การเสด็จเยือนไทยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและนครรัฐวาติกันที่ย้อนไปมากกว่า 350 ปีแล้ว วันนี้เราจะไปทำความรู้จักนครรัฐวาติกัน และความสัมพันธ์กับไทยให้มากขึ้น
นครรัฐวาติกัน หรือ Stateof the Vatican City เป็นรัฐเอกราชที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี มีสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเป็นประมุข การบริหารแผ่นดินดำเนินการโดยสำนักเลขาธิการแห่งรัฐ นครรัฐวาติกัน มีพื้นที่เพียง 0.438 ตร.กม.และมีประชากรเพียง 1,000 คนเท่านั้น ภาษาราชการคือภาษาอิตาเลียนและละติน
ตั้งแต่ปี 2503 นครรัฐวาติกันได้รับการจารึกให้เป็นดินแดนที่จะต้องได้รับการปกป้องรักษาไว้เป็นพิเศษในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งทางอาวุธ เพราะเป็นแหล่งวัฒนธรรมของโลก นอกจากนี้ นครรัฐวาติกันยังให้ความสำคัญกับปัญหาสันติภาพ การลดอาวุธ และความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมถึงปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน และประเด็นด้านมนุษยธรรม อาทิ การค้ามนุษย์และการขจัดความยากจน เป็นต้น
ขณะที่ไทยและนครรัฐวาติกันได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันอย่างเป็นทางการในปี 2512 แต่ความสัมพันธ์ระหว่างนั้น เริ่มตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เพราะในปี พ.ศ. 2205 สมเด็จพระสันตะปาปา Alexander ที่ 7 ได้จัดส่งคณะมิชชันนารีชุดแรกเดินทางมายังกรุงศรีอยุธยา นับเป็นคณะผู้ก่อตั้งคริสตศาสนาในไทยเป็นคณะแรก
ปัจจุบัน นครรัฐวาติกันถือว่ามีเครือข่ายการทูตที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับ 183 รัฐทั่วโลก และสำหรับไทย นครรัฐวาติกันมีสถานเอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำประเทศไทย โดยครอบคลุมดูแลกัมพูชา เมียนมา และสปป.ลาวด้วย
ไทยมีผู้นับถือศาสนาคาทอลิกประมาณสามแสนคน และพระมหากษัตริย์ของไทยหลายพระองค์ได้เสด็จเยือนนครรัฐวาติกันมาแล้ว ขณะที่สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2 เสด็จเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกในปี 2527 โดยระหว่างการเยือนพระองค์ได้เสด็จเยี่ยมค่ายผู้อพยพชาวอินโดจีนที่พนัสนิคม และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ช่วยเหลือแก่ผู้อพยพเหล่านั้น อีกทั้งยังทรงบริจาคเงินสดช่วยเหลือผู้ลี้ภัยอินโดจีน
นอกจากนี้ในช่วงที่ไทยประสบภัยพิบัติสึนามิทางภาคใต้ ศาสนจักรคาทอลิกได้ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยของไทยเป็นเงิน 3.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 92ล้านบาทอีกด้วย
จึงถือเป็นโอกาสอันดี ที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก และพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันจะเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 20-23 พ.ย. นี้ ตามคำเชิญของรัฐบาลไทยและสภาประมุขบาทหลวงโรมันคาทอลิกแห่งประเทศไทย ถือเป็นการเยือนประเทศไทยเป็นครั้งแรกในสมณสมัยของพระองค์ และนับเป็นการเสด็จเยือนประเทศไทยของสมเด็จพระสันตะปาปา ครั้งที่ 2ต่อจากการเสด็จเยือนของสมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอล ที่ 2
ซึ่งจุดประสงค์ของการมาเยือนของโป๊ปฟรานซิสคือ เพื่อจาริกสันติภาพ และฉลองครบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-วาติกัน ที่สำคัญ ยังจะทรงร่วมยินดีในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของในหลวงรัชกาลที่ 10 อีกด้วย
@koopnot01
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี