11 มีนาคม 2568 กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกโวเชียลเมื่อ ยูทูบของอดีตนักข่าว 'คิมเซอุย' ได้ออกมาเผยแพร่คลิปป้าของนักสาวผู้ล่วงลับ 'คิมแซรน' (Kim Sae Ron) โดยที่เธอได้ออกมาเปิดเผยถึงความสัมพันธ์ในอดีตระหว่างหลานสาวของเธอกับพระเอกซูเปอร์สตาร์เกาหลีใต้อย่าง 'คิมซูฮยอน' (Kim Soo Hyun) ว่าระหว่างหลานสาวของเธอ 'คิมแซรน' และ 'คิมซูฮยอน' เริ่มคบหาดูใจกันในปี 2015 เมื่อคิมแซรน อายุ 15 ปี และคิมซูฮยอนอายุ 27 ปี

ซึ่ง'ป้าคิมแซรน' อ้างว่า ครอบครัวมีหลักฐานมากมายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ 6 ปีของทั้งคู่ ซึ่งพวกเขาตั้งใจจะแบ่งปันเรื่องนี้กับคนทั่วโลก และระบุคำกล่าวอ้างของพวกเขา ที่ได้รับการยืนยันจากพ่อแม่ของคิมแซรน และรวมถึงการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับสมาชิกในครอบครัวของคิมแซรน ที่เข้าร่วมโดยตรงโดยไม่ใช้การปรับเสียง พร้อมเผยว่า คิมแซรน ช่วยคิมซูฮยอนจัดการงานในบริษัท GOLD MEDALIST ที่คิมซูยอนก่อตั้งขึ้นมาเองแบบไม่ได้รับค่าจ้าง อาทิเช่น กำกับนักแสดงหน้าใหม่และสอนการแสดง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กินเวลานาน 6 ปี จนถึงปี 2021 ทั้งสองเลิกกันในปี 2022 เมื่อคิมแซรนเป็นข่าวจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับนั้น

ล่าสุดทางต้นสังกัดของคิมซูฮยอน GOLD MEDALIST ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข่าวดังกล่าวว่า ระบุว่า “สวัสดี นี่คือ GOLD MEDALIST เราขอออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการเกี่ยวกับข้อกล่าวอ้างล่าสุดที่ช่องยูทูบ HoverLab Inc. อ้างเกี่ยวกับนักแสดงคิมซูฮยอน ของเรา

ข้ออ้างที่ HoverLab Inc.กล่าวอ้างในการออกอากาศทางยูทูบเกี่ยวกับ Kim Soo Hyun นั้น เป็นเท็จและไม่มีมูลความจริงอย่างชัดเจน ในการออกอากาศ HoverLab Inc. อ้างว่าบริษัทของเราและคิมซูฮยอนสมคบคิดกับยูทูบเบอร์อีจินโฮ เพื่อคุกคามนักแสดงสาวผู้ล่วงลับคิมแซรน พวกเขายังอ้างว่าคิมซูฮยอนและคิมแซรนผู้ล่วงลับ มีความสัมพันธ์โรแมนติกกันตั้งแต่เธออายุ 15 ปี บริษัทของเราดำเนินการอย่างไม่เหมาะสมหลังจากเหตุการณ์เมาแล้วขับของคิมแซรน และผู้จัดการจากบริษัทของเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับยูทูบเบอร์อีจินโฮ

การกล่าวอ้างที่เป็นอันตรายเหล่านี้ ที่มุ่งเป้าไปที่บริษัทของเราและนักแสดงคิมซูฮยอนนั้นเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง และไม่สามารถยอมรับได้ภายใต้สถานการณ์ใดๆ ขณะนี้เรากำลังพิจารณาการดำเนินคดีทางกฎหมายที่รุนแรงที่สุดต่อ HoverLab Inc. สำหรับการเผยแพร่ข้อมูลเท็จเหล่านี้

บริษัทของเราเสียใจอย่างสุดซึ้งกับการจากไปของคิมแซรน ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทของเรา และเราขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียของเธอ อย่างไรก็ตาม การเผยแพร่ข้อมูลเท็จดังกล่าวโดย HoverLab Inc. สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของ “ผู้ทำลายล้างไซเบอร์” ที่ทำให้นักแสดงสาวผู้ล่วงลับต้องเจ็บปวดอย่างมากในช่วงชีวิตของเธอ การกระทำของพวกเขาซึ่งขับเคลื่อนโดยผลประโยชน์ส่วนตัวเพียงอย่างเดียว ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้กับบริษัทของเราเท่านั้น แต่ยังทำให้เกียรติของผู้ล่วงลับมัวหมองอีกด้วย ดังนั้น เราจะตอบสนองต่อเรื่องนี้ด้วยความจริงจังสูงสุด เราขอร้องอย่างจริงจังว่าอย่าให้มีการเผยแพร่ ขยายความ หรือผลิตซ้ำความเท็จที่ไม่มีมูลความจริงเหล่านี้อีกในทางใด ๆ ขอบคุณ”