DARK NUNS ไล่มันกลับลงหลุม ผลงานการแสดงเรื่องล่าสุดของ ซงฮเยคโย นักแสดงสาวผู้โด่งดังจากบทบาทครูมุน (มุนดงอึน) จากซีรีส์ Netflix สุดฮิตเรื่อง The Glory ร่วมด้วยดาราสาว จอนยอบิน (Secret Zoo และ Cobweb) ซึ่งสองนักแสดงสาวจะต้องปะทะบทบาทกับ อีจินอุค ดาราหนุ่มมากความสามารถผู้กำลังจะมีผลงานซีรีส์ออกอากาศทาง Netflix เรื่อง Squid Game Season 2 ร่วมด้วย มุนอูจิน จากภาพยนตร์แอ็คชั่นทริลเลอร์ Hijack 1971 และ ฮอจุนโฮ แห่ง Missing: The Other Side
บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ “ควอนฮยอกแจ”
อะไรที่ทำให้คุณสนใจกำกับ Dark Nuns คุณช่วยเล่าถึงกระบวนการค้นคว้าข้อมูลเพื่อเสริมสร้างความสมจริงของคุณระหว่างการถ่ายทำหน่อยได้รึเปล่า
“ผมไว้วางใจใน “ซิป ซีเนมา” ซึ่งเป็นบริษัทโปรดักชันที่พัฒนาเรื่องราวนี้มานานแล้ว อย่างมากเลยครับ ด้วยความที่ผมเป็นแฟนของ The Priests อยู่แล้ว ผมก็เลยรู้สึกหลงเสน่ห์บทหนังเรื่องนี้ และอ่านมันแบบรวดเดียวจบ บทหนังเรื่องนี้มีความสลับซับซ้อนหลายชั้น และมีตัวละครที่พัฒนาขึ้นอย่างยอดเยี่ยม ซึ่งดึงดูดใจผม ผมตั้งใจที่จะยึดบทหนังเรื่องนี้เป็นหลัก พร้อมไปกับการให้ความสำคัญกับดรามา เพื่อสร้างมุมมองที่มีความโดดเด่นขึ้นมา สำหรับการค้นคว้าข้อมูล ผมขอคำแนะนำจากพวกแม่ชี ด้วยการตั้งคำถามพวกเธอเกี่ยวกับความคิดอ่านของพวกเธอ ตลอดไปจนถึงพิธีศพแบบคาธอลิค และพิธีกรรมที่ไม่ใช่พิธีกรรมทางศาสนาด้วย ผมได้ไปเยือนโบสถ์ในท้องถิ่นในวันฝนตก เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมด้วยซ้ำไป พวกเธอเน้นย้ำว่า ‘หัวใจ’ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เราคงความถูกต้องของบทสวดเอาไว้ แม้ว่าบางช่วงตอนจะถูกปรับเปลี่ยนเพื่อเน้นย้ำความสำคัญบางอย่างตามท้องเรื่องก็ตามครับ”
บรรยากาศระหว่างการถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง คุณและทีมนักแสดงร่วมมือกันยังไงเพื่อดึงศักยภาพการแสดงของพวกเขาออกมาให้ได้สูงสุด
“ผมพยายามที่จะรับฟังความคิดเห็นจากบริษัทโปรดักชัน มือเขียนบทและนักแสดงระหว่างขั้นตอนเตรียมงานสร้าง พวกนักแสดงเองก็ใช้เวลาพักใหญ่ในการพูดคุยและครุ่นคิดเกี่ยวกับตัวละครของพวกเขาร่วมกัน ด้วยความที่เรามีทีมงานที่มีประสบการณ์มากมายมาร่วมงานด้วย เราก็เลยสามารถสร้างการทำงานร่วมกันได้อย่างแข็งแกร่ง อารมณ์ของแต่ละฉากมักจะถูกหล่อหลอมด้วยตัวเลือกในการให้แสงและการจัดเฟรม โดยมีการคำนึงถึงการจัดองค์ประกอบเพื่อถ่ายทอดอารมณ์เป็นพิเศษ การได้ร่วมงานกับผู้อำนวยการดนตรีคิมแทซองถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เขาช่วยยกระดับความเข้มข้นทางอารมณ์ในฉากต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสวดภาวนาและการสวดมนต์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างทั้งความสมจริงและมิติลึกซึ้งให้มากขึ้น ผมซาบซึ้งใจจริงๆ กับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ให้เป็นจริงขึ้นมาได้”
ทำไม Dark Nuns ถึงเป็นภาพยนตร์ที่เราต้องไปดูในโรงภาพยนตร์ คุณมีอะไรจะฝากถึงผู้ชมทั่วโลกรึเปล่า แล้วในฐานะภาพยนตร์ความเชื่อลึกลับสัญชาติเกาหลี ภาพยนตร์เรื่อง Dark Nuns มีความแตกต่างอย่างไรจากเรื่องราวความเชื่อลึกลับอื่นๆ จากทั่วโลก
“Dark Nuns ได้ผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ เช่นพิธีไล่ผีแบบคาธอลิค พิธีคนทรงเจ้าแบบเกาหลีและการทำนายไพ่ยิปซี เข้าด้วยกันได้อย่างมีเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นการนำเสนอหนังแนวนี้ในมุมมองใหม่ เราจะสามารถสัมผัสถึงการแสดงที่ทรงพลังของบรรดานักแสดงได้ดีที่สุดผ่านจอใหญ่ ที่ผู้ชมจะมีอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องน่าขนลุกและลุ้นระทึกได้อย่างเต็มที่ ด้วยภาพวิชวลที่บรรจงรังสรรค์ขึ้นมาโดยทีมงานมืออาชีพ ผลกระทบที่แท้จริงของหนังเรื่องนี้จะปรากฏชัดได้ในโรงหนังเท่านั้นครับ ผมหวังว่าผู้ชมทั่วโลกจะได้สัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของดรามาความเชื่อลึกลับสไตล์เกาหลีด้วยตัวเองนะครับ”
บทสัมภาษณ์ “ซงฮเยคโย”
คุณเตรียมตัวอย่างไรสำหรับบทซิสเตอร์จูเนียที่ซับซ้อน คุณได้ค้นคว้าข้อมูลหรือฝึกการแสดงอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า
“ตั้งแต่นาทีแรกที่ฉันได้อ่านบท ฉันก็รู้สึกหลงใหลในเรื่องราวที่มีเอกลักษณ์ของมันและถูกดึงดูดเข้าหาตัวละครจูเนียที่มีเสน่ห์ ฉันให้ความสำคัญกับการทำความเข้าใจความนึกคิดและความศรัทธาของเธอ โดยเฉพาะความมุ่งมั่นที่จะช่วยชีวิตคนและสายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นค่ะ ในเรื่องนี้ ซิสเตอร์จูเนียได้รับการแนะนำว่าเป็นลูกศิษย์ของบาทหลวงคิมจาก The Priests มันมักจะมีกระบวนการเรียนรู้ตามธรรมชาติระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ที่เกิดขึ้นจากการได้อยู่ใกล้กัน ฉันก็เลยไปดู The Priests ซ้ำอีกรอบ อย่างไรก็ดี ฉันก็ไม่ได้จงใจถ่ายทอดเรื่องราวของหนังเรื่องนั้นออกมาระหว่างที่ถ่ายทำ Dark Nuns เพราะฉันรู้สึกว่าแก่นแท้ของตัวละครของฉันอยู่ที่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซิสเตอร์มิเคลล่า สิ่งที่น่าสนใจคือฉันได้ใช้เวลาหกเดือนเพื่อฝึกสูบบุหรี่สำหรับบทนี้ ด้วยความที่ฉันเป็นคนไม่สูบบุหรี่ ฉันก็เลยอยากทำให้แน่ใจว่าฉากพวกนี้จะดูสมจริง แม้ว่าฉันจะเลิกสูบไปแล้ว แต่สิ่งสำคัญคือการทำให้แง่มุมนั้นของตัวละครจูเนียสมบูรณ์แบบ เพราะเธอแตกต่างจากภาพลักษณ์ตามปกติของแม่ชีค่ะ”
มีคนพูดว่าคุณฝึกพูดบทภาวนาและบทสวดมนต์เป็นประจำในชีวิตประจำวัน คุณเคยเจอกับอุปสรรคหรือเกิดข้อผิดพลาดอะไรระหว่างถ่ายทำบ้างรึเปล่า ปกติแล้ว การถ่ายทำฉากพวกนั้นจะใช้เวลานานเท่าไหร่
“ฉันไม่เพียงแต่ต้องท่องบทภาวนาเท่านั้น แต่ยังต้องถ่ายทอดอารมณ์ที่ลึกซึ้งออกมาในเวลาเดียวกันด้วย ถ้าฉันทำพลาดและต้องหยุดพูดไป การทำให้อารมณ์กลับมาเข้มข้นได้เหมือนเดิมก็เป็นเรื่องยากค่ะ ฉันก็เลยตั้งใจที่จะถ่ายทำฉากพวกนั้นภายในเทคเดียว ไม่มีการใช้ทางลัดใดๆ ทั้งนั้น ฉันต้องหายใจเข้าออกเป็นบท และต้องฝึกพูดและท่องบทบ่อยๆ ค่ะ
บรรยากาศระหว่างการถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง แล้วปัจจัยไหนเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคุณเวลาเลือกบทบาทหรือบทหนังซักเรื่อง Dark Nuns เป็นการกลับคืนสู่จอเงินหลังจากคุณหยุดพักไปนาน อะไรที่ทำให้คุณเลือกบทนี้
“ตอนที่ฉันอ่านบทหนังเรื่องนี้ ฉันก็รู้สึกตื่นเต้นกับความท้าทายของมันและคิดว่ามันอาจจะเผยแง่มุมใหม่ๆ ของฉันในฐานะนักแสดงออกมาได้ ฉันรู้สึกถูกดึงดูดเข้าหาการที่ตัวละครที่มีความเชื่อแตกต่างกันมารวมตัวกันและร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวภายใต้เป้าหมายเดียวกันในการช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่ง สำหรับฉัน ปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกโปรเจ็กต์ขึ้นอยู่กับว่าบทหนังเรื่องนั้นจะน่าติดตามอย่างแท้จริงรึเปล่า บรรยากาศในกองถ่ายยอดเยี่ยมไปเลยค่ะ ฉันได้พูดคุยกับนักแสดงคนอื่นๆ บ่อยๆ และตั้งแต่เซสชันอ่านบทเป็นต้นมา ฉันก็รู้สึกตื่นเต้น มันมีช่วงเวลาลุ้นระทึกระหว่างการถ่ายทำ และฉันก็มักจะทึ่งกับการตัดสินใจที่เพื่อนนักแสดงของฉันได้ทำในการเนรมิตชีวิตให้กับตัวละครของพวกเขาเสมอค่ะ”
มีช่วงเวลาที่สนุกสนานหรือน่าจดจำอะไรบ้างไหมในกองถ่าย คุณช่วยเล่าเรื่องราวเบื้องหลังบ้างได้ไหม
“การสวมผ้าคลุมแม่ชีเป็นประสบการณ์ที่น่าสนใจค่ะ มันช่วยทำให้กระบวนการเตรียมตัวเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะพอสวมผ้าคลุมแล้ว ก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำมากนักหรอกค่ะ ฉันใช้เวลาเตรียมพร้อมแค่ 20 นาทีเอง! แต่พอฉันสวมผ้าคลุมแล้ว ฉันก็สังเกตได้ว่าความคิดอ่านของฉันเปลี่ยนไป ฉันรู้สึกสำรวมและเรียบร้อยมากขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ”
แฟนๆ ทั่วโลกจำนวนมากกำลังรอคอยหนังเรื่องนี้อยู่ คุณอยากจะฝากอะไรถึงพวกเขาบ้างรึเปล่า
“ฉันอยากรู้และตื่นเต้นที่จะได้เห็นว่าแฟนๆ จะตอบสนองต่อแง่มุมใหม่นี้ของฉันยังไง ฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกคุณจะสนุกไปกับหนังเรื่องนี้และฉันก็ซาบซึ้งใจอย่างมากกับแรงสนับสนุนของพวกคุณ ขอบคุณค่ะ”
บทสัมภาษณ์ “จอนยอบิน”
ซิสเตอร์มิเคลล่าเป็นจิตแพทย์ผู้เชื่อในวิทยาศาสตร์ แต่เธอก็ประกอบพิธีไล่ผีด้วย ทำให้เธอเป็นตัวละครที่มีสองด้าน คุณเตรียมตัวสำหรับบทนี้ยังไง
“ฉันรู้สึกได้ถึงเรื่องราวความเป็นมาของมิเคลล่าผ่านทางบทหนังเรื่องนี้ ฉันจินตนาการว่า ในฐานะคนที่ดำเนินรอยตามคำสอนของบาทหลวงเปาโล ผู้ปฏิเสธการไล่ผีด้วยแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ มิเคลล่าน่าจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยการสะกดความสามารถในการมองเห็นวิญญาณของตัวเองเอาไว้ อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ปัญหาของเธอยังไม่คลี่คลาย ฉันรู้สึกว่าเธอน่าจะหันไปหาคำตอบจากไพ่ยิปซี ความน่าขันของการที่แม่ชีใช้ไพ่ยิปซีเป็นคำนิยามที่ฉันมีให้กับตัวละครของเธอค่ะ แม้ว่าเธอจะดูเย็นชา เคร่งกฎระเบียบ และยึดถือหลักเหตุผล ฉันก็รู้สึกได้ว่าเธอมีสิ่งที่เธออยากจะเก็บซ่อน มิเคลล่าเป็นตัวละครที่เริ่มเติบโตขึ้นหลังจากได้พบกับจูเนีย ด้วยการเผชิญหน้ากับความจริงที่เธอไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไปค่ะ”
มีคนบอกว่า คุณจำบทภาวนาภาษาลาตินได้ด้วยการท่องมันเหมือนกับเนื้อร้องเพลงแร็ป คุณช่วยเล่าถึงวิธีการพิเศษนี้หน่อยได้ไหม
“ในฉากไล่ผี ฉันต้องพูดถ้อยคำภาษาลาตินตั้งแต่ต้นจนจบ โชคดีที่ด้วยความที่มิเคลล่าเป็นมือใหม่ในเรื่องการไล่ผี ฉันก็เลยไม่จำเป็นจะต้องพูดภาษาลาตินได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนเป็นภาษาแม่ ฉันแค่ถ่ายทอดความเป็นคนที่ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงศรัทธา และท่องบทภาวนาด้วยความรีบร้อนก็พอแล้วค่ะ ฉันอยากให้ผู้ชมรู้สึกถึงความเข้มข้นแบบการรักษาชีวิตให้รอดเบื้องหลังถ้อยคำเหล่านั้น ฉันก็เลยท่องบทพวกนั้นเหมือนกับการท่องเนื้อเพลงแร็ป ที่ฉันจะฝึกพูดจนกว่าถ้อยคำจะพรั่งพรูออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ แต่นักแสดงคนอื่นๆ ก็ตั้งมาตรฐานเอาไว้สูงแล้ว พัคโซดัมแสดงได้อย่างเหลือเชื่อใน The Priests และอูจิน นักแสดงที่อายุน้อยที่สุดใน Dark Nuns ก็ทำหน้าที่ได้อย่างน่าทึ่ง ฉันไม่อยากจะเป็นตัวถ่วง ฉันก็เลยพยายามเตรียมตัวอย่างหนักเหมือนกันค่ะ”
คุณร่วมมือกับซงฮเยคโยอย่างไรในการสร้างเคมีและความตึงเครียดระหว่างตัวละครของคุณ แล้วบรรยากาศระหว่างการถ่ายทำเป็นยังไงบ้าง
“การได้มองเข้าไปในดวงตาของซงฮเยคโยและได้ฟังเสียงของเธอในกองถ่ายให้ความรู้สึกเหมือนฝันเลยค่ะ ดวงตาของเธอมีความนัยที่ลึกซึ้ง และแม้เธอจะมีรูปร่างเล็กบอบบาง แต่เธอก็ยืนหยัดเหมือนเสาที่แข็งแกร่งที่เงียบงันในกองถ่าย แม้ว่ามิเคลล่าและจูเนียจะมีนิสัยที่แตกต่างกัน ฉันก็รู้สึกถึงตัวตนที่แข็งแกร่งจากทั้งคู่ มีบางเวลาที่ฉันรู้สึกประทับใจอย่างลึกซึ้งและรู้สึกอยากพึ่งพาเธอ หลังจากได้ดูเธอแล้ว ฉันก็พบว่าตัวเองใฝ่ฝันที่จะเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่เหมือนอย่างเธอได้ในซักวันหนึ่ง”
มีคนพูดว่า คุณและซงฮเยคโยได้เจอเรื่องเหนือธรรมชาติบางอย่างระหว่างการถ่ายทำด้วย คุณรับมือกับเรื่องนั้นยังไง คุณได้ทำพิธีกรรมพิเศษหรือค้นคว้าเรื่องราวสยองขวัญอะไรก่อนหน้าการถ่ายทำรึเปล่า
“ฉันจำได้ว่ามีคืนหนึ่ง ในที่พัก ฉันรู้สึกเหมือนมีคนจ้องมองฉันอยู่ระหว่างที่ฉันพยายามหลับ ฉันก็เลยต้องไปห้องนั่งเล่นแทน มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกพิกลค่ะ”
ทุกคนต่างก็มีหนังสยองขวัญที่ประทับใจไม่รู้ลืม มีหนังเรื่องไหนบ้างมั้ยที่ทำให้คุณกลัวจริงๆ สมัยเด็ก แล้วมันส่งอิทธิพลต่อคุณในฐานะนักแสดงรึเปล่า
“ฉันคิดว่าหนังเกี่ยวกับความเชื่อลึกลับเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวมาโดยตลอด ฉันดูหนังพวกนั้นในโรงหนังคนเดียวไม่ได้เลย ฉันต้องมีเพื่อนไปดูด้วยเสมอ แต่ถึงฉันจะกลัว ฉันก็รู้สึกถึงความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ Dark Nuns ฉันคิดว่า ในฐานะผู้สร้าง ฉันอาจจะรู้สึกกลัวน้อยลงก็ได้ แง่มุมของการเอาชนะความกลัวส่งอิทธิพลต่อแนวทางที่ฉันแสดงบทมิเคลล่า ตัวละครที่ต้องดิ้นรนอยู่กับความกลัวแต่ท้ายที่สุดก็แข็งแกร่งขึ้นค่ะ”
แฟนต่างชาติจำนวนมากกำลังรอคอยหนังเรื่องนี้อย่างใจจดจ่อ คุณมีอะไรจะฝากถึงพวกเขารึเปล่า
“ฉันเชื่อว่า Dark Nuns เป็นหนังที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับครอบครัว เพื่อนฝูงและเพื่อนร่วมงานได้ ฉันหวังว่าข้อคิดของหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับความผูกพันและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจะทำให้คุณอบอุ่นหัวใจ ขอบคุณสำหรับแรงสนับสนุนของพวกคุณค่ะ”
บทสัมภาษณ์ “อีจินฮุค”
ช่วยแนะนำตัวละครของคุณใน Dark Nuns หน่อยได้ไหม
“ผมรับบทบาทหลวงเปาโล นักบวชที่เชื่อมั่นว่าเขาสามารถรักษาเด็กชายที่ชื่อฮีจุนได้ครับ”
ในหนังเรื่องนี้ มีเส้นแบ่งระหว่างตัวละครของจูเนีย ผู้เชื่อในปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติและบาทหลวงเปาโล ผู้พึ่งพายารักษาอย่างเดียว ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันในชีวิตจริง คุณจะเอนเอียงไปฝั่งไหน
“ผมคิดว่าผมคงจะเอนเอียงไปทางบาทหลวงเปาโลมากกว่า ผมเองก็เหมือนกับเขาที่ไว้ใจในยารักษาโรคมากกว่าและเชื่อว่าการรักษาน่าจะเป็นไปได้ในรูปแบบของวิธีการทางวิทยาศาสตร์มากกว่าจะเป็นไปในทางเหนือธรรมชาติน่ะครับ”
ประสบการณ์การร่วมงานระหว่างคุณกับซงฮเยคโย, จอนยอบิน และมุนอูจินเป็นยังไงบ้าง มีช่วงเวลาไหนบ้างไหมระหว่างการถ่ายทำที่คุณรู้สึกประทับใจกับการแสดงของพวกเขา
“พวกเขาเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์อย่างเหลือเชื่อกันทุกคนเลยครับ ผมอยากจะร่วมงานกับพวกเขามาโดยตลอด ผมก็เลยตื่นเต้นที่ได้รับโอกาสนี้ ตลอดการถ่ายทำ ผมรู้สึกได้แรงบันดาลใจกับการสวมบทตัวละครที่แนบเนียนของพวกเขา ซึ่งทำให้การถ่ายทำเป็นอะไรที่เพลิดเพลินและกระตุ้นความตื่นเต้นสำหรับผมครับ”
อะไรที่ดึงดูดคุณเข้าหา Dark Nuns ในตอนแรกและทำให้คุณตัดสินใจรับบทนี้
“เสน่ห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมันคือโอกาสในการได้ร่วมงานกับนักแสดงชั้นเยี่ยมและบทหนังที่เขียนขึ้นมาอย่างดี การผสมผสานกันระหว่างปัจจัยทั้งสองอย่างนี้ทำให้การตัดสินใจเป็นเรื่องง่ายสำหรับผม”
แฟนต่างชาติจำนวนมากกำลังรอคอยหนังเรื่องนี้อย่างใจจดจ่อ คุณมีอะไรจะฝากถึงพวกเขารึเปล่า
“Dark Nuns เป็นดรามาความเชื่อลึกลับเกี่ยวกับตัวละครที่มีความเชื่อแตกต่างกัน ที่มารวมตัวกันโดยมีเป้าหมายหนึ่งเดียวกัน นั่นคือการช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่ง ผมจะซึ้งใจมากๆ ถ้าคุณชื่นชอบหนังเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับความสนับสนุนของพวกคุณครับ”
บทสัมภาษณ์ “มุนอูจิน”
ในฐานะนักแสดง อะไรเป็นส่วนที่น่าสนใจหรือท้าทายที่สุดในการดำดิ่งลงไปในเรื่องราว แล้วมันส่งผลกระทบต่อคุณอย่างไรบ้าง
“ผมถูกดึงดูดเข้าหาโอกาสในการได้รับบทตัวละครที่ถูกผีสิง และต้องทุกข์ทรมานจากวิญญาณร้าย มันไม่ใช่บทที่เข้ามาบ่อยนัก ผมก็เลยซาบซึ้งใจกับโอกาสนี้และท้าทายตัวเองที่จะพยายามอย่างดีที่สุด ผมกระโจนเข้าใส่หนังเรื่องนี้ด้วยปณิธานแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จครับ”
ในการทำความเข้าใจตัวละครตัวนี้ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น คุณได้ทำการค้นคว้าข้อมูลหรือดูหนังเรื่องอื่นๆ ก่อนที่จะถ่ายทำรึเปล่า
“ผมดูการแสดงของพัคโซดัมใน The Priests เพื่อหาแรงบันดาลใจครับ แต่ผมก็ให้ความสำคัญกับการนำเสนอตัวละครฮีจุนออกมาอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นอะไรใหม่ๆ ครับ”
คุณมีเรื่องราวเบื้องหลังอะไรสนุกๆ หรือน่าจดจำจากกองถ่ายรึเปล่า มีช่วงเวลาพิเศษระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมแสดงของคุณบ้างไหม
“ระหว่างฉากไล่ผี มีตอนหนึ่งที่จูเนียสาดน้ำมนต์ใส่ผมไม่หยุด ทีมงานกังวลว่าผมจะหนาว พวกเขาก็เลยห่อตัวผมด้วยฟอยล์ แล้วก็ติดตั้งเครื่องฮีตเตอร์ไว้บนหัวผมด้วยซ้ำไป มันเป็นประสบการณ์ที่ตลกและอบอุ่นครับ”
แฟนต่างชาติจำนวนมากกำลังรอคอยหนังเรื่องนี้อย่างใจจดจ่อ คุณมีอะไรจะฝากถึงพวกเขารึเปล่า
“Dark Nuns เป็นดรามาความเชื่อลึกลับที่นักแสดงทุกคนทำงานด้วยความรักความทุ่มเทอย่างมาก ผมหวังว่าคุณจะมีช่วงเวลาดีๆ ตอนดูหนังเรื่องนี้ในโรงหนังตอนที่มันเข้าฉายนะครับ”
คุณหวังว่าจะได้เป็นนักแสดงแบบไหนในอนาคต มีบทหรือหนังแนวไหนที่คุณอยากจะลองแสดงในครั้งต่อไปไหม
“ผมอยากเป็นนักแสดงที่แสดงอย่างดีที่สุดเสมอ ผมวางแผนที่จะรับบทและโปรเจ็กต์ที่หลากหลาย ดังนั้นขอให้ตั้งตารอที่จะได้เห็นผลงานมากกว่านี้จากผมนะครับ”
ตอนนี้คุณเรียนอยู่ระดับมัธยมปลาย คุณรักษาสมดุลระหว่างการถ่ายทำ Dark Nuns กับชีวิตการเรียนได้ยังไง
“ผมคิดว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่แนวคิดที่จะทำสิ่งต่างๆ อย่างเหมาะสมในตอนที่มีโอกาส แนวทางนั้นทำให้ผมได้รับผลลัพธ์ที่ดีทั้งในกองถ่ายและที่โรงเรียนครับ”
014
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี