หลังจากประสบความสำเร็จจากการจัดงาน “คนตื่นทอล์คครั้งที่ 1” เจ๊ออฟ บางนา ก็สานเจตนารมณ์ของตัวเองให้คนไทยได้ตระหนักและตื่นรู้ในเรื่องของ “ธรรมะ” จัด “คนตื่นทอล์ค ครั้งที่ 2” โดยนำผู้ทรงคุณวุฒิในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสสายธรรมอย่าง อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม พูดคุยในเรื่อง “สังคมปัจจุบัน กับธรรมะตื่นตัว” ส.ว.ปริญญา วงษ์เชิดขวัญ ในเรื่องของ “นโยบายส่งเสริมศาสนาพุทธ” แพทตี้ CEO ปากตลาด กับ “ความสำเร็จของชีวิต ธุรกิจ VS ธรรมะ” ทนายชายพัฒน์ (อนุสรณ์ อะสุระพงษ์)  มาพูดคุยถึงเรื่อง “พุทธพาณิชย์ ธุรกิจ (ไม่) ถูกกฎหมาย”  ด้าน แพรรี่ ไพรวัลย์ ก็พูดคุยถึงเรื่อง “ระบอบการปกครองคณะสงฆ์ไทย”  ส่วน กิ๊ก-มยุริญ ก็มาพูดคุยในเรื่องของ “พุทธบริษัท ธรรมะ VS วัฒนธรรม” ซึ่งก็ได้รับความสนใจ มีผู้เข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก ณ MCC HALL เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางแค 

โดย เจ๊อ๊อฟ บางนา กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานครั้งนี้ว่า

“ตามข่าวที่เราเห็นเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา ก็จะมีในเรื่องของมิจฉาชีพ มีเรื่องของคดีความกันเกิดขึ้น งานนี้เกิดขึ้นได้ เพราะเราอยากจะให้สติกับประชาชนคนทั่วไป แต่เราทำคนเดียวไม่ได้ งั้นแปลว่าเราก็ต้องเอาคนที่ ตื่นธรรม มา คือ อาจารย์เบียร์  รวมไปถึงคนที่อยู่ในศาสนา ธุรกิจ แต่ละคนที่มาคือตัวแทนของอาชีพว่า ทุกอาชีพควรมีคุณธรรม จริยธรรม และธรรมะในใจ

ในด้านความคาดหวัง จริงๆ แล้วไม่ได้คาดหวังอะไร แต่สิ่งที่เราอยากได้คือ เขาได้อะไรจากสิ่งที่เราทำ บอกเลยว่าจำนวนคน ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะมีผล แต่สำหรับผมแค่มีคนๆ เดียวพูดและมีคนฟัง และได้อะไรจากการฟังแล้วไปบอกต่อ อันนี้คือสิ่งที่สำคัญกว่า

แล้วก็ไม่ได้มองเรื่องของสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ถ้าเมื่องานมันมีอะไรที่องค์ประกอบครบ และมีคนดู มีคนฟัง สำหรับผมไม่ได้นับที่ยอดจำนวนคนดู แต่มันสำเร็จแล้ว และวันนี้เจตนารมณ์ของเราคือ ต้องการให้แต่ละท่านมาให้ความรู้ในการตื่นในแต่ละเรื่อง แล้วก็เอาไปใช้ในชีวิตประจำวันของแต่ละคน มันจะเป็นเกราะป้องกันตัวคุณอย่างที่ พี่กิ๊ก มยุริญ บอกว่าคนมีสติ สมาธิ ปัญญา หมู่มารก็จะไม่มาอยู่ใกล้ตัวเรา และอีกอย่างหนึ่งคือ คนทุกคนมีทุกมิติ ถ้าคุณเอาหลักธรรมคำสั่งสอนไปรวมกับสิ่งที่คุณทำ มิติตรงนี้มันจะแตกฉาน พอมันแตกฉานเสร็จ และอาจารย์เบียร์ มาตอกย้ำ มันเลยจะกลายเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น 

การที่เราจะใช้ชีวิตในสังคมแบบนี้ต่อไปยังไง และเราก็ไม่ได้มองอนาคตว่า ปีหน้ามันจะเป็นไปในทิศทางไหนกับประเทศ เศรษฐกิจ หรือโรคภัยไข้เจ็บ ตรงนี้มันทำให้ตระหนักว่า สิ่งที่อาจารย์เบียร์ และทุกๆ คนมานั่งบอก เราควรตระหนักว่าการใช้ชีวิตของเรา ณ ขณะนี้ การที่เราไม่ต้องมานั่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เราสามารถป้องกันปัญหาที่มันจะเกิดขึ้นที่ต้นเหตุได้ครับ ซึ่งการจัดครั้งนี้เป็นงานส่งท้ายปลายปี เพราะอยากให้ทุกคนได้สติ ไปสังสรรค์ปีใหม่แบบมีสติ เอาชีวิตกลับมาหลังปีใหม่ก็มาทำมาหากินกัน หาความสุขใส่กัน ประมาณนี้ครับ”

 ส่วนใครที่รอ “คนตื่นทอล์ค ครั้งที่ 3” แล้วล่ะก็!!! อดใจรอก็แล้วกันนะจ้ะ!!!