ฮิปฮอปแถวหน้าของกัมพูชา VannDa เปิดตัวผลงานชุดที่ 2 ของมินิอัลบั้มไตรภาคของเขา TREYVISAI (ภาษาเขมรแปลว่า “เข็มทิศ”)  เมื่อวันที่ 21 มีนาคม!TREYVISAI II: Burn Like the Sun จะพาคุณดำดิ่งสู่ความโกลาหล , ความขัดแย้ง และความปั่นป่วน  เพื่อสำรวจช่วงเวลาที่มืดมิดที่สุดก่อนการเปลี่ยนแปลง มินิอัลบั้มชุดนี้มีทั้งเพลงที่พร้อมปลุกอารมณ์ผู้คน , เพลงแร็ปที่ดุดันและเพลงอกหักชวนซาบซึ้ง ซึ่งถ่ายทอดทุกสิ่งที่แฟนๆ ชื่นชอบเกี่ยวกับ VannDa อัลบั้มนี้ยังดึงซุปตาร์ชาวลาว Thinlamphone (ถิ่นลำพูน)  มาร่วมงานในเพลง "Lovesick Blue" ซึ่งกลายเป็นเพลงโปรดของแฟนๆ ทันทีที่เปิดตัว

สำหรับเพลงหลัก “NO DISRESPECT” VannDa นำความดิบเถื่อนและพลังงานอันเต็มเปี่ยมของเขามาผสานรวมระหว่างเพลงแร็ป , เมทัล และดนตรีอันบ้าคลั่งที่ตั้งใจให้เข้ากับการแสดงระดับสนามกีฬาและพื้นที่ที่แฟนเพลงสามารถเต้นใส่กันได้ไม่ยั้ง เพลงนี้ยังขับเคลื่อนด้วยจังหวะที่ไม่หยุดนิ่งไปพร้อมกับโปรดักชันอันน่าตื่นตาตื่นใจซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขา นี่คือการแสดงถึงความเชี่ยวชาญในการจัดการกับความวุ่นวายที่สามารถควบคุมได้ – ความดุดัน , การแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา , ความกล้าหาญโดยไม่นึกเสียใจ เป็นอีกครั้งที่ VannDa ก้าวข้ามขอบเขตด้านดนตรีของตัวเอง พร้อมส่งมอบเพลงฮิตเปี่ยมพลังที่จะส่งผลต่อจิตใจและร่างกายอย่างรุนแรง

“ผมรักเพลงนี้ และการกลับไปสัมผัสพลังแห่งความโกรธเกรี้ยวในตัวเอง มันเป็นพลังที่คล้ายกับ ‘You’re Already Dead’ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเพลงโปรดที่ผมสร้างสรรค์ขึ้นมา ปีนี้ผมพุ่งเป้าไปที่การขยายขอบเขตด้านดนตรีของผมให้ไปสู่การแสดงระดับสนามกีฬาและคอนเสิร์ตยักษ์ใหญ่ การเดินทางไปร่วมงานเทศกาลดนตรีระดับโลกและได้เห็นการแสดงของตัวเองเข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก กลายเป็นแรงบันดาลใจ ผมอยากมอบงานเพลงที่ทำให้แฟนๆ สัมผัสถึงช่วงเวลาแห่งความยิ่งใหญ่ และมันส์สุดเหวี่ยงได้มากขึ้น” - VannDa กล่าวถึงเพลง “NO DISRESPECT”

งานเพลงไตรภาคนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ด้วย TREYVISAI I: The Search for Light  ที่นำเสนอเพลงแนวเฟล็กซ์พลังงานสูงอย่าง "Out of My Mind", "Me, My Flow, and I" และ "Fishing" ซึ่งกลายเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมจากแฟนๆ  ในระหว่างงานเลี้ยงสร้างประสบการณ์ฟังเพลงสุดพิเศษซึ่งจัดขึ้นที่กรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 24 และ 25 มกราคมที่ผ่านมา เพลงหลักอย่าง “Smoke Up” ที่ฟิเจอริ่งกับศิลปินแร็ปแถวหน้าของไทย YOUNGOHM นับเป็นความร่วมมือกันอย่างลงตัวของสองศิลปินตัวพ่อผู้ขับเคลื่อนวงการเพลงฮิปฮอปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพลงนี้ยังผสมผสานรูปแบบเฉพาะตัวของทั้งคู่เข้าไว้ในการทำเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ของ VannDa ซึ่งช่วยตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำแห่งวงการเพลงแรปของภูมิภาคนี้ได้เป็นอย่างดี ชมมิวสิกวิดีโอได้ที่นี่

บทสรุปของงานเพลงไตรภาค TREYVISAI III: The Return to Sovannaphum ที่เตรียมปล่อยออกมาในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้  แสดงถึงการหวนคืนสู่เอกลักษณ์และจุดมุ่งหมายของ VannDa ด้วยการผสานอดีตและอนาคตของเขาผ่านการแสดงออกด้านศิลปะอันทรงพลัง บทสุดท้ายนี้ต่อยอดจากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของเพลงฮิตระดับโลก "Time to Rise" ขณะเดียวกันก็ขยายขอบเขตของการผสมผสานระหว่างดนตรีเขมรและความเป็นฮิปฮอป VannDa ได้สร้างแคปซูลกาลเวลาแห่งเสียง ด้วยการทักถอดนตรีดั้งเดิมของกัมพูชาเข้ากับอิทธิพลสมัยใหม่  ซึ่งไม่เพียงเคารพต่อมรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังช่วยให้มันเติบโตและก้าวไปในเส้นทางใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครไปถึงอีกด้วย

STREAM TREYVISAI II: Burn Like the Sun ได้ที่นี่

รับชม “NO DISRESPECT” OFFICIAL MUSIC VIDEO ได้ที่นี่

TREYVISAI II: Burn Like the Sun Tracklist

1. BURN

2. NO DISRESPECT

3. DANGEROUS

4. BROKEN COMPASS

5. LOVE SICK BLUE (FEAT. THINLAMPHONE)

6. ZERD ZERD (FEAT. NORITH)

7. A SONG FOR YOU

เกี่ยวกับ VannDa

VannDa ก้าวขึ้นมาเป็นที่จับตาในวงการเพลงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แบบก้าวกระโดด ศิลปินแร็ปดาวรุ่งชาวกัมพูชาซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 4.75 ล้านคนบน YouTube อีกทั้งเพลงฮิต "Time to Rise เมื่อปี 2021 ที่ฟิเจอริ่งกับ Master Kong Nay ก็มียอดชมมากกว่า 129 ล้านวิว  ล้วนตอกย้ำความเป็นผู้นำในวงการฮิปฮอปกัมพูชาของเขาได้เป็นอย่างดี

นอกเหนือจากการแร็ปแล้ว ความสามารถอันหลากหลายของ VannDa ยังสะท้อนผ่านผลงานฮิตอย่าง "Sangkran Magic" และ "BONG" ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามทั้งในกัมพูชา และนอกบ้านเกิด การร่วมงานล่าสุดของเขากับ Awich ในเพลง "Asian State of Mind" ร่วมกับ KR$NA , Masiwei (หม่าซื่อเว่ย) และ Jay Park) สะท้อนถึงการเติบโตในระดับสากลของเขาได้อย่างชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้น VannDa ยังสร้างประวัติศาสตร์เป็นศิลปินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนแรกที่ได้แสดงในพิธีปิดการแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงปารีสในปี 2024 อีกด้วย

ด้วยผลงานไตรภาคของ TREYVISAI ที่เตรียมปล่อยออกมาในปี 2025 VannDa ยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้ทรงอิทธิพลในระดับโลกของเขาได้เป็นอย่างดี