มีโอกาสได้คุยกับ “ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม” นายกฤษศญพงศ์ ศิริ เรียกว่าท่านเปิดโอกาสให้จับเข่าคุยกันได้ เหมือนเพื่อนพี่น้อง
ซึ่งยากมากที่ข้าราชการระดับ “ออกญา” จะมาพูดจาหาความกับคนระดับชาวบ้าน และงานที่หารือกันนั้น เป็นงานที่ใครที่ดำรงตำแหน่งนี้ควรทำนานแล้ว
นั่นคือการ “เปิดเกมรุกทางวัฒนธรรม” ไม่ใช่ตั้งรับ รอให้คนอื่นทำแล้วยินดีด้วย..!!
แต่นั่นแหละ “แค่ยินดี” ก็ถือว่า ทุกคนมีความปรีดาปราโมช อย่างหาที่เปรียบมิได้อยู่แล้ว เนื่องจากว่า ผลที่ต่อเนื่องจาก “กระแส” ด้วยการโดดลงมาของบรรดา “ออกญา” ทั้งหลายนั้น
มันเตือนสติคนไทยทุกระดับให้คำนึงถึงความเป็นไทย อย่างที่นิรุตติ์ ศิริจรรยา ได้บอกว่า
“คนไทยต้องไม่อายที่จะเปิดตัวตนของเราเอง ว่าเป็นคนไทย”
“หนิง” นิรุตติ์ ผู้แสดงเป็น “ออกญาโหราธิบดี” หรือ “โหรหลวง” ของ สมเด็จพระนารายณ์ แนะนำให้คนไทย ควรแต่งตัวแสดงออกถึงความเป็นไทย จะทำในทุกโอกาส ที่ขึ้นอยู่กับสถานที่ ที่เราเข้าไป
“บุพเพสันนิวาส” อาจเป็นเพียง 1 ในละคร ที่บังเอิญคนไปถูกใจในการแสดงของนางเอก หรือ เนื้อหาประวัติศาสตร์ที่น่าตื่นตา ตื่นใจ
ในฉากที่ปรากฏออกมา
แล้วถ้าจะรวบรวม “ผลประโยชน์” ที่ผลิดอกออกให้เห็น นั่นเป็นเรื่องทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ที่ควรสานต่อ ...
ไม่ใช่ละคร จบแล้ว ก็จบกิจกรรมไปเลย อย่างที่ ท่านนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านเคยติงไว้
การแต่งกายของคนไทยในวาระสำคัญ...!!
อาหารไทย ที่เห็นในละคร ควรถูกรื้อฟื้น ออกมาอย่างมีคุณภาพ....
ให้ต่างชาติ เช่าชุดแต่งในสถานที่ ที่อันควร เช่น บริเวณวัด หรือพระราชวังก็ได้..
มวยไทย ที่มาฮิตติดตลาดโลก อย่างถูกจังหวะ ด้วยภาพของ พระบิดาแห่งมวยไทย คือ พระสรรเพชญ์ที่ 8 หรือ “พระเจ้าเสือ” หรือในตำแหน่ง “ขุนหลวงสรศักดิ์” ที่เป็น “ไม้เบื่อไม้เมากับ“เจ้าพระยาวิชาเยนทร์”
ท่าของแม่ไม้มวยไทย ที่อาจจะมีให้เห็นเป็นบางส่วน ซึ่งเชื่อว่า ถ้าจะต้องมีต่อไป จนเมื่อ “เจ้าพระยาวิชาเยนทร์” ถูกล่อลวงออกมาฆ่านั้น
ก็ด้วยฝีมือของกลุ่มคนไทย ที่เป็นนักมวยไทย และจงเกลียดจงชังต่างชาติคนนี้แหละ!!
ด้วยภาพที่ปรากฏออกมา “ช่อ ชัยพฤกษ์” จึงอยากให้คนดูแยกแยะด้วยว่า มวยไทย อันเป็นศิลปะการต่อสู้ ที่ “กรมส่งเสริมวัฒนธรรม” ประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของไทย เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2553 นั้น
เป็นการฝึกเพื่อป้องกันประเทศชาติ และถ้าจะมองให้ลึกต้องนึกถึงว่า พระมหากษัตริย์ของไทย หรือข้าราชการระดับสูง จะได้รับการสนับสนุนให้เป็นนักรบ และมีความรู้เรื่อง “มวยไทย”
ส่วนคนระดับชาวบ้าน จะฝึกได้ จากความสนใจของตัวเอง และเป็นได้อย่างมากคือ เรียกว่า “ทนายเลือก” หรือ “ผู้รักษาความปลอดภัย” ให้พระมหากษัตริย์ กับข้าราชการชั้นสูงเท่านั้น
เรื่องของ มวยไทย มีการฝึกอย่างไร และเร็วๆ นี้ คงต้องมีการชำระความกันอย่างหนัก เมื่อมีนักธุรกิจ ไปสร้าง “มวยไทย” อย่างไร้ความสำนึกใน “ศิลปวัฒนธรรม”
และเรื่องที่เป็นผลพลอยได้จากความสำเร็จของละครเรื่อง “บุพเพสันนิวาส” อาจมองเห็นที่ชัดเจนคือ
“แม่การะเกด” เบลล่า-ราณี มีค่าตัวจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์มากที่สุด รวมถึงดาราคนอื่น ที่แม้แต่ “โป๊ป” ธนวรรธน์ เองยังยอมรับว่า แต่ก่อนนั้น มีชื่อเป็นตัวแถมในงานอีเว้นท์ ยังไม่มีใครเอา
ส่วนคนแต่งเรื่อง “รอมแพง” หรือ จันทร์ยวีร์ สมปรีดา ที่เคยใช้ชื่อ “เกศิณี” นั้น ก็สมใจในเนื้อหาที่แต่งออกมา โดยน่าจะเป็นพลอตจากชีวิตจริง
สิ่งที่มีคนอยากรู้อีกนั่นคือ ค่าแต่งนิยายเรื่อง “พรหมลิขิต” จะแพงสมชื่อผู้แต่งไหม และต้องขอร้อง ผู้เขียนบทมือทอง “ศัลยา สุขนิวัตติ์” ด้วยว่า
อย่าเขียนนานถึง 2 ปี เหมือนตอนแรก เพราะอาจจะทำให้คนดู “ลงแดง”ได้
สุดท้าย “ช่อ ชัยพฤกษ์” ฝากไปถึง คนไทย ที่คิดทำธุรกิจมวยไทย “อย่าทำลายศิลปะของไทย”
ด้วยการส่งขยะออกขาย อย่างที่กำลังทำกันขณะนี้เลย...!!
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี