Tuck Talk สัปดาห์นี้พบกับ "ดร.นก ชลิดา" อดีตนางสาวไทยปี 2541 ที่เป็นคนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพเป็นอย่างมาก ศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพจนจบปริญญาเอก ปัจจุบันเป็นวิทยากรเรื่องสุขภาพและยังเป็นอาจารย์พิเศษอยู่ที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งมาแชร์ความรู้เรื่องการสร้างไลฟ์สไตล์ให้สวย "ย้อนวัย" เหมือนเป็นอมตะ หยุดฝืนนาฬิกาชีวิต ก่อนพังระบบภายใน เผยสิ่งที่เป็นตัวการแก่ไวแถมกระตุ้นมะเร็ง! อยากคงอายุเซลล์ให้อมตะต้องเลือกกิน 3 ราชาอาหารแห่งความอ่อนเยาว์ มาปรับไลฟ์สไตล์ให้สุขภาพดีแบบยั่งยืน
ไม่ได้เจอกันนานมาก ไม่น่าเชื่อเลยอายุ 50 กว่าแล้ว ยังดูไม่เปลี่ยน ?
ดร.นก : ขอบคุณค่ะ รอบนี้ก็มาแบบอิ่มเอิบขึ้นอีกสักหน่อยจากที่พี่ตั๊กเคยจำได้
เวลาไปเป็นวิทยากรบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องของสุขภาพความงาม ส่วนมากคนจะถามเรื่องอะไรมากที่สุด ?
ดร.นก : ส่วนใหญ่คำถามแรกเลยเขาจะถามว่าคุณนกอายุเท่าไหร่แล้ว พอเขาทราบอายุ ก็จะถามว่าแล้วทำยังไง แล้วส่วนใหญ่สิ่งที่เราบอกไปเขาจะทำไม่ได้ แต่ว่าเรื่องกินจะเป็นเรื่องที่เขารู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้น เพราะว่าเป็นอะไรที่คนทำได้จริงคะ สมมุติว่าไปพูดเรื่องเทรนด์ในตอนนี้นะคะ ซึ่งนกก็กำลังพยายามทำอยู่อย่างเช่น IF การงดอาหาร 16 ชม. ทานแค่ 8 ชม. อะไรอย่างงี้ หรือหัตถการอะไรที่มันแบบไกลไปมาก แต่ว่าเรื่องการกินคนต้องทานอยู่แล้ว เช้า กลางวัน เย็น เราก็แค่แนะนำว่าปรับสิ่งที่รับประทานเข้าไป เพื่อให้มันชะลอไว แต่เดี๋ยวนี้ Reverse Aging แล้วที่มาแรงที่สุดก็คือ Longevity หรือว่าอายุยืนยาวแบบมีคุณภาพไม่ป่วยติดเตียงค่ะ
เรื่องการย้อนวัยชะลอความแก่ Reverse Aging น่าสนใจมากมันคืออะไร ?
ดร.นก : พูดถึงเรื่องของความแก่ สมัยที่เราเติบโตมาก็คิดว่าอายุ 30 เขาก็ยังมีคำว่า 30 ยังแจ๋วแล้ว สักพักก็มี 40 Is the new 30 หมายถึงว่าอายุ 40 แทนที่ 30 ยังแจ๋ว แล้วตอนนี้ 50-60 ก็ยังแข็งแรง ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องทำ ถ้าปล่อยตัวไปตามสายน้ำเรื่อยๆ เราก็จะเป็นอย่างสมัยก่อนที่ว่าแก่แล้วแก่เลยค่ะ แต่ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีมีการศึกษาวิจัยมีนวัตกรรมมากมายแต่เอาตรงๆ เลยนะคะ ในที่สุดแล้วมันคือไลฟ์สไตล์ค่ะ ไลฟ์สไตล์ที่ simple ไลฟ์สไตล์ที่กลับไปสู่ความเป็นธรรมชาติ
เราจะย้อนไวและมีสุขภาพแบบยั่งยืนได้ยังไง ต้องเริ่มยังไงก่อน ?
ดร.นก : เริ่มต้นที่ตระหนักรู้ก่อนว่าเราอยู่ตรงไหน คนที่มาคุยกับนกเรื่องสุขภาพส่วนใหญ่เป็นคนเมืองนะคะ แล้วก็คิดว่าตัวเองทำงาน แต่จริงๆ แล้วไลฟ์สไตล์ของเขาคือ Sedentary หรือว่านั่งกินนอนกิน หมายความว่าทั้งวันประชุมตั้งแต่ 9 เช้ายันกลางคืนแล้วก็แทบจะไม่ได้ลุกเดินไปไหน กินอาหารเร็วๆ หน้าคอมพิวเตอร์ ทำงานอยู่ แต่จริงๆ ร่างกายมันรับรู้นั่งๆ นอนหรือว่าเท่ากันกับการนั่งดูทีวี ซึ่งร่างกายเราต้องขยับ แล้วอย่ามีข้ออ้างเยอะคือถ้าอยู่ในตึกออฟฟิศเป็นทาวน์มันมีอยู่ 3 ชั้นก็เดินขึ้นลง อย่าแบบว่านั่งอยู่กับที่อย่างเดียว แล้วหวังว่าจะให้สุขภาพดีมันเป็นไปได้ยากมาก อย่างเราตื่นมาตอนเช้ามีแสงตะวันขึ้น
ร่างกายเราเห็นแสงตะวันก็ตื่นตัวพร้อมไปทำงาน แล้วพอกลางคืนตะวันตกดินฮอร์โมนที่ออกมาช่วยให้เราหลับก็เมลาโทนิน ทุกอย่างถ้าเราเคารพนาฬิกาชีวิต ว่าเวลาไหนควรทำอะไร เวลาพักก็พัก ไม่ใช่นั่งเล่นมือถือ นั่งเล่นเกมอยู่ ผิดหมดเลย แล้วยังไงก็ตามการนอน ให้หลับแล้ว 4 ทุ่ม – ตี 2 มันสำคัญเสมอที่จะให้ร่างกายหลั่งสารฮอร์โมนต่างๆ ให้เราคงความอ่อนเยาว์ แต่สิ่งที่จะทำได้คือไม่เล่นมือถือหลัง 2 ทุ่มไปแล้ว อันนี้จะช่วยได้มากนะคะเพราะว่าหลายคนมีปัญหานี้มาถามเยอะมากว่า แบบจะนอนแล้วบางทีก็นอนไม่หลับ บางทีมันไม่ใช่วัยทองหรือฮอร์โมนอะไรเลยนะ
คืออย่างที่นกแบ่งปันไปว่าเวลาตะวันตกดินแสงสลัวๆ ฮอร์โมนเมลาทินก็หลั่งออกมา แต่พอเราเล่นมือถือปุ๊บแสงจากมือถือกระแทกตาร่างกายนึกว่าพระอาทิตย์ขึ้น แทนที่มันจะค่อยๆหลับ มันก็ไม่หลับสิ แล้วพอไม่หลับติดกันหลายๆ คืนก็โทรมสิคะ มันก็เลยจำเป็นที่จะต้องเลิกงานแล้วเคลียร์อะไรทุกอย่าง อาบน้ำ 3 ทุ่ม ก็พยายามนิ่งๆ ไม่ต้องไปดูอะไร อ่านหนังสือเบาๆ เล่นกับสัตว์เลี้ยงอะไรที่มันเบาๆ ไม่ตื่นเต้น มันจะได้หลับ ไม่งั้นพอมันตื่นเต้นหรือว่าแสงวาบแสงสีฟ้าใส่ตาเราก็ตื่นเต้นแล้วก็ไม่หลับสิคะ
แล้วเรื่องอาหาร ?
ดร.นก : อยากจะแนะนำว่าให้ทานเน้นพืชเป็นหลัก คนจะได้ยินคำว่า plant-based แล้วขอว่าเป็น plant-based whole food ก็คือเป็นพืชที่มาตามลักษณะของมันที่เด็ดออกจากต้น ไม่ใช่พืชที่เอาไปแปรรูปทอดกรอบ หรืออบกรอบ อันนั้นไม่ใช่ เราจะต้องคิดว่ากินเพื่ออะไร จะกินเพื่อให้สมองไม่เสื่อม กินเพื่อให้เราคงความสวยของผิวพรรณ แต่ถ้าเรายังยังดื่มสุราแอลกอฮอล์ เที่ยวหัวราน้ำ ไม่หลับไม่นอน มันจะไปสวยได้ยังไง ร่างกายมันไม่มีเวลาฟื้นฟู คือมันตั้งใจที่จะนอนเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมตัวเอง ตอนอายุน้อยๆทำได้แต่พอเลยเลข 3 เลข 4 ทำแบบนั้นไม่ได้
อาหารกลุ่มไหนที่มันจะทำให้ร่างกายของเราอักเสบ ?
ดร.นก : อาหารที่เรียกว่า Sad คะ ย่อมาจาก Standard American Diet คนตะวันตก คนอเมริกันน่าสงสารมากนะเพราะว่าเขากินอาหารแบบด่วน พิซซ่า เค้ก คุกกี้ เบเกอรี่ อาหารแปรรูปทั้งหมด คิดง่ายๆ เลยว่าถ้าอาหารที่มันอยู่บนชั้นวางของได้นานหลายๆ เดือนเป็นปีเรากินแล้วอายุสั้นหมดเลย แต่อะไรที่ค่อยๆ สลายไปตามธรรมชาติอันนั้นกินแล้วจะอายุยืน
นิสัยการกินที่ไม่ดีก็ทำให้เกิดอาการอักเสบ ถ้าแรงๆ อาจจะก่อให้เกิดมะเร็งได้ไหม ?
ดร.นก : ได้ค่ะ โรคอ้วนไขมันในเลือดสูง ดื้ออินซูลิน ก็คือเป็นเบาหวาน อัลไซเมอร์ เป็นได้หมด แล้วนอกเหนือจากอาหาร ไลฟ์สไตล์ที่อดนอน ไลฟ์สไตล์ที่สูบบุหรี่ โดยเฉพาะ Secondhand smokers หรือว่าไปสูดควันที่เขาสูบบุหรี่ไว้ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าอะไรทุกอย่างทุกสิ่งเลย แล้วโดยเฉพาะ PM 2.5 ทำให้อักเสบมาก การที่เราโดนแดดเยอะๆ แดดแรงๆ ก็ทำให้เราอักเสบ แสงแดดยังเป็นตัวทำร้าย NAD สารที่หนุ่มสาวของเราด้วย ซึ่งมีอยู่ในอาหารที่เรากินนะคะ พอคนเราอายุมากขึ้น NAD ลดลง ก็จะสังเกตว่าสมองเริ่มเฉื่อยช้า นอนไม่หลับ มันก็เป็นส่วนหนึ่งกับวัย ความแก่ความเสื่อม แต่เดี๋ยวนี้ด้วยวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องชะลอไว ย้อนวัย Reverse aging อะไรก็ตาม มันมีการสอนทั้งปรับไลฟ์สไตล์ ว่าอย่าโดนแดดเยอะพักผ่อนให้พอ ต้องออกกำลังกาย แล้วก็กินอาหารที่เป็น NAD booster อย่างเช่น กุ้ง บร็อคโคลี่ แตงกวา ซึ่งจะมีสารตั้งตนที่เป็น MNM ซึ่งเป็น NAD booster ที่เป็นตัวช่วยพยุงไม่ให้ NAD มันตกลงไป
NAD คืออะไร แล้วมันมีผลยังไง ?
ดร.นก : NAD ถ้าเปรียบได้ก็เหมือนเชื้อเพลิงของเซลล์ค่ะ แล้วเชื้อเพลิงของเซลล์อันนี้มีส่วนสำคัญ เพราะมันทำให้สมองตื่นตัว ความจำดี นอนหลับเป็นปกติแบบมีชีวิตชีวา ยิ่งตอนเด็กๆ อายุน้อย NAD เยอะ แต่ว่าพออายุมากขึ้นแล้วก็ไลฟ์สไตล์บางอย่าง อย่างเช่น โดนแดดเยอะที่ทำลายสุขภาพโดยรวม ก็ทำให้ลดลง
สามารถติดตาม "Tuck Talk" ได้ที่ช่องทาง Podcast : Life Dot , Facebook: Life Dot , Youtube : Life Dot วันพฤหัสบดี (สัปดาห์เว้นสัปดาห์) เวลา 18.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี