้องมินลูกสาวที่เจอเรื่องลึกลับ กับรอดูปมชีวิตของ ฟ้า สารวัตรสาวท้องแก่ที่มาทำคดีสิ่งที่ใส่ไว้ในตัวละครทุกๆ ตัว คือ เรื่องความรักในครอบครัว แม่กับลูก วารีกับมิน พนิดากับวารี ฟ้ากับลูกน้อยในท้อง แม่ในทุกๆ แนว ซึ่งแม่เลี้ยงเดี่ยว ไม่ต้องพึ่งผู้ชายต้นเหตุของเรื่องยังมาจาก ผู้ชายล้วนๆ ปมความขัดแย้งสามีภรรยา ในปมที่ต่างกันออกไป
บทหนังค่อนข้างทำได้ดี พาไปรู้สึกกับตัวละคร ค่อยๆ เฉลยปม ใส่ลูกเล่นใส่รายละเอียดต่างๆ ลงไป ทำให้ค่อยๆ ตามเรื่องได้ตลอด ช่วงเวลาที่เกิดขึ้น 2567 ปีนี้ กับปีต้นเรื่อง 2535 ก็ทำออกมาได้ดี เห็นความต่างของช่วงเวลาได้ดี ตัวหนังเล่าเรื่องสนุกชวนติดตาม ชวนให้อยากรู้/สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เล่าในโทนของ หนังมินิซีรี่ส์ ในแต่ละ EP จะให้น้ำหนัก ไปแต่ละตัวละคร ภาพที่สวยงาม มาในโทนลึกลับดำมืด ชวนเสียวขนลุกนิดรอสะดุ้งตกใจ ในแนวหนังเขย่าขวัญ
นุ่น-วรนุช ภิรมย์ภักดี เด่นมากๆ ในบท วารี เป็นตัวเดินเรื่อง บทแทบจะไม่ผ่อนคลาย หนักๆ ดูแล/รัก ลูกสาวตัวน้อย พยายามต่อสู้เอาลูกคืน หน้าตาท่าทางเหมือนโรคจิตนิดๆ ดูแล้วเชื่อว่า รักลูกพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้ลูกกลับมา
แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา ในบท สารวัตรฟ้า นายตำรวจท้องแก่ ฉีกภาพจากทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา เป็นสาวท้องแก่ที่สวย ดูเป็นตำรวจที่แกร่งฉลาดไม่ยอมใคร มีฉากอารมณ์ให้เล่นหลายตอน ด้าน เจแปน-พลอยปภัส ฝนแก้วศิวพร เป็น น้องมีน ที่ดูน่ารักสมวัย เล่นเป็นธรรมชาติ
ซินดี้-สิรินยา บิชอพ ในบท พนิดา แม่ของ วารี ดูจิตๆ มีปม ประสาทๆ ตลอด เพียงไม่ได้รู้สึกร้ายกาจอะไร รับรู้ได้ถึงการทำทุกอย่าง เพื่อวารีลูกสาว
ปาริธ ทิมทอง เป็นเต้ นายตำรวจผู้ช่วยฟ้า ที่คอยอยู่เคียงข้างแอบมีใจให้เธอ ชัดเจนในความเป็นตัวละครผู้ช่วย พาทิศ พิสิฐกุล รับบทผู้กำกับดนัย เจ้านายและสามีลับๆ ของฟ้า ที่ออกมาในแนวเห็นแก่ตัว
ตุ้ย-ธีรภัทร สัจจกุล ในบท ยุทธชัย ผัววารี พ่อมิน มาดดูดีดูเป็นผู้มีอิทธิพล ออร่าความร้ายออกมาแบบเต็มๆ
สหัสชัย ชุมรุม เนียนๆ ดูเป็น คนดูแลบ้าน ที่มีความลับซ่อนอยู่ภายใต้ ความบ้านๆ ชรา หลงๆ ลืมๆ เป็นตัวละครที่เหมือนไม่มีอะไร สตาร์บัคส์- พงศ์พิชญ์ ปรีชาบริสุทธิ์กุล มาในบท นที คนสนิทของ พนิดา ที่ทำหน้าที่ทุกอย่างตามที่นายสั่ง
วิทยา ปานศรีงาม ในบท วิชัย พ่อของฟ้า อดีตนายตำรวจเกษียณอายุ ที่เคยทำคดีบ้านวนิดาในอดีต ณัฐนันท์ คุณวัฒน์ รับบท วัฒน์ พ่อของ วารีสามีพนิดา อลีน่า มารี จาง มาในบท วารี ตอนเด็ก ที่สดใสน่ารัก ไม่แพ้ มิน สาวิกา กาญจนมาศ รับบท อร
อย่ากลับบ้านจัดเป็น มินิซีรี่ส์ ที่ทำออกมาได้ดี ตามมาตรฐานของ Netflix ชัดเจนในความเป็นหนังเขย่าขวัญ หนังไซไฟวิทยาศาสตร์ ในแนวสืบสวนสอบสวน แต่น่าผิดหวัง กับตอนจบ ที่ในส่วนของ วารี กับ มิน ลูกน้อย หนังเฉลยชัดเจน แค่..ยังงงๆ ในเรื่องเวลา การย้อนเวลา ที่หนังเฉลย มันไม่เคลียร์ คิดเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้ เลยดูลอย ไม่สมเหตุสมผล อย่ากลับบ้าน ปิดท้ายด้วย เพลง ความทรงจำร้องโดย วิโอเลต วอเทียร์ ที่มาพร้อมภาพสรุปเรื่องราวชีวิต ของ วารี เฉลยปมตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ในแบบที่ มาดูส่งท้าย เข้าใจเรื่องทั้งหมด คำพูดสุดท้ายของ พนิดา “อย่ากลับบ้าน” คือ บทสรุปที่ตรงและดีที่สุดของหนัง
ชอบระดับ 7/10 คะแนน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี