จากกรณีที่ บิ๊ก ทองภูมิ สิริพิพัฒน์ ประกาศยุติการร่วมค่าย Luster Entertainment ของ กานต์ วิภากร ภรรยาของ เสก โลโซ เหตุที่ยุติบทบาทจากสาเหตุทางด้านจิตใจและร่างกาย พร้อมกับรู้สึกหวาดระแวง และรู้สึกไม่ปลอดภัย จากการที่มีบุคคลอื่นกระทำการเลื่อยกุญแจบ้าน และกระทำการต่างๆ ที่เป็นการรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว  ล่าสุดวันนี้ ‘กานต์’ได้ออกมาโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัว โดยเอาหลักฐานเกี่ยวกับการเงินมาแฉ หนุ่มบิ๊ก ทองภูมิ โดยมีข้อความว่า

เบิกเงินไปทำบ้าน แต่ละอย่างยังไม่ดีแคร์ เลยแล้ว ไม่พอยังไม่ทำห่าอะไรซักอย่างแล้วเงินกูอยู่ไหน ?  แล้วช่างโซฟาก็ทวงเงิน แล้ว มึงก็เบิกจากโทรศัพท์ของกูด้วยตัวมึงเองไปหมดเต็มจำนวน ทุกอย่างทุกบาท ทุกสตางค์แต่กูไม่รู้จักช่างเลย ใครเบอร์อะไร ยังไม่พอมึงสั่งอะไรใครไว้ยังไง กูก็งง  กูจะตามช่างก็ไม่มีเบอร์ นี่แม่งค้างงานไว้ เงินมึงก็เอาไปหมดละมาจัดการให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลย แล้วไอ้ช่างมันหายหัวไปไหน เอาเงินไปหมดละเสือกไม่มาทำให้เสร็จ หรือว่ามึงเป็นคนเอาเงินไปช่างก็เลยไม่มาทำ แล้วไม่จ่ายเค้า? บอกมาเดี๋ยวนี้เลย เบอร์ช่างกูก็ไม่มี เค้าฟ้องมึงกู ก็ช่วยไม่ได้กู ยังไม่รู้จักเลยคนไหนวะ เนี่ยตกลงเหี้ยอะไรกันไว้ยังไง ?  สร้างแต่เรื่อง ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนี้แหละ แต่กูอดทนไม่อยากดุ แต่ตอนเนี่ยมัน ก็ต้องพูดแล้วล่ะ เพราะยังไม่ได้ทำห่าอะไรเลย แล้วเงินเอาไปหมดแล้วแปลว่าอะไรชี้แจงมาด้วยไม่งั้นเจออีกหลายคดีนะคะ ทองภูมิที่รัก ถุย ! ” ก็บอกอยู่ ว่า กูไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะเว้ย “ อย่ามาเลอะเทอะกับกู คนละรุ่น! (รายละเอียดอยู่ที่ Facebook ตามนั้นเลยค่ะ)

และในเวลาต่อมาทางด้าน กานต์ ได้โพสต์คลิปหนุ่ม บิ๊ก ทองภูมิ ในเฟสบุ๊คส่วนตัวพร้อมระบุข้อความว่า

“ สันดานที่แท้จริง ปากพาซวย ไลฟ์สดพาดพิงถึงเรา และนำข้อมูลเท็จขึ้นสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ศิลปินของเราคนนี้ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ผิดธรรมธรรมเนียม ประเพณี ของค่ายเรา นี่คือแค่ตัวอย่างบางตอนเหตุเกิดเมื่อประมาณ 23 ธันวาคม 2567 ซึ่งตอนนั้นว่าจะฟ้องแต่อภัยก็เลยไม่ฟ้อง ณบัดนี้คดีความมีอายุ 3 เดือนก็คือยังไม่หมดอายุเราก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด #กานต์วิภากร #lusterentertainment #loso #sekloso #ยื่นฟ้องต่อศาลภายในอาทิตย์หน้าทั้งหมดทุกคดี เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อเด็กและเยาวชน ไอ้พวกที่อยู่ในไลฟ์มีทุกตัวโดนหมดเจอหมดทุกตัวรอหมายศาลเตรียมเงินในบัญชีให้ครบเจ็ดหลักไม่งั้นก็นอนคุก