31 มีนาคม 2568  ออกมาแถลงการณ์ครั้งแรกสำหรับพระเอกค่าแพงตัวอันดับ1 ในเกาหลีใต้ 'คิมซูฮยอน' พร้อมด้วยทนายความ'คิมจองบก' หลังจากเกิดประเด็นดราม่าฉาวสนั่นสำหรับความสัมพันธ์ระหว่าง 'คิมซูฮยอน' และ นักแสดงสาวผู้ล่วงลับ 'คิมแซรน' โดยพระเอกดังจัดงานแถลงข่าว ณ โรงแรมสแตนฟอร์ด ในเขตมาโป กรุงโซล ซึ่งจะไม่มีช่วงถาม-ตอบกับนักข่าวแต่อย่างใด 

โดยคำแรกที่เขาเอ่ยออกมาคือคำว่า  สวัสดีครับ ผมคิมซูฮยอน พร้อมเอ่ยปาก "ขอโทษ" เป็นครั้งแรก พร้อมทั้งมีการแถลงการณ์พร้อมน้ำตา โดยระบุว่า "ผมขอโทษ เพราะผมเอง ผมคิดว่าหลาย ๆ คนต้องทนทุกข์ทรมาน และผมก็รู้สึกเสียใจที่นักแสดงผู้ล่วงลับ (คิมแซรน) ไม่สามารถพักผ่อนได้อย่างสงบ"

"ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด ผมมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่ผมมีมาตลอด ผมไม่สามารถไว้วางใจแม้แต่ความปรารถนาดีที่เข้ามาหาผม กลัวการสูญเสีย อันตราย และการวิ่งหนี ปฏิเสธทุกสิ่ง นั่นคือเหตุผลที่ผมใช้เวลานานมากในการมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้"

"ผมเลยคิดว่าจะเป็นยังไง ถ้าผมพูดทุกอย่างออกไป ถ้าผมพูดแบบนั้น แฟน ๆ และบริษัทของผมที่ทุ่มเทอย่างมากเพื่อให้การแถลงข่าวครั้งนี้ประสบความสำเร็จก็คงจะได้รับผลกระทบน้อยลง ทุกครั้งที่มีการเปิดเผยชีวิตส่วนตัวอะไรบางอย่างเกี่ยวกับผมและคิมแซรน ผมก็จะคิดกับตัวเองว่า เอาล่ะ ควรเปิดเผยเรื่องทั้งหมดผมคิดอยู่ตลอดเวลาว่า จะพูดตรง ๆ และยุติสถานการณ์ที่เหมือนอยู่ในนรกนี้กันเถอะ ผมลังเลทุกครั้ง เพราะคิดว่าการตัดสินใจของผมจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นอย่างไร การตัดสินใจของผมจะทำให้ทุกคนรวมถึงตัวผมเองเดือดร้อนหรือเปล่ามันเป็นสถานการณ์เดียวกันตอนที่ (คิมแซรน) โพสต์รูปของเธอและผมตอนที่ละครเรื่อง Queen of Tears ออกอากาศ (2020) ผมคบกับเธอประมาณ 1 ปี ประมาณ 4 ปี ก่อนที่ละครจะออกอากาศ"

แต่ตอนนั้น ผมปฏิเสธความสัมพันธ์ของเรา ผมเข้าใจดีว่าการวิจารณ์ทางเลือกของผมเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ผมเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อสิ่งที่ผมพูดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับคิมแซรน แต่เนื่องจากผมมีโอกาสอธิบายเรื่องนี้เพียงครั้งเดียว ผมจึงอยากขอบคุณมากหากคุณจะรับฟังสิ่งที่ผมจะพูด จากนั้นพระเอกชื่อดัง 'คิมซูฮยอน' ได้ยืนขึ้นเพื่อโค้งคำนับขอโทษ

หลังจากที่ผมเป็นนักแสดง ผมก็ได้รับความรักมากมาย ผมเป็นคนธรรมดา ๆ ที่ไม่ได้มีอะไรมากมายตั้งแต่แรก แต่ผมกลายเป็นคนๆ หนึ่งที่มีอะไรมากมายให้ปกป้อง เมื่อใดก็ตามที่มีสถานการณ์และต้องเลือกระหว่างคิมซูฮยอนในฐานะมนุษย์ และคิมซูฮยอนในฐานะคนดัง ผมคิดว่า ผมจะเลือกโดยคำนึงถึงความคนดังเสมอ ตอนที่ Queen of Tears ออกฉาย ผมต้องปกป้องตัวเองในฐานะนักแสดงนำมากมาย จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าผมยอมรับว่าคบหาดูใจกันมาเป็นเวลานานหนึ่งปี จะเกิดอะไรขึ้นกับนักแสดง ทีมงานที่ทำงานข้ามคืน และทีมงานฝ่ายผลิตที่ทุ่มสุดตัวเพื่อโปรเจ็กต์นี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับพนักงานของเอเจนซี่ของเรา

ผมจะตัดสินใจแบบนั้นเพื่อความสบายใจของตัวเองได้จริงเหรอ ยิ่งผมคิดเรื่องนี้ ผมก็ยิ่งคิดว่าไม่ควรทำแบบนั้น (ซึ่งคิมซูฮยอนร้องไห้อย่างต่อเนื่องในการแถลงการณ์) ผมคิดว่านั่นเป็นความรับผิดชอบของผมในฐานะคนที่ใช้ชีวิตแบบคิมซูฮยอน ผมยินดีรับคำวิจารณ์ใด ๆ ที่บอกว่าผมเห็นแก่ตัวและขี้ขลาด (คิมซูฮยอนลุกขึ้นและขอโทษอีกครั้ง จากนั้นจึงนั่งลงอีกครั้ง)

ผมมีเรื่องกังวลมากมาย แม้กระทั่งตอนนี้ ผมวิตกกังวล คำพูดของผมจะสะท้อนกลับมาที่ผมอย่างไร แต่เนื่องจากผมเป็นคนแบบนั้น ผมจึงคิดว่าผมควรจะพูดมันออกไป มีคนมาแนะนำผมว่า "ปล่อยให้มันเป็นไปเถอะ ยอมรับมันซะถ้าคุณเต็มใจที่จะรับความเสี่ยง เมื่อนั้นคุณก็จะหมดความสนใจ และหลังจากนั้นคุณก็เตรียมตัวสำหรับการกลับมาอีกครั้ง" ถ้าผมฟัง สถานการณ์ที่ชีวิตส่วนตัวของนักแสดงผู้ล่วงลับและตัวผมเองถูกเปิดเผยก็คงไม่เกิดขึ้น

ผมจะไม่ต้องถูกข่มขู่ทุกวันเกี่ยวกับการอัพโหลดรูปภาพบางรูปในวันพรุ่งนี้และเปิดเผยบางสิ่งบางอย่าง และจะไม่มีสถานการณ์ที่คิมแซรนถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจากการถูกเปิดเผยชีวิตส่วนตัวของเธอผ่านรูปภาพ แต่ผมไม่สามารถปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นได้ ผมไม่สามารถยอมรับการบังคับให้รับสิ่งที่ปลอมเป็นความจริงได้

นอกจากนี้ 'คิมซูฮยอน' ปฏิเสธข่าวคบหาดูใจกับ 'คิมแซรน' เมื่อครั้งที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ โดยระบุว่า "ผมไม่เคยเดทกับคิมแซรนตอนที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ แม้ว่าเราทั้งคู่จะเป็นนักแสดง แต่ความสัมพันธ์ของเราก็เหมือนกับคู่รักธรรมดาทั่วไป 

นอกจากนั้น เขายังยืนยันว่า ในส่วนของเอกสารเร่งรัดจากต้นสังกัดให้ คิมแซรน ชำระเงินนั้น เขาไม่เคยทราบเรื่องจนกระทั่งเป็นข่าว พร้อมกับยืนยันว่า คบหากับ 'คิมแซรน' แค่เพียง 1 ปี โดยแชทที่ครอบครัวเอาเปิดเผย รวมถึงคลิปเสียงนั้นล้วนเป็นข้อมูลเท็จ โดยอ้างว่าทางฝั่งเขาก็ได้มีการตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ( ไม่ได้แสดงหลักฐานการตรวจพิสูจน์ ) ยืนยันว่าแชทที่ครอบครัว 'คิมแซรน' นำมาเปิดเผยนั้นเป็นคนอื่นที่แชทกับ 'คิมแซรน' ในช่วงปี 2016 - 2018 ไม่ใช่การแชทกับเขาอย่างแน่นอน

'คิมซูฮยอน' มีความกังวลว่าครอบครัวของ 'คิมแซรน' จะแบล็คเมล์เขา ซึ่งเขาเองไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เพราะเขาเองมีครอบครัวที่ต้องดูแลเช่นกัน โดยทนายความของ คิมซูฮยอน จะจัดการฟ้องกลับ โดยเรียกค่าเสียหายจากครอบครัว คิมแซรน 12,000 ล้านวอน ( ประมาณ 277 ล้านบาท ) การแถลงข่าวครั้งนี้ไม่มีการตอบคำถามใดๆ เมื่อเสร็จสิ้นบทพูดที่ตนเองได้เตรียมมา เจ้าตัวก็โค้งเพื่อเป็นการลาและร้องไห้เดินออกจากงานแถลงข่าวทันที