เรื่องราวความสนุกของภาพยนตร์เรื่อง “ไรเดอร์”
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ “ไรเดอร์” สามคนที่เป็นเพื่อนซี้กัน มีผมที่รับบทเป็น “นัท” มี“เสือยอด” (รับบทโดย “นีโน่ ภูวเนตร”) มี“น้าไก่” (รับบทโดย “ดีเจอาร์ต มารุต”) พวกเราเป็นไรเดอร์ที่ทำหน้าที่ส่งของตามปกติ เจอลูกค้าปกติบ้าง ไม่ปกติบ้าง หรืออาจจะหลุดไปในทางน่ากลัวบ้าง แต่แก๊งไรเดอร์เราก็จะส่งทุกอย่าง ไม่ค่อยเลือกรับงาน จนวันหนึ่งนัทได้ไปเจอกับ “พาย” (ฟรีน สโรชา) แล้วก็แอบชอบ เลย พยายามตามจีบอยู่ แต่กำลังจีบกันอยู่ดีๆ พายก็ดันหายตัวไป นัทก็เลยต้องไปตามหาว่าพายหายไปไหนโดยมีน้าไก่กับเสือยอดคอยไปช่วยตามหา จนพวกเราเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวสุดสยองแบบไม่คาดคิด เป็นภารกิจที่ต้องไขปริศนาขนหัวลุกในพิกัดหลอนๆ ที่พวกเราได้รับมา
บทบาท-คาแร็กเตอร์
ในเรื่องนี้โอ้รับบทเป็น “นัท” มีอาชีพหลักเป็น “ไรเดอร์” นัทเป็นคนที่ที่มีเซ้นส์เห็นผีตั้งแต่เด็กครับ จะมีความชินกับการเห็นผีประมาณหนึ่ง คอยเป็นสื่อกลางระหว่างผีกับเพื่อนด้วย เพราะว่าเพื่อนไม่เห็นอย่างที่เราเห็น ตอนกลางวันก็จะส่งของ ส่งอาหาร ส่งทุกอย่าง แต่ตกกลางคืนพอไปส่งของก็มักจะเห็นผีในที่ต่างๆ ที่เราไป เหมือนเราเป็นแม่เหล็กดึงดูดผีอยู่เหมือนกัน คงอยากจะให้เราได้เจอเขา นัทก็จะเป็นคนที่คอยมาร์กจุดพิกัดต่างๆ เป็นรูปกะโหลกไขว้เอาไว้เพื่อคอยบอกเพื่อนว่าตรงนี้อย่าไป หรือผ่านตรงนี้ผีดุอะไรแบบนี้
คาแร็กเตอร์นี้มีได้ทำอะไรใหม่ๆ บ้างไหม
เป็นครั้งแรกครับที่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ที่มีแสงสว่างขนาดนี้ในการถ่ายทำ มีการนำรถออกไปขี่กับ “พี่อาร์ต” และ “โน่” ตามเยาวราช สะพานพุทธคนบนถนนก็จะนึกว่าเป็นเรือไดหมึก แต่มันคือมอเตอร์ไซค์แต่งไฟ สีสันแสบตา รถที่ผมขับคือแสงสีเขียวเลย เป็นการขับมอเตอร์ไซค์ที่โดดเด่นมาก และสนุกมาก ตัวละครนี้ก็ยังต้องใส่รองเท้าข้างละสีด้วย ทีมคอสตูมบอกว่ามันเป็นสไตล์ของ “นัท” ครับ คือนัทอาจจะทำหายข้างหนึ่งแล้วก็เดินไปหาเจออีกข้างหนึ่งที่คนละสีพอดีแต่ไซส์มันได้ก็เลยใส่ไปก่อน
ร่วมงานเป็นครั้งแรกกับทีมนักแสดงเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง
เป็นครั้งแรกที่ได้ร่วมงานกับ “พี่โน่ ภูวเนตร” (เซียนหรั่ง) เขาเป็นคนมีความสามารถ สนุกสนาน ผมได้เรียนรู้อะไรจากพี่โน่เยอะเลย ในด้านของอาหารอีสาน เพลงอีสาน พี่โน่เขาคอยให้คำปรึกษา คอยคุยกับเรา ผมกับพี่โน่มีอะไรคล้ายกันอย่างเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ก็จะคุยกันได้นานแล้วเราชอบดูช่องของพี่เขา อย่างตอนที่ไปเอาไข่มดแดง ไปจับกะปอม ทำอะไรดูสนุกดี เราไม่เคยเห็นไม่เคยรู้สิ่งเหล่านี้ มันก็แปลกและน่าติดตามครับ
ส่วน “พี่อาร์ต” ผมเคยรู้จักอยู่แล้ว เคยเจอกันบ้างตามงานข้างนอก แต่ไม่เคยร่วมงานด้วยกันจริงจังแบบนี้ครับ เคยแต่ร่วมงานกับ “พี่อ้น”(ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์) พี่สาวของพี่อาร์ตอย่างเดียว พี่อาร์ตเป็นคนเฮฮา ทำงานด้วยแล้วสนุกมีความสุขที่ได้เจอเขาในทุกครั้งที่ได้มากอง รู้สึกว่าเขามี Energy ที่ดี มีพลังบวก
ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มทำงาน พวกเราสามคนก็เหมือนต่อกันติดไวมากครับ ขนาดตอนพักกอง เราจะจับกลุ่มกันเพื่อหาเรื่องคุย จะได้ไม่ง่วง ชวนกันคุยไปเรื่อย เพราะมีความชอบอะไรคล้ายกัน ทั้งเรื่องมอเตอร์ไซค์ ทั้งเรื่องตลก
ส่วน “น้องฟรีน” ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันครับที่ได้เจอ ได้ทำงานร่วมกัน ก่อนหน้ามาถ่ายทำ เราได้เวิร์กช้อปด้วยกัน น้องเป็นคนที่ตั้งใจทำงานมาก มีความนักสู้อยู่ในตัว เพราะว่าเราถ่ายหนังผีจะมีถ่ายกลางคืนกันเยอะ ดึกขนาดไหนก็ยังสดใสได้ แล้วมีซีนอารมณ์ที่เราต้องเล่นด้วยกัน แต่อารมณ์ของผมมันยังไม่มา เขาก็จะไม่ทิ้งเรา จะยืนส่งอารมณ์ต่อให้ผมตลอด ซึ่งประทับใจน้องน่ารักมากครับ
การร่วมงานกับผู้กำกับ “กังฟู นิติวัฒน์”
ผมเจอ “พี่กังฟู” ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรกเลยครับ ตอนนั้นพี่เขาเป็นผู้ช่วยผู้กำกับเรื่อง “รักแห่งสยาม” (2550) พอมาเรื่องนี้พี่เค้าได้กำกับหนังอีกครั้งก็เลยชวนมาทำงานร่วมกันพี่กังฟูเป็นผู้กำกับที่น่ารักมาก คอยให้คำปรึกษา บางทีซีนยากๆ พี่เขาก็จะให้โอกาสเรา ให้เวลา เขาจะมาถามเราว่าอีกสักทีไหม แล้วคอยดูคาแร็กเตอร์ให้เราไม่หลุดไปไกล
โลเกชั่นใช้สถานที่จริง มีความน่ากลัวยังไงบ้าง
โลเกชั่นที่จำได้แม่นเลยคือที่ “โรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่งกลางเมือง” ครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นเยอะมากในโลเกชั่นนี้ เราก็ต้องทำงานกันหลายจุดของโรงพยาบาล แต่ด้วยความที่มันเป็นโรงพยาบาลจริง ร้างจริง มันก็จะมีฝุ่นเยอะ มีความหลอน มีกลิ่นของโรงพยาบาลอบอวลอยู่ ทุกอย่างสมจริงแบบไม่ต้องเซต ยิ่งในห้องเก็บศพนะครับ ใช่เลย แอบหลอนอยู่เหมือนกันครับ แวบแรกคือเอ๊ะ...ของจริงหรือเปล่านะ เพราะรู้สึกว่ามันใช่ ตอนถ่ายกันหน้าเซตคนเยอะยังไม่เท่าไหร่ครับ แต่ตอนที่ต้องเดินไปห้องน้ำคนเดียว มุมไปห้องน้ำนี่มันเงียบกริบมาก แล้วมีพวกพี่ๆ ที่เขาต้องแต่งเป็นผีในเรื่องด้วย ไม่อยากบังเอิญเจอกันตามมุมเลยครับ มันแยกไม่ออกกันเลย
“บ้าน” ที่ไปถ่ายอีกที่ก็ร้างจริง อันนั้นก็ทั้งฝุ่น ทั้งสโมก ทั้งมืด ข้าวของเครื่องใช้บางอย่างก็ยังอยู่แบบนั้น ในเรื่องก็จะมีลูกค้าแปลกๆ สั่งของมาส่งที่บ้านร้างแล้วให้ “ไรเดอร์”เข้าไปจุดธูปเรียกวิญญาณมารับอาหารไหว้ด้วย แล้ว “นัท” ก็จะเห็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในบ้านหลังนั้น มันก็จะเป็นซีนที่ยากด้วย หลอนด้วย ต้องต่อสู้กับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จาก “พี่โน่” ด้วย (หัวเราะ)
อีกที่ที่อยากพูดถึงก็คือ “สะพานพุทธ” เป็นอีกโลเกชั่นหนึ่งที่ไปถ่ายกันแล้วทำให้นึกถึงสมัยก่อน ไปหาซื้อรองเท้ามือสอง เราไม่มีตังค์ซื้อรองเท้าใหม่ๆ ก็จะมาที่นี่ มาหาซื้อที่ตลาดนัดสะพานพุทธ แต่ตอนหลังมานี่ก็จะเจอแต่ชาวบ้านตรงนั้น คนขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมาดู มีทัวร์มาขี่จักรยานเล่น ผมโดนแซวด้วยนะ “เฮ้ย “มาริโอ้”เหรอ ไม่เห็นหล่อเลย” (หัวเราะ) ที่สะพานพุทธตรงนี้ก็จะเป็นจุดที่เซตขึ้นมาเพื่อเป็นที่นัดพบของ “ไรเดอร์” แก๊งผม เอาไว้รองาน พูดคุย แล้วใช้ชีวิตแบบไรเดอร์กันจริงๆ แล้วก็ได้เจอกับ “พาย” นางเอกในสถานที่ที่น่าจดจำ แต่ระหว่างถ่ายก็จะมีเซอร์ไพรส์เห็นลุงมาอาบน้ำโชว์ตูดอยู่ข้างกองถ่าย ตรงริมแม่น้ำเจ้าพระยา จดจำแม่นเลยครับที่นี่
ประทับใจโลเกชั่นไหนเป็นพิเศษมั้ย
ชอบที่ไหนที่สุด คือชอบ “บ้านพาย” ครับ ลักษณะคือเป็นบ้านไทย มีสวน ต้นไม้เยอะ มันเป็นโลเกชั่นเล็กๆ แต่มีหลายมุมหลายจุดที่เราสามารถถ่ายทำกันได้จบหลายซีนในโลเกชั่นเดียว แล้วที่ถ่ายเล็กมาก แคบมาก คนเยอะมาก มีพิธีหลายอย่างเกิดขึ้นที่นี่ ทุกโลเกชั่นสโมกเยอะมาก แต่ที่นี่เยอะสุดเพราะมันแคบ มีผ้าคลุมบ้านทั้งหลัง หายใจกันแทบไม่ออกเลย ไหนจะเสื้อไรเดอร์ ไหนจะควัน ฝนตกปรอยๆ โคลนกำลังลื่นเลยครับ มีอยู่วันหนึ่งก็มีตุ๊กแกตัวใหญ่มากในห้องแต่งตัว อยู่ๆ มันก็เดินออกมาสวัสดีพวกเรา กรี๊ดกันลั่นเลยตรงนั้น
พกเครื่องรางของขลังด้วยไหม
ไม่ได้พกครับ ทำใจอย่างเดียวเลยครับ
ของปราบเซียนสุดในเรื่องนี้คืออะไร
ปราบเซียนสุดน่าจะเป็นเสื้อไรเดอร์สีเหลืองที่ใส่ในเรื่องครับ เพราะว่ามันหนาแล้วต้องใส่ตลอด อากาศบางวันอบอ้าว บางวันเจอที่แคบสุดๆ มีทั้งสโมก ทั้งฝุ่น ทั้งแอ๊กชั่น แต่ยังคงต้องให้เห็นความเป็น “ไรเดอร์” บางทีเลยลืมความหลอนของบรรยากาศไปเลยครับ
ถ้าเราเป็นไรเดอร์ที่ถูกเรียกไปส่งของ แล้วไปเจอบ้านร้างจะทำยังไง
ผมน่าจะโยน เหมือนเวลาเราดูหนังฝรั่งที่เขาโยนหนังสือพิมพ์ครับ ของมาแล้วครับ แล้วโยนเลย
เล่นหนังผีหนังสยองขวัญมาก็หลายเรื่องแล้ว ในเรื่องนี้มีความน่าสนใจหรือแตกต่างยังไงบ้าง
เรื่องนี้ผมชอบความเป็น “ไรเดอร์” ครับ ชอบความสัมพันธ์ของสามตัวละคร “นัท-น้าไก่-เสือยอด” เป็นความสัมพันธ์ที่ผ่านเวลามาเยอะ ใช้ชีวิตด้วยกันมาแล้ว เข้าใจในอาชีพ เข้าใจในสังคมที่เราอยู่กันแบบนี้ เป็นเพื่อนรักกัน ต่อให้สถานการณ์แย่มากแค่ไหน น่ากลัว หรือต้องแลกกับความเสี่ยงอะไรก็ยังอยู่ด้วยกัน สู้ไปด้วยกัน
ไม่ทิ้งกัน พร้อมที่จะไปลุยเพื่อช่วยเพื่อนของเราเสมอ ทั้งๆ ที่ทุกคนก็กลัวผีกันมาก
เรื่องนี้แค่ผีก็วาไรตี้แล้วครับ มันมีทั้งความน่ากลัว ความสนุก ตอนน่ากลัวก็คือน่ากลัวจริงๆ ครับ แค่เมคอัพตอนถ่ายทำกันก็แอบกลัวเหมือนกันเมคอัพเอฟเฟกท์เขาสุดจริงๆ ความดุดัน แววตา ท่าทางที่พี่ผีเขาเล่นคือสยองเลย มันมีความตื่นเต้น ความสนุกสนาน แล้วก็สยองขวัญรวมอยู่ด้วยกันครบเลยครับ
ผมก็ต้องฝากหนังเรื่อง “ไรเดอร์” ไว้ด้วยนะครับ เชื่อว่าทุกคนจะมีความสุขกับภาพยนตร์เรื่องนี้ มันมีทั้งความตื่นเต้น สยองขวัญ ความรัก และสนุกสนาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี