(วันที่30 มกราคม) คู่รักนักแสดง LGBTQ+ “พอร์ช-อภิวัฒน์ อภิวัฒน์เสรี” และ “อาม-สัพพัญญู ปนาทกูล” หอบหลักฐานเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวัน หลังการจดทะเบียนสมรสที่ผ่านมา ต้องฝ่าฟันความวิพากษ์วิจารณ์ทางโลกออนไลน์ ด้วยข้อความหมิ่นประมาทและถ้อยคำบูลี่ รวมไปถึงถูกส่งข้อความไดเร็คเมสเสจขู่ฆ่า เหตุเกิดจากกลุ่มแอนตี้ที่จดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ล่าสุดทั้งคู่หอบเอกสารเข้าแจ้งความกับเจ้าพนักงาน "ร.ต.ท.หญิง กชมล ปรีชาปิ่นละออ" รอง.สว สอบสวน สถานีตำรวจ เตาปูน กทม. พร้อมให้สัมภาษณ์กับทางสื่อมวลชนว่า
พอร์ช : วันนี้เดินทางมาแจ้งความ หลังจากเราแต่งงานจดทะเบียนสมรสไปเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ก็ได้รับข้อความส่งมาขู่ฆ่าเอาชีวิต แต่รายละเอียดตรงนี้ผมเปิดเผยได้ไม่หมด แต่โดยรวมเป็นข้อความขู่ฆ่าครับ
ตอนนี้ทราบมั้ยว่าคนที่ส่งข้อความขู่ฆ่าเป็นใคร?
อาม : อันนี้ไม่ทราบเลยครับว่าเค้าเป็นใคร น่าจะเป็นบัญชีหลุมแหละครับ ที่ปลอมแปลงเข้ามา วันนี้ก็รวบรวมหลักฐานทั้งหมดมาให้ทางตำรวจครับ
ข้อความที่ส่งเข้ามา ส่วนใหญ่เนื้อหาเกี่ยวกับแอนตี้ LGBTQ+?
อาม : ใช่ครับ ก็เป็นข้อความที่เกี่ยวกับ LGBTQ คือเอาจริงๆตั้งแต่เราจดทะเบียนสมรสไปเมื่อวันที่23 มกราคม ตอนแรกเราคิดว่าคนจะมาอวยพรยินดีเรานะครับ แต่พอกระแสมันออกไปเป็นวงกว้าง คนรู้จักสมรสเท่าเทียมเยอะขึ้น ทำให้เราเข้าใจว่าในกระแสสังคมยังมีคนที่ไม่เข้าใจเรา ที่ไม่เข้าใจlgbtq ไม่เข้าใจว่าเราคือมนุษย์ คิดว่าเราคือคนที่แตกต่าง ต้องบอกว่าคนที่อคติแบบนี้เอาจริงๆเราไปเปลี่ยนแปลงเค้าไม่ได้หรอก เราไม่สามารถไปลบอคติเค้าได้ในชั่วข้ามคืน เราอยากจะบอกว่ากฎหมายตอนนี้มีไว้เพื่อรองรับคู่ชีวิต ให้ความเป็นมนุษย์ ให้การยอมรับในสังคม สมรสเท่าเทียมคือการให้ความเป็นมนุษย์ให้ความเท่าเทียมทางสังคม ให้เราสร้างครอบครัวได้อย่างมั่นคง
พอร์ช : แต่กลายเป็นว่าการมีกฎหมายเท่าเทียมออกมา กฎหมายไม่สามารถเปลี่ยนอคติที่มนุษย์มีให้กันได้ สิ่งที่จะเปลี่ยนได้ก็คือเวลา การที่มนุษย์สองคนจะสร้างครอบครัวที่แตกต่างจากเค้าเนี้ยมันต้องใช้เวลา ในขณะที่เรารอเวลามานาน มันไม่ได้มีส่วนร้ายในสังคม อยากจะขอร้องที่ให้เกียรติกัน ปฏิบัติต่อกันอย่างที่มนุษย์ปฏิบัติต่อกัน ด้วยมารยาท ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เท่ากัน ไม่ผิดที่จะไม่เห็นด้วย ไม่ผิดที่จะไม่ชอบ แต่การที่แสดงออกมาด้วยการแซะ การเหยียด การด่า จนกระทั้งมาข่มขู่ถึงการเอาชีวิต อันนี้ในทางกฎหมายแล้วเราก็มีความจำเป็นจะต้องดำเนินการ
หลังจากได้รับข้อความขู่ฆ่า ต้องระมัดตัวเองยังไง?
อาม: ต้องบอกว่าเราต้องทำมาหากิน เมื่อวานเราไปงานอีเว้นท์เรายังต้องยิ้มแย้มกับทุกคนอยู่ เจอแฟนคลับก็ยังต้องยิ้มแย้มอันนี้คือหน้าบ้านของเรา แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเรากลัว เราระหวาดระแวงแค่ไหน
พอร์ช : คือมีหลายคนพูดว่าอยู่ในที่แจ้ง อยู่ในไฟก็แบบนี้แหละ ถูกต้องครึ่งหนึ่งครับ แต่อย่าลืมว่าเราก็เป็นคนเหมือนทุกคน มีชีวิตมีครอบครัว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมานอกจากมีเราที่กังวล ก็ยังมีแม่เราสองคน ครอบครัวเรา เพื่อนเรา กังวลกับเรามาก แทบจะมากกว่าเราอีก ก็อยากจะบอกว่าไม่ต้องเห็นด้วยกับเราก็ได้ เก็บคำไม่เห็นด้วยไว้ เก็บไว้แสดงออกอย่างสุภาพ และดูกันต่อไปยาวๆว่าความกลัวที่มีในใจมันจะเป็นจริงมั้ย ถ้ามันมีปัญหาเราแก้กันที่กฎหมาย แต่ไม่ใช่การด่าทอกัน ในการทำร้าย ในการข่มขู่
หลังแจ้งความถ้าเค้าติดต่อมาขอโทษจะดำเนินการยังไงต่อไป?
พอร์ช : คงต้องให้เป็นไปตามกฎหมายครับ ผมมองแบบนี้ว่าเวลาจะพิมพ์ทุกคนมีเวลาในการใช้ความคิด มีเวลาไตร่ตรอง และเราก็รู้อยู่ว่าเราอยู่ใต้กฏหมายเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นทำมาแล้วก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมาย
นอกจากโดนข่มขู่ฆ่า ก็มีรอบรวมข้อความวิจารณ์ต่างๆทางโซเชียลส่งให้ทางเจ้าหน้าที่ด้วย?
อาม : เป็นพวกข้อความบูลี่ เป็นข้อความวิจารณ์ ด่าทอ ในส่วนนี้ทางทนายแคปไว้หมดแล้ว ก็เดี๋ยวดำเนินการกันต่อไป
กลายเป็นว่าหลังจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมโดนวิจารณ์เยอะมาก?
พอร์ช : เราเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า เดี๋ยวนี้เปิดรับกันแล้วมีแต่ความยินดี แต่กลายเป็นว่าอคติเรานั้นไม่เคยหายไปไหน แค่มันยังไม่ผุดขึ้นมาเท่านั้นเอง อาทิตย์นึงผ่านไปเราได้เห็นว่า คำวิจารณ์มันได้มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็รู้สึกตกใจ
อาม : เอาจริงๆตั้งแต่เกิดเรื่อง เรียกว่าปลอบกันก็ได้นะ ปลอบกันทุกวัน เห็นถึงความเครียดของเค้า เวลาเราออกไปข้างนอก ออกไปนอกบ้านต้องอยู่ด้วยความระมัดระวัง มันไม่ใช่ชีวิตมนุษย์ที่ต้องเจอ เราเพิ่งผ่านการแต่งงานมาหนึ่งอาทิตย์ มันควรจะมีแต่เรื่องราวดีๆ เรารักกัน เราจะสร้างครอบครัว แต่มันกลับกลายเป็นว่ามาขู่กัน เราไม่ได้รู้จักกัน
พอร์ช : เราไม่ได้รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ แค่เหตุผลเราต่างกัน ในรูปแบบความรักเท่านั้นเอง
อาม : เอาจริงทุกคนต่างกัน แต่อย่าเอาอคติมายิ่งทำให้เราต่างกัน เราจะมีขอบเขตซึ่งกันและกัน
จะเรียกร้องค่าเสียหายยังไงกับคอมเมนต์วิจารณ์?
พอร์ช : ก็ว่ากันไปตามกฎหมายก่อน เดี๋ยวค่อยมาคุยกันว่าจะจบยังไง
อาม: เอาจริงๆข้อความวิจารณ์เยอะมากเลยนะ แล้วเป็นคนที่เราไม่ได้รู้จักด้วย แต่บอกเลยว่าเราตามตัวเค้าได้นะ ความจริงพอทำความเข้าใจได้กับคอมเมนต์ต่างๆที่คนคอมเมนต์มา เราทุกคนเห็นต่างได้ เราต้องเห็นต่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน อยู่ในขอบเขตของกันและกัน
พอร์ช : ไม่เห็นด้วยได้ แต่การดูถูกเหยียดหยาม การด้อยค่าความเป็นคน เหมือนที่เราสัมภาษณ์ว่าเรามีแพลนที่จะมีลูกกัน เราได้อ่านเค้าบอกว่าลูกเราน่าจะเป็น....สิ่งปฏิกูลหรือเปล่า ผมรู้สึกว่ามันไม่มีประโยชน์ ที่เราจะพูดแบบนั้นกับคนอื่น
อยากจะฝากบอกกับกลุ่มคนที่ยังคงคอมเมนต์วิพากษ์วิจารณ์ทางโซเชียลด้วยข้อความบูลี่ต่างๆ?
พอร์ช : อยากให้แสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ ไม่ผิดที่จะไม่เห็นด้วย แต่ต้องอยู่ภายใต้ความสุภาพ และรู้เสมอว่าบุคคลทุกคนควรอยู่ภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน และได้รับการรองรับภายใต้กฎหมายอย่างเสมอภาคกัน ถ้าอะไรที่เราทำแล้วมันฝ่าฝืนกฎหมายและไปพาดพิงถึงคนอื่น ก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายเข้ามาดูแล
-015
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี