9 ก.พ.65 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เส้นทางขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนระหว่างสหรัฐฯ กับแคนาดาที่คับคั่งที่สุดยังคงถูกปิด หลังม็อบรถบรรทุกชาวแคนาดานำรถมาปิดกั้นเส้นทางสัญจรตั้งแต่วันจันทร์ เพื่อประท้วงมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ของรัฐบาลแคนาดา หลายฝ่ายหวั่นกระทบการค้าชายแดน และอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐฯ
กลุ่มคนขับรถบรรทุกแคนาดาจำนวนหนึ่งปิดกั้นการจราจรบนสะพานแอมบาสซาเดอร์ ซึ่งเชื่อมระหว่างเมืองวินด์เซอร์ รัฐออนแทรีโอของแคนาดา และเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกนของสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ ทำให้เส้นทางสัญจรทางบกข้ามพรมแดนของสองประเทศที่มีการจราจรคับคั่งที่สุดหยุดชะงักต่อเนื่องจนถึงเมื่อวันอังคาร โดยฝั่งขาเข้าแคนาดายังถูกปิด แต่ฝั่งขาออกไปสหรัฐฯ กลับมาสัญจรได้แล้วในเช้าวันอังคาร นายมาร์โก เมนดิชิโน รัฐมนตรีกระทรวงความปลอดภัยสาธารณะของแคนาดา เผยว่าทางการแคนาดาจะเร่งแก้ไขปัญหานี้เพื่อให้ห่วงโซ่อุปทานเคลื่อนผ่านสะพานดังกล่าวได้ ทั้งนี้ แคนาดามีอัตราส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐสูงถึงร้อยละ 75 และมีรถบรรทุกวิ่งผ่านสะพานแอมบาสเดอร์ราววันละ 8,000 คัน
ขณะที่นักการเมืองแคนาดาหลายคน กังวลว่า การปิดสะพานแอมบาสซาเดอร์จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศ โดยมูลค่าการค้าชายแดนผ่านสะพานสายนี้คิดเป็น 25% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ โดยมีมูลค่าเกือบ 500 ล้านดอลลาร์แคนาดาต่อวัน และแม้การขนส่งชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์และสินค้าอื่นๆ ไปสหรัฐฯ ยังคงทำได้แต่ก็ล่าช้า เพราะรถบรรทุกเลือกเดินทางไปข้ามแดนที่สะพานอีกแห่ง ซึ่งทำให้เสียเวลาเดินทางเพิ่มขึ้นอีก 5 ชั่วโมง และอุตสาหกรรมยานยนต์ในรัฐมิชิแกนกังวลด้วยว่า การขนส่งที่ล่าช้านี้อาจทำให้การผลิตหยุดชะงักเพราะโรงงานมีชิ้นส่วนอะไหล่เหลือไม่มากนักสืบเนื่องจากปัญหาห่วงโซ่อุปทานก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะเดียวกัน รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจกรุงออตตาวาของแคนาดา เผยว่า ตำรวจได้สกัดรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันไม่ให้เดินทางไปเข้าร่วมปิดกั้นเส้นทางสัญจรดังกล่าว ทั้งยังระบุว่า ขบวนรถบรรทุกที่ปักหลักประท้วงมาตรการคุมโควิดร้อยละ 25 จากทั้งหมด 418 คันในย่านใจกลางกรุงออตตาวามีเด็กเล็กอยู่ในรถ ซึ่งทำให้ตำรวจรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับสวัสดิภาพของเด็กที่อาจได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาว การบีบแตรเสียงดัง การสูดควันพิษที่มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และปัญหาด้านสุขลักษณะ
ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกเมื่อวันจันทร์หลังต้องกักตัวเพราะติดเชื้อโควิดมาเป็นเวลากว่าสัปดาห์ โดยระบุว่า คนขับรถบรรทุกต้องหยุดการประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคโควิดของรัฐบาล และเน้นย้ำในวันอังคารว่า รัฐบาลแคนาดาจะใช้แนวทางควบคุมโรคตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ผู้ประท้วงยืนยันจะไม่ออกจากพื้นที่จนกว่ารัฐบาลจะยกเลิกมาตรการบังคับฉีดวัคซีน และข้อจำกัดอื่น ๆ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี