เควิน แมคคาร์ธี ส.ส. พรรครีพับลิกัน พ่ายแพ้ไม่ได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในการลงมติ 3 รอบรวด เมื่อคืนวันอังคารตามเวลาประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 100 ปีพรรคเสียงข้างมากในสภาล่างสหรัฐฯ ไม่เลือกประธานรัฐสภาในการลงคะแนนเสียงครั้งแรกของตัวเอง
4 ม.ค.66 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งพรรครีพับลิกันได้ครองเสียงข้างมากแบบฉิวเฉียด 222 ต่อ 212 หลังชนะการเลือกตั้งกลางเทอมไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เปิดประชุมนัดแรกเมื่อคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เพื่อลงมติเลือกประธานรัฐสภาคนใหม่ ต่อจาก แนนซี เพโลซี
แต่ผลปรากฎว่า ที่ประชุมยังไม่สามารถลงคะแนนเลือกประธานรัฐสภาได้ โดยนายเควิน แม็คคาร์ธี วัย 57 ปี ส.ส. พรรครีพับลิกันจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกัน ยังได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ หรือรวบรวมเสียงได้ครบ 218 เสียง แม้จะมีการลงคะแนนกันไปแล้วถึง 3 รอบก็ตาม โดยเขาได้คะแนนเพียง 203 เสียง ใน 2 รอบแรก เนื่องจากมี ส.ส.รีพับลิกัน 19 คนออกเสียงคัดค้าน ส่วนในรอบที่ 3 คะแนนของเขาตกลงมาอยู่ที่ 202 เสียง เนื่องจากมี ส.ส.รีพับลิกันคัดค้านเพิ่มอีก 1 คน คะแนนของแมคคาร์ธีพ่ายแพ้แม้กระทั่ง ส.ส. ฮาคีม เจฟฟรีส์ ผู้นำเสียงข้างน้อยพรรคเดโมแครตในสภาล่าง ที่ได้คะแนนสนับสนุนจากส.ส. เดโมแครต 212 เสียงในการลงคะแนนรอบที่ 3
ส่วนการลงคะแนนในรอบต่อไปคาดว่าจะมีขึ้นในวันนี้หรืออาจจะหลังจากนี้ หากการลงมติรอบ 4 ยังไม่ได้ประธานสภาผู้แทนฯ คนใหม่ ก็จะลงมติไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีใครได้รับเสียงสนับสนุนจาก ส.ส. ครบ 218 คน หรือเกินครึ่งของจำนวนส.ส. ทั้งหมด 435 คน ทำให้ขณะนี้สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ กลายเป็นอัมพาต และทำให้ต้องพิจารณาตัวเลือกอื่นในพรรครีพับลิกันนอกเหนือจากแมคคาร์ธีย์
สื่อท้องถิ่นของสหรัฐฯ รายงานว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปีของการเมืองสหรัฐฯ ที่ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรได้รับเสียงสนับสนุนไม่เพียงพอ โดยครั้งสุดท้ายที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ล้มเหลวในการเลือกตัวประธานรัฐสภาในการเลือกรอบแรก เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 1923 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรครีพับลิกัน ส่วนสาเหตุแมคคาร์ธีย์ ไม่ได้คะแนนเสียงเพียงพอเป็นเพราะสส.รีพับบลิกันสายอนุรักษ์นิยมจัด ไม่ลงคะแนนให้เขา
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า แมคคาร์ธีย์ ไม่ได้สร้างมิตรกับทุกกลุ่มการเมืองในพรรคมากพอและยังมีศัตรูในพรรคมาก นอกจากนี้ เขายังถูกมองว่า เป็นนักการเมืองกระแสหลักมากเกินไป ไม่ได้มีอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมมากพอ และยัง ไม่มีจุดยืนที่แข็งกร้าวมากพอต่อพรรคเดโมแครต ในสมัยที่เพโลซี ยังคุมสภาล่างอยู่ โดยเฉพาะในนโยบายสำคัญอย่างเช่นการใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐบาล ด้านกลาโหม และด้านความมั่นคงพรมแดน
สำหรับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ นั้น มีความสำคัญอย่างมากในการเมืองสหรัฐฯ เพราะเนื่องจากประธานสภาผู้แทนฯ คือผู้มีสิทธิ์จะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในกรณีที่หากทั้งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี