วอร์เนอร์ บราเธอร์ส พิกเจอร์ส เตรียมเปิดตัว “Mickey 17” ภาพยนตร์ไซไฟ-ดาร์ก คอมเมดี้ ผลงานแหวกแนวล่าสุดของผู้กำกับเจ้าของรางวัลออสการ์ พงจุนโฮ (Parasite) ที่จะพาผู้ชมไปสัมผัสกับการผจญภัยในโลกอนาคต ผ่านมุมมองใหม่ของการเอาตัวรอดในสถานการณ์สุดขีด โดยดัดแปลงจากนวนิยาย Mickey7 ของเอ็ดเวิร์ด แอชตัน
โรเบิร์ต แพททินสัน รับบท มิกกี้ บาร์นส์, ลูกเรือสำรวจอาณานิคมบนดาวเคราะห์ที่เซ็นสัญญารับภารกิจเสี่ยงตาย “ยอมตายเพื่อความอยู่รอด” ทุกครั้งที่เขาตาย เขาจะได้รับการคืนชีพพร้อมความทรงจำเดิม ทว่าหลังจากการคืนชีพครั้งที่ 17 เขาเริ่มสงสัยว่าภารกิจที่เขาทำอยู่เป็นสิ่งที่เขาต้องการจริง ๆ หรือไม่ ร่วมแสดงโดย นาโอมี แอ็คกี้, สตีเวน หยวน, โทนี่ คอลเลต์, และ มาร์ค รัฟฟาโร“Mickey 17” มาพร้อมกับภาพที่ตระการตาและเทคนิคพิเศษที่จะทำให้ผู้ชมต้องตื่นตาตื่นใจกับโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยการผจญภัยและความท้าทายในการเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ที่อันตรายห้ามพลาด! “Mickey 17” เข้าฉาย 6 มีนาคม 2025 ทั้งในระบบ IMAX และระบบปกติในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ
รายงานพิเศษจากกองถ่าย
เรารู้สึกตัวเล็กนิดเดียวขณะเดินเข้ากองถ่าย Mickey 17 หนังที่หลายคนรอคอยของพงจุนโฮ โรงถ่ายลีฟส์เด็นของ Warner Bros. Studios ในฮาร์ตฟอร์ดเชียร์ อังกฤษ ได้รับการดัดแปลงให้เป็นฉากภายในยานอวกาศขนาดมหึมา รอบตัวเราเป็นงานคอลลาจขนาดใหญ่ของฉากที่สร้างขึ้นจริง ซึ่งนำพาเราไปสู่โลกจักรกลที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ไกลโพ้น ที่จริงแล้ว สิ่งเดียวในสถานที่แห่งนี้ที่เราพอจะรู้สึกคุ้นเคยอยู่บ้างก็คือคนนับสิบๆ คนที่กำลังวิ่งวุ่นตกแต่งส่วนเล็กๆ ของฉาก ความใส่ใจในรายละเอียดเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงอย่างยิ่งในที่นี่ ทีมงานและช่างฝีมือแต่ละคนทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อถ่ายทอดแก่นแท้ของเรื่องราวจากฝีมือผู้กำกับมากวิสัยทัศน์ว่าด้วย “มนุษย์ใช้แล้วทิ้ง” ที่มีชื่อว่ามิคกี้ บาร์นส์
พงจุนโฮมีสิ่งที่โรเบิร์ต แพททินสัน ผู้รับบทเป็นมิคกี้ เรียกว่า “ออร่าอันทรงพลัง” เขาไม่ใช่ผู้กำกับประเภทที่จริงจังกับตัวเองมากเกินไป และอากัปกิริยาของเขาในกองถ่ายวันนี้ก็ช่วยยืนยันได้เป็นอย่างดี เขาสวมรองเท้าผ้าใบกับเสื้อยืดสีดำเรียบๆ เดินไปดูงานของฝ่ายนั้นฝ่ายนี้พร้อมล่ามข้างตัวและรอยยิ้มบนใบหน้า ผู้กำกับหลายรายมักจะชอบโอดครวญว่ากระบวนการถ่ายทำนั้นเป็นเรื่องที่เคร่งเครียดและชวนให้วิตกกังวล แต่พงไม่ได้เป็นผู้กำกับประเภทนั้น เขาดูผ่อนคลายอย่างน่าประหลาดเมื่ออยู่กลางกองถ่ายหนังเรื่องล่าสุดของเขา และพูดคุยกับทีมงานและเพื่อนร่วมงานอย่างมีความสุข
“กระบวนการเขียนบทเป็นขั้นตอนที่โดดเดี่ยวและหนักหนาสาหัสเอามากๆ ครับ” พงกล่าวกลั้วหัวเราะ “บางครั้งผมไม่อยากเขียนเลยด้วยซ้ำ แต่ผมรู้เสมอว่าสุดท้ายขั้นตอนนี้จะจบลงภายในหกถึงแปดเดือน ผมก็เลยเผชิญหน้ากับมันไปซึ่งๆ หน้าโดยคิดว่าเดี๋ยวมันก็จบ ผมพยายามอยู่ตามลำพังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะผมมักจะเขียนได้ดีเวลาแยกตัวออกมาตามลำพัง”
ช่วงเวลาของการอยู่โดดเดี่ยวอันน่าเจ็บปวดนั้นช่วยให้มือเขียนบทและผู้กำกับรายนี้ได้บทภาพยนตร์เรื่องใหม่ล่าสุด Mickey 17 ซึ่งดัดแปลงมาจากนวนิยายเมื่อปี 2022 ของเอ็ดเวิร์ด แอชตัน เรื่อง Mickey7
“แนวคิดไซไฟที่เป็นพื้นฐานของนวนิยายเรื่องนี้น่าสนใจมาก แต่ที่ผมประทับใจก็คือความเป็นมนุษย์ในเรื่องนี้” พงกล่าว “มันพูดถึงหัวจิตหัวใจและสัญชาตญาณของคนเรา จากจุดนั้นผมแน่ใจว่าจะสามารถนำเสนอความตลกร้าย อารมณ์ขัน และความรู้สึกที่น่าสนใจอีกมากมาย ผมรู้ว่าถึงมันจะเป็นเรื่องราวไซไฟ แต่ก็จะไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบไซไฟ แต่แสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ที่ธรรมดาสามัญ”
ดูโฮ ชอย ผู้อำนวยการสร้างที่ทำงานกับพงมายาวนาน รู้ลึกถึงวิธีการทำงานของผู้กำกับรายนี้ยิ่งกว่าใครๆ ตลอด 14 ปีที่ทำงานร่วมกันมา Choi ได้ประจักษ์ถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของผู้กำกับที่มี “เรื่องราวสารพัดอยู่ในหัว”
“เขาหลงใหลในประเด็นทางสังคม” ชอยกล่าว “แต่เขามีวิธีเล่าประเด็นเหล่านี้ออกมาให้บันเทิงและตลก เขาชอบพูดว่า ‘เรากำลังเล่าเรื่องราว เราอยากให้ผู้ชมได้สนุกตื่นเต้น ให้ผู้ชมได้หัวเราะ ร้องไห้ และเพลิดเพลินเต็มที่เมื่ออยู่ในโรง แต่ระหว่างที่ผู้ชมกำลังขึ้นรถเมล์หรือนั่งแท็กซี่กลับบ้านหรือกำลังจะนอน พวกเขาก็เริ่มนึกถึงแนวคิดที่แฝงอยู่เบื้องหลังเรื่องราวนั้น’ ผมว่านี่แหละคือหนังที่ดีที่สุด ไม่ใช่แค่หนังป๊อปคอร์นเพื่อความบันเทิงอย่างเดียว แต่เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงพร้อมกับนำเสนอแนวคิดที่ซ่อนเอาไว้ด้วย”
พงได้เข้ามาทำโครงการนี้เมื่อเขาได้รับนวนิยายเรื่อง Mickey7 จากเจเรมี ไคลเนอร์ ซึ่งเป็นประธานบริษัท Plan B ร่วมกับเดเด การ์ดเนอร์ โดยบริษัทผลิตภาพยนตร์ที่ชนะรางวัลออสการ์แห่งนี้เป็นบริษัทของแบรด พิตต์ หลังจากเคยร่วมอำนวยการสร้าง Okja เมื่อปี 2017 พวกเขาก็ได้กลับมาเป็นผู้อำนวยการสร้างอีกครั้งร่วมกับพงและชอย
“ผมคิดว่าสิ่งที่ทำให้พงสนใจโครงการนี้ เช่นเดียวกับในหนังเรื่องอื่นๆ ของเขา” ชอยกล่าว “ก็คือแนวคิดเกี่ยวกับคนตัวเล็กๆ ที่พยายามอยู่รอดในระบบที่กดขี่ เขาสนใจเรื่องราวของคนชนชั้นแรงงานที่แค่พยายามเอาชีวิตรอด”
“เรื่องนี้ตลกมากด้วย” พงแทรกขึ้นมา “มันไม่ใช่หนังมหากาพย์อวกาศเรื่องยิ่งใหญ่ที่มีคนมายิงปืนเลเซอร์ แต่เป็นเรื่องของคนขี้แพ้งี่เง่า เรื่องนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่โง่ทึ่มอย่างน่าเอ็นดู”
ผู้กำกับพงอยากได้โรเบิร์ต แพททินสันมารับบทเป็นตัวละครนำในหนังเรื่องนี้หลังจากสังเกตการเติบโตของเขาในฐานะนักแสดงนำมายาวนาน
“เราทุกคนรู้จักโรเบิร์ตมาตั้งแต่ Harry Potter” พงกล่าว “แต่ผมเริ่มเห็นเขาในอีกมุมของการเป็นนักแสดงจากหนังเรื่อง Good Time ของพี่น้องแซฟดี และการแสดงที่น่าจดจำใน The Lighthouse กับวิลเล็ม เดโฟ เขากลายเป็นนักแสดงอีกระดับจากงานสองเรื่องนั้น เช่นเดียวกับใน The Batman ผมคิดว่า Mickey 17 จะจุดประกายความทะเยอทะยานของเขาในฐานะนักแสดง และเราสามารถมาสนุกร่วมกันและสร้างแรงบันดาลใจให้แก่กันได้”
แพททินสันแต่งตัวเต็มยศและตัดผมทรงกะลาครอบ เขาเล่าถึงความชื่นชมที่เขามีต่อพงเช่นกันเมื่อเราเข้าไปคุยกับเขาขณะบรรยากาศสงบลงในช่วงเตรียมการถ่ายทำ
“ผมคิดว่าทุกวันนี้มีผู้กำกับน้อยคนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับพง” แพททินสันกล่าว “เขาอยู่ในสถานะที่พิเศษ ผมเป็นแฟนตัวยงของเขาและจู่ๆ ก็มีงานนี้เข้ามา 'มีโปรเจ็กต์ของผู้กำกับพงนะ’ จากนั้นผมก็ได้รับบท มันเป็นบทหนังที่บ้าบอที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่ผมเคยอ่านมาเลย เหมือนจะเสี่ยงแต่ในแง่ดีนะครับ ดีมากเลยที่ได้ทำงานนี้กับคนที่เรามั่นใจได้ว่าจะคอยสนับสนุนเรา”
แพททินสันพบว่าตัวเอกในบทของพงมีความซับซ้อนเกินความคาดหมาย
“มิคกี้เป็นตัวละครที่แอบซับซ้อนครับ” แพททินสันอธิบาย “มองเผินๆ เขาก็เหมือนคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่กลับไม่ใช่อย่างนั้น เขามีความปรารถนาที่ค่อนข้างเฉพาะตัว เขาไร้เดียงสาและอ่อนต่อโลกในหลายๆ แง่ เขาเจ็บปวดอย่างรุนแรงและพยายามจัดการกับความรู้สึกบอบช้ำ มันดูงี่เง่าในสายตาคนอื่น แต่ไม่ได้งี่เง่าสำหรับเขา”
ในหนังเรื่องนี้ มาร์ค รัฟฟาโล รับบทเป็นเคนเนธ มาร์แชลล์ อดีตนักการเมืองผู้มุ่งมั่นที่จะนำเหล่าผู้ติดตามไปยังโลกใบใหม่อันบริสุทธิ์ที่มีชื่อว่า นิลฟ์ไฮม์ ซึ่งเป็นภาพฝันของโลกอันสวยหรูในอุดมคติ
“ครั้งแรกที่อ่านบท มันทั้งน่าตื่นเต้นและน่าหวั่นใจที่สุดเลยครับ” รัฟฟาโลยอมรับ “เอาจริงๆ ผมไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะไหม ผมไม่เคยรับบทเป็นตัวละครแบบนี้มาก่อน ตอนไปพบผู้กำกับพง ผมบอกว่า “ผมไม่รู้ว่าผมคือคนที่ใช่สำหรับบทนี้หรือเปล่านะ…’ เขาตอบว่า ‘คุณพูดเรื่องอะไรกัน ผมเขียนบทนี้โดยมีเสียงของคุณอยู่ในหัวเลยนะ’ ผมตะลึงไปเลย...และรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากด้วย”
หนังเรื่องนี้รวบรวมเหล่านักแสดงฝีมือเยี่ยมมากมาย หลายคนเตรียมมาเข้าฉากที่จะถ่ายทำในวันนี้
โทนี คอลเล็ตต์ รับบทเป็นอิลฟา ภรรยาของมาร์แชลล์ ผู้กำกับพงอธิบายว่า “ความสัมพันธ์เฉพาะระหว่างตัวละครคู่นี้เป็นเหมือนเครื่องยนต์เล็กๆ อีกเครื่องหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องราว สตีเวน หยวน รับบทเป็นทิโม อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ หนังเรื่องนี้เป็นหนังไซไฟที่ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบไซไฟเท่าไหร่นัก สตีเวนช่วยเพิ่มแง่มุมของความไม่เป็นไซไฟ เขาทำให้หนังเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ ขณะที่นาโอมิก็ใส่หัวจิตหัวใจลงไป เธอมีพลังที่ล้นเหลือเลยล่ะครับ”
อีกสิ่งที่ช่วยเพิ่มความเป็นเอกลักษณ์ในงานสร้างหนังเรื่องนี้ก็คือช่างฝีมือหลายสิบคนที่ทำงานอย่างแข็งขันหลังกล้อง เพื่อสร้างโลกของผู้กำกับพงให้ออกมาอย่างละเอียดแม่นยำในโลกความเป็นจริง
“บทบาทของผมในโครงการนี้คือการทำให้ทุกอย่างปรากฏหน้ากล้องจริงๆ มากที่สุด” ดอม ทูฮี หัวหน้าฝ่ายวิชวลเอฟเฟ็กต์กล่าว “ผู้กำกับพงต้องการให้ทุกอย่างเป็นของจริง และสำหรับฝ่ายของเรา เรื่องนี้สำคัญที่สุด ตัวผมเองก็คิดว่าเราควรเดินหน้าไปตามแนวทางนั้น”
สำหรับทูฮี ชื่อเสียงของผู้กำกับรายนี้ไม่ใช่แค่การเป็นตำนานในวงการภาพยนตร์ “จะว่าไปทุกคนก็ต้องให้สัมภาษณ์กันอยู่แล้ว” Tuohy กล่าว “และทุกคนก็ต้องพูดว่า ‘ผู้กำกับเรื่องนี้ยอดเยี่ยมไปเลย’ แต่สำหรับผม ผู้กำกับพงคือคนที่เก่งที่สุดเท่าที่ผมเคยทำงานด้วยเลยครับ”
ผู้กำกับพงก็มอบความเคารพนี้กลับคืนไปยังทีมงานด้วยเช่นกัน
“เรามีผู้กำกับภาพที่เก่งมากอย่างดาเรียส คอนจิ” พงกล่าว “เขาเป็นศิลปินอย่างแท้จริงและทำงานร่วมกับผมมาแล้วใน Okja นักออกแบพงานสร้าง ฟิโอนา ครอมบี ซึ่งเพิ่งทำผลงานที่น่าทึ่งกับยอร์กอส ลานธิมอส นักประพันธ์เพลงของเราคือ จุง แจอิล เราทำงานด้วยกันมาเป็นเรื่องที่สามแล้ว และนักออกแบบเครื่องแต่งกายคือ แคทเธอรีน จอร์จ เธอร่วมงานกับผมมานานและผมมีความสุขเสมอที่ได้เห็นเครื่องแต่งกายที่เธอออกแบบครับ”
“หนังเรื่องนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร” ครอมบีกล่าว “และฉันคิดว่าผู้กำกับพงคงไม่ยอมให้มันต่างไปจากนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะต้องทำให้มันออกมาในแบบของเขาเอง มันอยู่ในทุกอณูของความเป็นตัวเขาค่ะ”
ในที่สุดกล้องก็เริ่มเดินเพื่อถ่ายทำฉากที่ทีมงานของพงเตรียมกันมาตลอดทั้งวัน ผู้กำกับพงทำงานตามสตอรีบอร์ดที่ขึ้นชื่อว่าละเอียดลออมาก โดยไม่มีการถ่ายทำนอกเรื่องหรือตามใจตัวเอง มีเฉพาะสิ่งที่จำเป็นต่อการเล่าเรื่องเท่านั้น แต่เมื่อพูดถึงการแสดง เป้าหมายที่เขาตั้งไว้กลับไม่ตายตัวขนาดนั้น
“ผมหมกมุ่นกับสตอรีบอร์ด ผมทำหนังโดยไม่มีสตอรีบอร์ดไม่ได้ครับ” พงกล่าว “แต่ในแง่การแสดง ผมพยายามเปิดกว้างให้มากที่สุด ผมเปิดรับการด้นสดเสมอ อาจฟังดูขัดแย้งกัน เพราะผมตั้งกล้องและวางกรอบภาพตามที่เขียนไว้ในสตอรีบอร์ดเป๊ะๆ แต่ผมบอกให้นักแสดงทำตัวตามสบายและมีอิสระเต็มที่ภายในกรอบการทำงานนั้น อาจเหมือนขัดแย้งกันในตัวเอง แต่นี่แหละครับคือวิธีที่ผมทำงาน”
แนวทางนี้เผยให้เห็นอะไรหลายอย่างในหนังเรื่องนี้และตัวผู้กำกับ อนาคตมักดูคล้ายสถานที่ที่เราไม่คุ้นเคย ในโลกที่การแข่งขันท่องอวกาศกลับฟื้นตัวขึ้นมาใหม่และอยู่ในมือของเอกชนมากขึ้น ปัญญาประดิษฐ์ก้าวล้ำจนชวนให้หวั่นใจ และเราก็ต้องพึ่งพาจักรกลที่เย็นชาไร้ความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ ชีวิตมนุษย์ทุกวันนี้ก็ยิ่งดูเหมือนการอาศัยอยู่ภายในยานอวกาศอันโดดเดี่ยว สิ่งเดียวที่เราคุ้นเคยและเหลือไว้ให้ยึดเกาะได้ในอนาคตก็คือความเป็นมนุษย์ขั้นพื้นฐาน แม้ในห้วงอวกาศอันไกลโพ้น หากยังมีมนุษย์อยู่ เปลวไฟแห่งความรักและความเมตตาก็ยังคงมีโอกาสลุกโชติช่วงท่ามกลางความมืดมิด
“หนังเรื่องนี้เป็นหนังไซไฟ แต่ก็เป็นเรื่องราวตลกที่มีความเป็นมนุษย์สูงมากเช่นกัน” ผู้กำกับพงบอกกับเราขณะที่เขาและทีมงานปิดงานในวันนั้น “ผมหวังว่าผู้ชมจะเพลิดเพลินกับหนังเรื่องนี้อย่างที่มันเป็น และเมื่อกลับบ้านหลังจากดูจบ ผมหวังว่าจะมีชั่วครู่หนึ่งที่ผู้ชมได้คิดว่าอะไรทำให้เราเป็นมนุษย์ และเราต้องทำอะไรเพื่อคงความเป็นมนุษย์เอาไว้
“แค่ชั่วครู่เดียว” เขารีบเสริมพร้อมรอยยิ้มประจำตัว “อาจจะแค่สามนาทีก็พอ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี