เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 เว็บไซต์ นสพ.Daily Mail ของอังกฤษ เสนอรายงานเพิเศษ The REAL Fight Club: Amateur fighters strip off their shirts to fight beside shipping crates in underground movement based on Brad Pitt movie that is now a huge success in Bangkok ว่าด้วย “ไฟท์คลับไทยแลนด์” เวทีที่เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่ไม่ใช่นักสู้หรือนักกีฬามืออาชีพ ได้มาต่อสู้กันในเชิงหมัดมวย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเมื่อหลายปีก่อน อย่าง “ไฟท์คลับ ดิบดวลดิบ (Fight Club)” ซึ่งนำแสดงโดย แบรด พิตต์ (Brad Pitt) และ เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน (Edward Norton) 2 ดาราหนุ่มชื่อดัง
รายงานเปิดเรื่องด้วยประโยคติดหูจากภาพยนตร์ “กฎข้อแรกของไฟท์คลับ คือห้ามพูดถึงไฟท์คลับ (the first rule of Fight Club is you do not talk about Fight Club.)” แต่ที่กรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทย การบอกเล่าแบบปากต่อปาก ทำให้เวทีการต่อสู้ที่อยู่ใต้ดินแห่งนี้ เป็นกิจกรรมที่ให้ความรู้สึกยิ่งใหญ่งานหนึ่งของเมือง โดยงานครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่บริเวณใกล้กับท่าเรือคลองเตย ฉากหลังมีตู้คอนเทนเนอร์วางอยู่โดยรอบ ผู้คนจำนวนมากล้อมวงดูนักสู้มือสมัครเล่น 2 คนกำกำลังสาดหมัดและแข้งใส่กันอย่างดุเพือด ภายใต้แสงที่ส่องจากโคมไฟถนน
กติกาอนุญาตให้ใช้วิชาการต่อสู้ที่หลากหลาย แต่ก็มีข้อห้ามบางประการที่แตกต่างไปจากภาพยนตร์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงเกิดการบาดเจ็บรุนแรง นักสู้ที่เพิ่งลงจากสังเวียนไป ได้รับการสำรวจอาการบาดเจ็บและรอยฟกช้ำ รวมถึงปฐมพยาบาลโดยบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่ง Surathat Sakulchue หนุ่มวัย 23 ปี เจ้าของร้านขายของชำ หนึ่งในผู้สมัครเข้าร่วมเวทีนี้ กล่าวว่า มันแตกต่างจากการต่อสู้แบบเดิมๆ ที่คุ้นชิน บรรยากาศการต่อสู้ที่มีตู้คอนเทนเนอร์อยู่รายรอบนั้นมันดูน่าตื่นเต้นและสนุก ขณะที่อีกมุมหนึ่ง
Chana Worasart ชายวัย 30 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งไฟท์คลับไทยแลนด์ มาตั้งแต่ปี 2559 กล่าวว่า ผู้มาร่วมกิจกรรมที่นี่ไม่จำเป็นต้องเคยฝึกฝนวิชาการต่อสู้ ขอแค่มีใจเท่านั้น โดยสาเหตุที่ริเริ่มกิจกรรมนี้ขึ้น นอกจากจะได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์แล้ว ยังต้องการเปิดโอกาสให้มือสมัครเล่นได้ทดสอบฝืมือ รวมถึงเป็นพื้นที่ปลดปล่อยอารมณ์ก้าวร้าว ส่วนเหตุผลที่กิจกรรมนี้ได้รับความนิยม น่าจะมาจากผู้เข้าร่วมเป็นคนจากหลากหลายอาชีพ อีกทั้งรูปแบบการต่อสู้ยังต่างจากเวทีของนักกีฬามืออาชีพ
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ในภาพยนตร์นั้นห้ามผู้เข้าร่วมไฟท์คลับพูดถึงเรื่องนี้กับคนภายนอก แต่ที่ไฟท์คลับไทยแลนด์ ภายใต้คำขวัญ “สังเวียนที่จะเปลี่ยนความรุนแรงให้กลายเป็นมิตรภาพ (the ring that will change violence into friendship)” มีเกลุ่มเฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการซึ่งมีสมาชิกมากถึง 73,000 คน และแม้จะเป็นเวทีการต่อสู้ แต่กติกากลับเป็นการให้เวลาต่อสู้กัน 3 นาที เพียง 1 ยก และไม่มีการตัดสินผลแพ้-ชนะ ในการต่อสู้นั้นห้ามใช้ศอก จับล็อก ทุ่มหรือเหวี่ยงคู่ต่อสู้ลงพื้น และชกเข้าที่ด้านหลังศีรษะ
อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมให้ผู้คนได้มาต่อสู้กัน ในรายการไฟท์คลับไทยเลนด์ ยังเป็นที่น่าสงสัยในประเด็นข้อกฎหมาย ด้านหนึ่งพวกเขาถูกเตือนตั้งแต่ปี 2559 ที่เริ่มต้นกิจกรรม ว่าอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยกีฬามวย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 600 เหรียญสหรัฐ แต่อีกด้านหนึ่ง แม้การจัดงานในบางครั้งจะปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ด้วย แต่กิจกรรมก็ยังเดินต่อไป ส่วนผู้จัดงานก็โต้แย้งว่า กิจกรรมของพวกตนไม่เข้าข่ายตามกฎหมายกีฬามวย จึงไม่สามารถนำกฎหมายดังกล่าวมาใช้ได้
Chana กล่าวว่า ปัจจุบันไฟท์คลับไทยแลนด์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมาคม จากการไปจดทะเบียนกับทางกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ตนไม่คัดค้านแนวคิดที่จะเปลี่ยนสิ่งนี้ให้เป็นการต่อสู้ที่ถูกกฎหมาย แต่ในเวลาเดียวกัน เราไม่สามารถสูญเสียตัวตนความเป็นใต้ดินไป ซึ่งวันนี้มาไกลจากจุดเริ่มต้นอย่างกระท่อนกระแท่น ในยุคที่ยังไม่มีกฎกติกาชัดเจน แต่ปัจจุบันมีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการต่อสู้ ขั้นตอนการคัดกรอง การประกันความเสี่ยง ไปจนถึงอุปกรณ์ป้องกันและทีมปฐมพยาบาลประจำ ณ สถานที่จัดงาน นอกจากนี้ นักสู้ไม่จำเป็นต้องสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง หากดูแล้วมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเหนื่อยล้าหรือบาดเจ็บจนน่าจะไม่สามารถสู้ต่อไปได้ ทีมงานจะยุติการชกทันที
รายงานข่าวทิ้งท้ายด้วย อิลยา ออสตรัสเชนโก (Ilya Ostroushchenko) หนุ่มรัสเซียวัย 22 ปี ซึ่งมีชื่อเล่นภาษาไทยว่า “สมชาย (Somchai)” หนึ่งในผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรม นักสู้สมัครเล่นผู้นี้เตะเข้าที่ลำตัวคู่ต่อสู้ ตามด้วยการรัวหมัดเป็นชุด ก่อนปิดฉากด้วยฮุคซ้ายเข้าที่ใบหน้าจนคู่ต่อสู้ล้มลงไปกองกับพื้นที่เป็นแผ่นยาง ผู้ชมโห่ร้องให้กับนักสู้จากต่างแดน หลังการชก เขายอมรับว่าก่อนตัดสินใจขึ้นสังเวียนก็รู้สึกกังวลไม่น้อย
“มือผมสั่น เขาผมก็สั่น แต่เมื่อออกไปกลางวง ผมก็รู้สึดดี” ออสตรัสเชนโก กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี