“หญิง กัญญา ไรวินท์” วันนี้มาเปิดใจ หลังผันตัวเป็นนักกีฬาเคิร์ลลิ่ง ทีมชาติไทย ล่าสุดก็ได้ไปแข่งขันเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว ครั้งที่ 9 หรือ Asian Winter Games 2025 ที่เมืองฮาร์บิน ประเทศจีน พร้อมขอเปิดเผยเรื่องหัวใจเป็นที่แรก แฟนคนนี้ได้มาเพราะมูเตลู รวมถึงขอย้อนเล่าเหตุการณ์พิสูจน์รักแท้จนเกือบเอาชีวิตไม่รอดทั้งคู่ เล่าป่วยเป็นเนื้องอก 3 รอบ มีภาวะวัยทองก่อนกำหนด ทำให้ตอนนี้ไม่มีประจำเดือนแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี บูม สุภาพร และ เป็กกี้ ศรีธัญญาเป็นพิธีกรดำเนินรายการ
กีฬาเคิร์ลลิ่ง คืออะไร?
“เคิร์ลมาจากคำว่าโค้ง หลักการของมันคือเราต้องปล่อยลูกออกไปให้มันโค้งเข้าไปจนถึงจุดที่เป็นโฮมให้ได้ ใครเข้าใกล้ตัวพินที่สุดก็จะได้คะแนนไป กีฬานี้มีมานานมากแล้ว แต่ด้วยความมันเป็นกีฬาฤดูหนาว เขาจะเล่นกันเยอะมากๆ ในแคนาดา มีลีกจริงจัง ยิ่งใหญ่มาก”
ชนะกาตาร์ไป 10 ต่อ 1?
“ต้องบอกว่าชนะมาแค่แมตซ์เดียวนะคะ เพราะเราเพิ่งเริ่ม ทั้งทีมไม่มีใครเก่งกว่าใครเลย ทุกคนเริ่มกันมาตั้งแต่ต.ค.ปีที่แล้ว คือ 4 เดือน ไปถึงที่โน่นทุกคนตกใจ ว่าเล่นมา 4 เดือนเองเหรอ ฉะนั้นเราเน้นเข้าร่วมไม่เน้นเข้ารอบ เราขอแค่เป้าหมายคือ 1 แต้มก็พอ พอไปแมตซ์แรก เจอกับจีนเจ้าภาพ จีนคืออันดับ 3 ของเอเชีย พอเราเจอเขา เราแพ้ไป 19-1 แต่เราดีใจน้ำตาไหลมาก ได้ 1 แต้มในที่สุด ได้ในเอ็นสุดท้าย ตอนแรกถอดใจแล้วว่าจะไม่ได้ พอได้ก็น้ำตาไหล คนจีนงงจ้า ดีใจอะไร ยูแพ้ตั้ง 19 (หัวเราะ) ตอนหลังเขากลายเป็นเอ็นดู เขาแฮปปี้ เอ็นดูนักกีฬาไทย ทำไมแอดติจูดยูดีขนาดนี้ ซึ่งเราไม่คิดว่าเราจะได้ 1 แต้มไง มันยากมาก คนอื่นเล่นกันมา 10-20 ปี เราเล่น 4 เดือน”
ถือว่าเป็นกีฬาใหม่ หลายคนอาจไม่รู้จักกีฬานี้เลย ทำไมอยู่ๆ จากนักวิ่ง มาเป็นหนึ่งในทีมชาติไทย?
“อย่างที่เรารู้กันว่ามันเป็นกีฬาใหม่ มีการประกาศในวงแคบๆ ว่าใครอยากลองมาเล่นดูมั้ย มาฝึก มาคัดตัว ในทีมตลกมาก คนนึงเป็นไอซ์ ช็อกกี้ คนนึงเป็นสปีดสเก็ตติ้ง เป็นช็อตแทร็ก คนนึงเป็นนักมวย คนนึงเป็นนักไตร คนนึงเป็นนักวิ่ง (หัวเราะ) จับฉ่ายค่ะ คนที่ตลกที่สุดคือน้องเล็ก ชนาธิป เพราะนางเป็นเทควันโดเหรียญทองแดงโอลิมปิก นางเป็นนักกีฬาคนแรกที่เป็นทั้งวินเทอร์และซัมเมอร์ แล้วโค้ชเชมาให้กำลังใจ มาสอนเรื่องมายด์เซ็ตต่างๆ เราต้องไปเก็บตัวที่เกาหลีก่อน 10 วัน เพราะประเทศไทยไม่มีสนามเคริ์ลลิ่ง โค้ชเชก็ไปช่วยติดต่อประสานงานทุกอย่าง โค้ชเชดูแลพวกเราดีมากจริงๆ ค่ะ”
นักกีฬาต้องมีการทำรูทีนในการซ้อม ต้องมีแรงกล้ามแขน ต้องซ้อมหนักขนาดไหน?
“เคิร์ลลิ่งเป็นเวลาที่ต้องมั่นคง แข็งแรง ยืดหยุ่นด้วย หลักๆ กีฬาคือความแม่นยำ สมอง และทีมเวิร์ก ฉะนั้นทุกอย่างต้องประกอบกัน อาทิตย์นึงซ้อมที่เมืองไทยอาทิตย์ละ 6 วัน ไม่รวมเวท ไม่รวมพีลาทิส ไม่รวมสิ่งที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายของเรา อารมณ์เหมือนหมากรุกที่เราต้องใช้สกิลทักษะแบบนี้ด้วย”
ความลำบากในการซ้อม ทำไง?
“ซ้อมที่ลานไอซ์สเก็ต ที่อิมพีเรียลเวิลด์สำโรง ใช้ตามมีตามเกิด เพราะน้ำแข็งต่างกัน 100 เปอร์เซ็นต์เลยนะ ต่างกันโดยสิ้นเชิง ความเรียบ ความลื่น ไม่เหมือนกันเลย บ้านเราน้ำแข็งฝืดมาก ไม่เหมือนสนามจริงๆ เราเลยไปเก็บตัวที่เกาหลี ซึ่งซ้อมหนักมาก เช้าเย็นๆ เราไปแค่ 10 วัน ห้าชม.ที่เราซ้อม เช้าสองชม.กว่า เย็นสองชม.กว่า กลางวันเก็บไว้พักผ่อน พอไปถึงเมืองจีนเคิร์ลลิ่งเป็นกีฬาที่ไปถึงก่อนใครเลย เพราะไม่มีสนาม เราไปถึงตั้งแต่วันที่ 1 แข่งวันที่ 8 นึกภาพว่าวันที่ 7 มีพิธีเปิด เช้าเรายังไปซ้อมกันอยู่เลย หนักมาก เป็นกีฬาที่อุปกรณ์แพงมาก ถ้าลูกเคิร์ลลิ่งลูกนึง 2 แสน ไม้อันนึงเกือบหมื่นรองเท้าคู่ละหมื่นกว่าบาท ถึงมือคู่ละประมาณ 2 พัน”
ต้องซื้อเอง?
“ที่สมาคมมีให้ แต่ถ้าใครอยากอัปเกรดก็ต้องทุ่มทุนนิดนึง ของเราเป็นสีชมพูหวานแหวน พริ้นเซส เราโยนไปก่อนแล้วตามขัด ซึ่งถ้าเป็นทีมจะมีคนช่วยขัด ถ้าคนที่เก่งสามารถขัดและเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็ว แต่คนไทยเราไม่มีเวลา เราไม่เคยซ้อมขัดมาก่อน เราพลาดตรงการขัดเยอะมาก แต่ก็ภูมิใจมากแล้วที่เราได้แค่นี้ มือขัด ขัดจนปวดแขนมาก เจ็บตั้งแต่ต้นขาขวา และแขนซ้าย”
ท้อมั้ย?
“ท้อ ลานน้ำแข็งสำโรงเรากะไม่ค่อยถูก เราโยนเท่าไหร่มันก็ไม่ถึง ไม่เข้า จนบางครั้งเราคิดว่าหรือเราไม่เหมาะกับกีฬานี้จริงๆ สุดท้ายพอเขาเลือกตัวเลือกลำดับ ก็คิดว่าเป็นตัวสำรองให้ก็ได้ เสียสละ เพราะรู้ว่าไม่ได้เก่งมากเท่าคนอื่นๆ ก็ขอเน้นเข้าร่วม ขอทำคอนเทนต์ ไปเอาโมเมนต์”
ทำไมอยู่ดีๆ เป็นตัวจริง?
“อาจเป็นเพราะว่าเราอายุมากกว่าคนอื่นเยอะ เราแฮนเดิลความกดดันได้ เพราะในสนามกดดันมากๆ เลยนะ ลูกที่เราเคยโยนเข้าตลอด พออยู่ที่สนามมันไปไม่ถึงบ้างแหละ แรงเกินบ้างล่ะ มันได้โยนคนละ 2 ลูก ถ้าลูกแรกเบา ลูกที่สองแรง มันเป็นแบบนี้เสมอ อาจเป็นเพราะเรารับแรงกดดันได้ เรามีสติ เลยทำให้ทำได้ดีมากกว่าที่เคยทำที่เมืองไทย เลยกลายเป็นว่าได้ลองเล่นหลายนัด ก็ดีใจมากเลย ช่วยทีมได้แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว”
นอกจากรับแรงกดดันได้ดี ป๊อปปูล่าร์มาก พส.(พี่สาว) จีนชอบมาก?
“อาจเป็นเพราะหนึ่งหน้าตาเรามาโทนนี้ แล้วเราสามารถสื่อสารภาษาจีนได้บ้าง ที่เขาบอก เขาชอบแอดติจูดของเรา พอดีไปถึงที่โน่นก็ไปสื่อสารกับชาวจีน มีคนมาดู มาตามคอมเมนต์ ส่งภาพส่งข่าวให้ เขาบอกชอบแอดติจูดคนไทย เล่นไปสนุกสนานไป อย่างที่บอกแพ้ 19-1 แพ้ 13-0 เราก็ยังแฮปปี้อยู่ มันไม่ต้องกดดันอะไร พวกเธอสิต้องกดดัน พวกเธอเจอฉันพวกเธอแพ้ฉันไม่ได้ เราก็เล่นสนุกๆ ไป”
ขึ้นหน้าอกหนังสือพิมพ์ในประเทศไทยว่ายากแล้วแต่ขึ้นในจีน?
“อธิบายก่อนว่าไม่ใช่หนังสือพิมพ์ทั่วไป มันเป็นหนังสือพิมพ์ที่แจกในเอเชียนเกมส์ เป็นหนังสือพิมพ์ในเอเชียนเกมส์โดยเฉพาะ แล้วมีน้องเขาถ่ายรูปส่งมาให้ เราก็เอ๊ะ นั่นรูปพี่หรือเปล่า ไม่แน่ใจ กลายเป็นว่าเราได้ลงเป็นฉบับสุดท้ายเฉลิมฉลองปิดเทศกาลให้ดูว่าหน้าตาของคนที่มีชัยชนะอะไรเป็นยังไง มันเป็นแมตซ์ที่เราชนะกาตาร์แล้วเราร้องไห้ดีใจมาก แล้วกาตาร์เขามากอดเรา บอกว่ายูร้องไห้ทำไม ยูชนะ ตอนแพ้เราหัวเราะ คนก็คงงงว่าอีนี่เป็นอะไร เราบอกว่าเราดีใจ เพราะเราไม่คิดว่าเราจะชนะ แล้วชนะค่อนข้างขาดเลย 10-1 ก็ดีใจ แอบถามเขา ยูเล่นมานานแค่ไหน เขาบอกเขาเล่นมาแล้ว 1 ปี เราชอบออกตัวไว้ก่อนเลยว่าเราเพิ่งเล่นนะ ถ้าทำอะไรผิดต้องขออภัยด้วย กรรมการเตือนหลายอย่างมาก คนไทยบาทีกฎกติกาเล็กๆ น้อยๆ หลายอย่างที่เราไม่รู้ พี่ก็ขอโทษกรรมการเลยว่านี่เป็นแมตซ์แรกของพวกเราทุกคน ดังนั้นอะไรที่เราทำผิดไปให้รู้ว่าเราไม่ได้ตั้งใจนะ มันมีกฎประหลาดๆ เยอะ อย่างเช่นห้ามเอามือวางบนน้ำแข็งเกิน 5 วิ งงมั้ย เวลาปล่อยลูกไปแล้วเราเอามือแตะ เพราะโฟกัสอยากรู้ว่าลูกไปถึงไหน เผลอ อ้าว โดนเตือนจ้ะ”
มีเอฟซีจีนมาติดตามเยอะมั้ย?
“มีมาฟอลโลว์ก็หลายร้อยคนแล้ว บางคลิปวิวเป็นหมื่นแล้วนะ อุ้ยตาย ดีใจจังเลย มีคนมาขอลายเซ็น มีคนมาต่อคิวขอถ่ายรูปเยอะมาก จริงจังมาก ขอแลกพิน อะไรแบบนี้”
มีแพลนต่อยอดมั้ย?
“ตอนนี้ขึ้นอยู่กับสมาคมเคิร์ลลิ่งแห่งประเทศไทยว่าเขาจะให้พวกเราไปเล่นแมตซ์ไหนต่อ แต่เท่าที่คุยมา เขาบอกว่าเขาอยากให้พวกเราไปเก็บเวิลด์แรงกิ้ง เพราะแข่งเอเชียนเกมส์ไม่นับเวิลด์แรงกิ้ง เราจะไม่อยู่อันดับใดๆ เลย เราคือโนเนมไร้อันดับ ดังนั้นถ้ามีโอกาสเขาจะส่งไปเก็บอันที่มีแรงฯ ได้”
เป็นนักกีฬาที่มีชัยชนะการันตี จะหันหลังให้วงการบันเทิงมั้ย?
“เอาจริงๆ นะ วงการบันเทิงก็อยากทำอยู่ อะไรที่เหมาะสม อยากทำ ไม่ถึงกับหายไปเลย เราก็เกิดจากวงการนี้ เราก็รักที่จะทำวงการอยู่ แต่ถ้าเวลาไม่ลงตัว ก็คงต้องเลือกอีกทีนึง”
การเป็นหนึ่งในนักกีฬาทีมชาติ ได้อะไรจากการเป็นนักกีฬาเคิร์ลลิ่ง?
“เอาจริงๆ มันเหมือนเปลี่ยนชีวิตเราไปเลย ทำให้เรามีแพสชั่นใหม่ๆ เพราะอย่างที่บอก หลังๆ เราชิลแล้วเราทำงานหนักมาตลอดชีวิต อยากจะพักจริงๆ นะ หันมาดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย แต่เหมือนใช้ชีวิตไปวันๆ ไม่ได้มีเป้าหมายอะไร แต่พอเป็นนักกีฬาทีมชาติ มันเหมือนมีธงชาติอยู่ตรงหน้าอกเรา มันต้องแบกรับความคาดหวังทั้งตัวเราเองและประเทศไทย เราไม่อยากทำให้คนไทยต้องเสียชื่อ เราเหมือนตั้งใจและอยากทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด อย่างไปเอเชียนเกมส์อย่างที่บอกเน้นเข้าร่วมไม่เน้นเข้ารอบ เป้าหมายของเราคืออยากเอาธงไทยไปปักให้รู้ว่าซัมเมอร์บ้านเรา ประเทศที่มีแต่หน้าร้อนก็มีกีฬาวินเทอร์เหมือนกัน นี่คือความคาดหวังของเรา พอมันมาปุ๊บ ทำให้เรามีแพสชั่นตั้งใจ ออกกำลังกายซ้อม บางทีไกลมากไปสำโรง ไปเช้าไปเย็น แต่ก็ทำให้เราเหมือนเป็นอีกคนนึง เป็นคนใหม่ขึ้นมาเลย”
ความรักก็เป็นพลังงานขับเคลื่อน ตั้งแต่ออกไปวิ่ง ออกเดินทาง ค้นหาตัวตน หวานใจซัปพอร์ต?
“เราได้เจอคนที่ดี เขาก็สนับสนุน ซัปพอร์ตในทุกๆ เรื่อง อย่างเรื่องกีฬาเขาก็เป็นคนชวนเราให้มาวิ่ง ออกกำลังกาย มาราธอน เขาอยากให้เรามีเป้าหมายในชีวิต พอมาเป็นนักกีฬาก็ไปคัดตัวด้วยกัน ติดเป็นทีมชาติด้วยกัน ก็ซัปพอร์ตซึ่งกันและกันด้วย”
คุณแมนเล่นกีฬานี้ด้วยกัน?
“ใช่”
เหมือนเป็นคู่รักนักกีฬา?
“ก็มีความน่ารักของเขาอยู่ตรงที่ว่าผู้หญิงจะแข่งวันละ 2 แมตซ์เช้าเลยกับเย็นเลย แต่ผู้ชายเขาจะแข่งบ่าย ตัวเขาจะตื่นเช้ามาด้วยกัน ให้กำลังใจ เดี๋ยวพี่ไปเชียร์หนู ก็กลายเป็นว่าตื่นเช้ามาเชียร์ข้างสนามด้วย”
จุดเริ่มต้นความรัก มาได้ยังไง?
“เพื่อนแนะนำ เพราะมีเพื่อนคนนึง เขารู้ว่าหญิงกำลังจะไปเดินอีบีซี เทรกกิ้ง ตอนนั้นเราก๋ากั่นมาก เป็นผู้หญิงคนเดียว ไปกับพี่ปอ ก้ามปู แล้วก็พี่หนึ่ง เอฟเวอเรสต์ เราคิดว่าถ้าไม่ไปทริปนี้ ชาตินี้เราคงไม่ได้ไปอีกแล้ว เพราะแก่แล้ว จะไปบุกป่าฝ่าดงอะไรขนาดนั้นก็ไม่ได้ ก็เลยไปโม้กับทุกคน เธอๆ ฉันจะไปเดินอีบีซี เพื่อนคนนั้นก็เมมไว้ในหัวแล้ว พอเขาไปเจอพี่แมน เขาบอกว่าเฮ้ย พี่แมนก็เคยไปเดินอีบีซีมาแล้วนี่ อีกรูทนึง ถ้างั้นสองคนนี้มีแพสชั่นเหมือนกัน ชอบทำอะไรบ้าๆ เหมือนกัน เดี๋ยวผมแนะนำให้รู้จักกัน ก็เลยกลายเป็นว่าเขาแนะนำให้รู้จัก”
เทพเจ้าส่งมา เพราะไปมูมา ขอยังไง?
“มันตลกมาก ตอนนั้นโสดมาสองปี โสดแบบไม่เอาใครเลย ไม่รับโทรศัพท์ไม่คุยใดๆ ไม่เดต แล้วอยู่มาวันนึง ฉันรู้สึกว่าฉันพร้อมแล้ว ฉันรักตัวเองเต็มที่ ไหนๆ ไปไต้หวัน คนไทยจะฮิตไปวัดหลงซาน แต่มีเพื่อนคนนึงบอกว่าอย่าไปเลย วัดหลงซานขอแต่สุขภาพ ไปอีกวัดนึงเสียไห่ ฉันก็ไม่ได้ คนไทยไปหลงซานแล้วได้คู่กันเต็ม แสดงว่าท่านรักคนไทย เดี๋ยวฉันจะไปสองวัดเลย ก็เตรียมเลยนะ ถามคนอื่นว่าต้องไปมูยังไง เขาบอกไปไหว้เปล่าๆ เลย ถ้าสำเร็จค่อยกลับไปแก้บน อีนี้ไม่ได้หรอก เขาแก้บนด้วยอะไร อ๋อ ไปซื้อขนมหน้าวัดก็ได้ ไม่ได้จ๊ะ ต้องเตรียมจากไทยไปจ๊ะ ฉันสั่งอาลัวลายกุหลายสวยมาก ดูโดดเด่นมาก เอาไปติดสินบนท่านก่อน ท่านคะ หนูมาไกลมาก หนูแก่แล้วด้วย หนูเตรียมมาให้จากเมืองไทยเลย เอาไปถวายสองที่ ฉันเสิร์ฟก่อนจ้า (หัวเราะ)”
ขอว่ายังไง?
“ทำลิสต์ไปยาวมาก 60 กว่าข้อ (หัวเราะ) บ้ามั้ย ขอละเอียดมากๆ เพราะในใจคิดว่าถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะในใจมีมาตรฐานไว้สูงเลยดีกว่า ถ้าไม่ถึงก็ไม่เอา อยู่คนเดียวได้ เรื่องรักครอบครัว รักพ่อแม่ ไม่เจ้าชู้อันนี้คือเบสิก ดิฉันขอคนนอนเร็วตื่นเช้า เพราะ ณ ตอนนั้นทำรายการเช้า แล้วชอบมีคนมาคุยกับฉันดึกๆ ฉันต้องการนอน ก็เลยขออะไรแบบนี้ ขอคนนอนเร็วตื่นเช้า ขอคนที่มีไลฟ์สไตล์เหมือนกัน มีเวลาว่างไปเที่ยวด้วยกันได้บ่อยๆ โอ้โห ท่านก็เลยจัดให้ จริงๆ มีลิสต์อะไรเยอะแยะมากมาย”
แสดงว่าไปเดินอีบีซีกับคุณแมนครั้งแรกก็ปิ๊งเลยเหรอ?
“ใช่ แมนมาก บอกว่าเดี๋ยวพี่ไปด้วย พี่ไม่ได้ไปเป็นเพื่อนนะ แต่พี่จะไปซัปพอร์ตหนู”
ทริปนั้นหัวเลี้ยวหัวต่อ จะไปต่อหรือเลิกคุย?
“มันเพิ่งรู้จักกันเดินกว่าๆ แล้วมันไปเลย ซึ่งเราก็เอาวะ มันต้องวัดใจกันตรงนี้แหละ เพราะมันเหนื่อย มันลำบากมาก มันอันตราย มันสกปรก มีหลายอย่าง ไม่ใช่ทริปสบาย ชิล ความกดดันมันสูงมาก”
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น คือพลัดหลงจากกลุ่ม?
“ใช่ ร้อยวันพันปีต้องเกาะกันไป วันนั้นไม่รู้อีท่าไหน หลุดออกจากกลุ่มเฉยเลย ปกติเดินผ่านไปผ่านมา ต้องเจอคนเซย์ไฮ แต่นี่ไม่เหลือใครเลย วันนี้เริ่มหิมะตก ปกติฤดูนี้ไม่มีหิมะตกแล้ว โลกร้อน หิมะตกเฉยเลย แล้วมองไปทางไหนเวิ้งว้างมาก ไม่มีใครดีๆ กลับไม่ได้ไปไม่ถึง เพราะเรามากลางทางแล้ว ต้องมุ่งหน้าอย่างเดียว เดินไปทั้งหมด 8 วัน น่าจะ 60 กิโล หนาวมากๆ อากาศน้อยมาก พอขึ้นไป 4 พันกว่า 5 พันกว่า มีปัญหาเยอะ ก็เหลือพี่ พี่แมน และเฌอปราง ไกด์นำทางอีกหนึ่งคน เขาหน้าเสียเลยแล้วเผลอหลุดออกมาว่าหิมะตกได้ยังไง เราต้องรีบแล้ว จะร้องไห้ก็ร้องไม่ได้ มันกลัว ต้องรีบจ้ำๆ เดินเร็วไม่ได้ หยุดพักต้องยืน ถ้านั่งแล้วลุกขึ้นมาใหม่จะหน้ามืด ตอนหลังถ่ายคลิปได้เพราะเห็นอีกกลุ่มนึงอยู่ไกลๆ ลิบๆ เขาตะโกนลงมา ตัวเขาก็บอกว่าเขากังวลเลยนะว่าเราจะไปเกิดอันตรายที่ไหน ฟ้ามืดมาก มองไปทางไหนมองไม่เห็นอะไรเลย”
พี่แมนให้กำลังใจยังไง?
“เขาบอกไม่เป็นไร รีบเดินให้ถึง ไม่ต้องคิดอะไร มีหน้าที่อย่างเดียวเดินให้ถึง ก้าวตามมาให้ได้ ซึ่งทริปนี้นางก็ดูแลเป็นอย่างดี เชือกรองเท้าหลุดก็ก้มไปผูกให้ แค่ก้มหน้ามันก็มึนหัวแล้ว ถือน้ำให้ แบกเป้ให้ แต่ซึ้งที่สุดคือนางบอกว่าขออนุญาตให้นั่งเฮลิคอปเตอร์กลับนะ ไม่ต้องเดินกลับ เพราะถ้าเดินกลับเสียเวลาอีก 3 วัน ซื้อใจเราตรงนี้ได้มากที่สุดเลย เรารู้สึกว่าอุ้ยตายแล้ว คิดเผื่อเราไว้ด้วย ไม่ต้องขออนุญาตนะคะ ดิฉันเต็มใจ (หัวเราะ) ถ้าเห็นในรูปนางก็น่ารัก นางใส่ใจรายละเอียด นางบอกให้ไปนั่งข้างหน้าเลย เพราะเราไม่เคยนั่ง ดิฉันก็ไปนั่งข้างหน้า ตื่นเต้นถ่ายคลิป คนไม่เคยนั่ง จากเดิมที่ใช้เวลา 3 วันก็ใช้เวลาแค่ชม.กว่า”
แต่งมั้ย?
“รุ่นนี้เอาจริงๆ ไม่ต้องแต่งแล้ว พูดตรงๆ เราเคยแต่งงานมาแล้ว เขาเคยแต่งงานมาแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องแต่ง ความรักไม่ได้พิสูจน์กันที่แต่งหรือไม่แต่ง”
ก่อนเฮลท์ตี้อย่างทุกวันนี้ มีปัญหาเรื่องสุขภาพหลายอย่าง?
“แต่ละจุดที่สำคัญเป็นมาหมดแล้ว เป็นที่หน้าอกก่อนตอน 27 อายุ 30 กว่าเป็นที่มดลูก ประมาณ 40 เป็นที่ต่อมน้ำลาย ผ่าจนเฉยแล้ว เหมือนอยู่ดีๆ มีเพื่อนที่เขาเป็นเนื้องอก เป็นมะเร็งหลายคน เราก็นอยด์ กลับบ้านมาสิ่งเดียวที่เราจะดูได้คือหน้าอก คลำปุ๊บเจอปั๊บเลยว่ะ ตกใจมาก รีบไปหาหมอ หมอบอกว่าใช่ค่ะ ผ่าเลย เราก็เฮ้ย มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ เขาเจาะมีการเอาไปดูว่าเป็นเนื้อร้ายหรือเปล่า อัลตร้าซาวด์ ซึ่งสุดท้ายหมอบอกว่าผ่าตัดเล็ก วันเดียวไม่ต้องนอน เราก็สบายใจ แจ็คพอตเป็นรอบสอง เอาอีกแล้วเหรอ ที่มดลูก เหมือนแค่เซนฯ เดียว แต่ปวดมากๆ ปวดตลอดเวลา ถ้าใครมีอาการปวดท้องให้พยายามจับสังเกตว่าปวดตอนไหน ปวดเมื่อไหร่ อาการเป็นยังไง เพราะกว่าจะหาเจอ 2 ปี เพราะเขาคิดว่าเซนฯ เดียวไม่น่ามีปัญหา จนสุดท้ายผ่านมา 2 ปี จนเรารู้ว่ามันจะปวดตอนเราไม่มีประจำเดือน พอมีประจำเดือนมันจะไม่ปวด หมอบอกว่างั้นใช่แล้ว เซนฯ เดียวนั่นแหละมันขาดเลือด มันเลยปวด มันปวดแบบกดจี๊ดเข้าไปแบบนั้น สองปีที่ทนกว่าจะหาเจอ พอผ่าเสร็จก็ชิลแล้ว อยู่ดีๆ มาเจอที่ต่อมน้ำลาย เราคลำแล้วมันมีเม็ดอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เด็กๆ เมื่อ 20 ปีแล้ว อยู่ดีๆ มาปวด เคี้ยวข้าวคำแรกจะปวด พอน้ำลายออกมาได้แล้วมันหายปวด เหมือนไปปิดกั้น ซึ่งตอนแรกหมอคิดว่าต่อมน้ำลายอักเสบ แต่พอสักพักอยู่ดีๆ ปวดอีกแล้ว เฉยๆ ก็ปวดเลย ก็เลยไม่สบายใจ อะไรที่ปวด อะไรที่ผิดปกติ เอาออกเลยดีกว่า แต่ก็ลังเล เพราะจุดนี้เส้นประสาทออกมา 5 เส้น ถ้าโดนเส้นประสาทเส้นนึงก็มีสิทธิ์เลย หน้าเบี้ยว แต่หมอก็บอกว่าโอกาสเกิดมี แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอันตรายมากๆ ก็มีความเสี่ยงอยู่ เราก็ปรึกษาพี่ต้น ตระการ เขาเคยผ่ามาแล้ว พี่ต้นเขาแนะนำคุณหมอคนนึง แผลสวยและดูดี เราก็เลยตัดสินใจไปผ่า ก็โอเค รอดมาได้ ทุกส่วนก็ฟอลโลว์อัปไปเรื่อยๆ”
วัยทองก่อนวัยอันควร มีช่วงนึงคนรอบข้างปวดหัวเลย?
“ตอนแรกไม่มีประจำเดือนมาก่อน คนออกกำลังกายจะชอบไง ไม่มีประจำเดือนเราจะได้เวทได้หนัก วิ่งได้เยอะ จริงๆ แล้วมันส่งผลเสียต่อสุขภาพ ปล่อยไว้ 2 ปี 38 ปุ๊บอาการออกเลย ร้อนวูบวาบ ร้อนแบบไฟเผาออกมา เราจะเข้าใจคุณแม่ทั้งหลายเลย เป็นทุกครึ่งชม. ครั้งละ 2-3 นาที จนต้องพกพัดเข้าไปในรายการ สุขภาพการนอนแย่มาก เหงื่อแตกตลอด จนสุดท้ายไปหาหมอ ตรวจค่าฮอร์โมนมาคือต่ำกว่าศูนย์ แม่ยังมีมากกว่าเรา ตอนนั้นอายุ 38 โดยประมาณ แล้วมันส่งผลทุกอย่าง มันไปดึงต่อมหมวกไต ไทรอยด์ ดึงทุกอย่าง ทำให้ระบบพังทั้งร่างกาย ก็ทานยา ทานอาหารเสริมอย่างเดียวเลย เราไม่อยากกินยาคุมกินมากไปเดี๋ยวเป็นมะเร็งอีก ก็เลือกทางเลือกเป็นเอ็นไทร์เอจจิ้ง กินมา 6 ปีแล้ว ต่อเนื่องตลอด กินปริมาณเยอะด้วย เรากิน 200 มิลลิกรัมมาตลอด ปรับลดไม่ได้ ลดแล้ววีนแตกเลย”
อายุรังไข่เหมือนคนอายุ 50 กว่า?
“ใช่ หมอบอกว่าไม่เคยเจอ เป็นเคสที่สาม เคสแรกเป็นโรคพุ่มพวง เคสที่สองเป็นคนสูบบุหรี่จัด ส่วนพี่เป็นเคสอะไรก็ไม่รู้ เดาว่าน่าจะทำงานหนักพักผ่อนน้อยมาโดยตลอด”
กลับมาดีขึ้นเมื่อไหร่?
“น่าจะประมาณสักปีสองปี ค่อยๆ ดีขึ้น ตอนนี้ไม่ได้ค่าฮอร์โมนปกตินะ แค่อยู่ในค่าที่พอรับได้ มันจะไม่ร้อนวูบวาบ ไม่ส่งผลต่อกระดูก ผิวพรรณ”
หมดประจำเดือนตั้งแต่อายุ 38?
“ใช่ ตอนนั้นเครียดนะ เรายังคิดอยู่ว่าจะมีลูกมั้ย จะยังไง ตอนนี้ดีใจมากเลย เพราะไม่อยากมีลูกแล้ว ถึงจุดนี้สบายตัวจัง“
014
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี