วอชิงตัน/เมย์ฟีลด์ (เอพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ อนุมัติรัฐเคนตักกี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภัยพิบัติจากทอร์นาโด ย้ำรัฐบาลกลางพร้อมช่วยเหลือทุกรัฐที่เสียหายหนักจากทอร์นาโด ที่คาดว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 ศพ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐเคนตักกี ที่อยู่ทางตอนกลางของประเทศ แล้วให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และสำนักงานจัดการภาวะฉุกเฉินส่วนกลาง หรือฟีมา เป็นหน่วยงานหลักในการส่งมอบความช่วยเหลือ
จากส่วนกลาง เข้าสู่พื้นที่ประสบภัยธรรมชาติ ที่เป็นผลจากเฮอริเคน ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ และคร่าชีวิตประชาชนในรัฐเคนตักกีมากกว่า 70 ศพ ผู้นำสหรัฐยืนยันการเตรียมลงพื้นที่รัฐเคนตักกี เพื่อสำรวจความเสียหาย ให้กำลังเจ้าหน้าที่ และ
ปลอบขวัญประชาช
นอกจากนี้ ไบเดนกล่าวถึงสถานการณ์ในอีกหลายรัฐใกล้เคียงกับรัฐเคนตักกี ซึ่งได้รับความเสียหายจากทอร์นาโดเช่นกัน ยืนยันว่า รัฐบาลกลางไม่ทอดทิ้ง โดยมีการประสานงานกับผู้ว่าการรัฐทุกรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อมอบความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามผู้นำสหรัฐกล่าวถึงการเกิดทอร์นาโดหลายลูกในภูมิภาคมิดเวสต์ครั้งนี้ด้วยว่า ยิ่งตอกย้ำความแปรปรวนของภาวะโลกร้อน เนื่องจากโดยปกติแล้ว พายุหมุนลักษณะนี้จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ไม่ใช่ช่วงกลางฤดูหนาวแบบนี้
สำหรับการเกิดทอร์นาโดครั้งนี้เรียกได้ว่า รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของอเมริกา เพราะมีพายุทอร์นาโด 36 ลูกพัดถล่มสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างในรัฐเคนตักกี อาร์คันซอ อิลลินอยส์ มิสซูรี มิสซิสซิปปี และเทนเนนซีช่วงคืนวันศุกร์ถึงเช้าวันเสาร์โดยรัฐเคนตักกีได้รับความเสียหายหนักที่สุดจากพายุทอร์นาโด 4 ลูก และศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติกำลังตรวจสอบว่ามีทอร์นาโดอย่างน้อย 1 ลูกพัดผ่าน 4 รัฐรวมถึงเคนตักกีเป็นระยะทาง 365 กิโลเมตรอยู่นานหลายชั่วโมง ถือเป็นพายุทอร์นาโดที่เกิดขึ้นนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ และเป็นทอร์นาโดลูกแรกที่พัดปกคลุมถึง 4 รัฐ ส่งผลกระทบต่อบ้านเรือนกว่า 250,000 หลังคาเรือน
แอนดี้ บีเชียร์ ผู้ว่าการรัฐเคนตักกี เปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากพายุมากกว่า 70 ศพ และอาจเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่า 100 ศพ พายุสร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ แต่เคราะห์ดีมีคนงานเกือบ 40 คนได้รับความช่วยเหลืออย่างปลอดภัยจากโรงงานผลิตเทียนในเมืองเมย์ฟีลด์ ที่พังถล่มย่อยยับขณะมีคนงานทำงานราว 110 คนนับเป็นปาฏิหาริย์ที่พบผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง ตอนนี้ ทางการรัฐเคนตักกีเรียกร้องให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน และร่วมบริจาคเลือด ขณะที่หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตและติดตามประชาชนในพื้นที่ที่ระบบการสื่อสารถูกตัดขาด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี