จาการ์ตา (เอพี/รอยเตอร์ส) - กัมพูชา ซึ่งเป็นประธานในปีนี้ของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน กล่าวว่าอาเซียนยังคงยึดมั่นในแผนสันติภาพที่ได้ตกลงไว้กับผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา แม้ว่าจะมีบางประเทศแสดงความกังวลที่ยังไม่สามารถเริ่มเดินหน้าแผนดังกล่าวที่อาเซียนมีฉันทามติเมื่อ 18 เดือนก่อนได้
กัมพูชา ที่เป็นประธานอาเซียนกล่าวในแถลงการณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่กรุงจาการ์ตาประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 27 ต.ค. ว่า ที่ประชุมเห็นพ้องต้องกันว่า อาเซียนควรมีความมุ่งมั่นมากกว่าเดิมในการหาทางออกอย่างสันติในเมียนมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมกับระบุว่า สถานการณ์ในเมียนมายังคงวิกฤตและเปราะบาง ขณะที่นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนแสดงความกังวลและผิดหวังที่ไม่มีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญในการริเริ่มแผนสันติภาพฉบับฉันทามติ จะต้องหยุดการกระทำรุนแรงในทันที และคำขอนี้จะต้องส่งไปยังกองทัพเมียนมาในทันที
รัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนจัดการประชุมวาระพิเศษที่กรุงจาการ์ตา เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพเมียนมาที่ชะงักงันโดยที่ไม่มีตัวแทนจากเมียนมาเข้าร่วมในการประชุมด้วย โดยจนถึงขณะนี้ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาแทบไม่ได้ดำเนินการใดๆ ตามพันธกรณีที่เรียกว่า “ฉันทามติ 5 ข้อ” ที่อาเซียนได้ตกลงไว้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้สมาชิกอาเซียนบางประเทศรู้สึกผิดหวัง โดยแผนสันติภาพดังกล่าว ครอบคลุมถึงการหยุดการใช้ความรุนแรงในทันทีและเริ่มการเจรจาเพื่อนำไปสู่ข้อตกสันติภาพ รวมถึงการยอมให้ผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนอำนวยความสะดวกเป็นคนกลางในการเจรจาและเปิดทางให้อาเซียนส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปให้เมียนมา
การประชุมครั้งนี้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ในเมียนมาที่ส่อเค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังเหตุการณ์โจมตีทางอากาศในรัฐคะฉิ่น เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเครื่องบินของกองทัพเมียนมาได้ทิ้งระเบิด 4 ลูกลงที่งานคอนเสิร์ตเพื่อฉลองครบ 62 ปี การก่อตั้งจัดโดยกองกำลังอิสรภาพคะฉิ่น หรือเคไอเอ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตมีทั้งชาวบ้าน นักร้องนักดนตรี และเจ้าหน้าที่ของเคไอเอเสียชีวิตรวมแล้วกว่า 60 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 คน หลังเกิดเหตุ กลุ่มไคไอเอ รวมถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ แถลงว่า การโจมตีเป็นเข้าข่ายก่ออาชญากรรมสงคราม แต่รัฐบาลทหารได้แถลงโต้ว่า มีอำนาจชอบธรรมในการรักษาความมั่นคงและอ้างว่าเป็นการโจมตีกองกำลังติดอาวุธ
นอกจากนี้ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ยังเกิดเหตุนองเลือดในเมียนมาหลายครั้ง รวมถึงเหตุระเบิดในเรือนจำอินเส่ง เรือนจำที่ใหญ่ที่สุดในเมียนมาในนครย่างกุ้ง ทำให้มี
ผู้เสียชีวิต 8 ศพ เหตุความรุนแรงในเมียนมาที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง ทำให้กัมพูชา ซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนอาเซียนในปีนี้ ออกมาแสดงความรู้สึกวิตกกังวลอย่างยิ่ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายระงับและยุติการต่อสู้ในทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี