28 เมษายน 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เปิดผลประกอบการของไตรมาสแรก ระบุว่า มีผลกำไรจากการดำเนินงาน ลดลงเหลือ 640,000 ล้านวอน (478.6  ล้านดอลลาร์) ในไตรมาสแรกของปี 2566 ซึ่งลดลง 95% จากช่วงเดียวกันของปี 2565 และเป็นยอดกำไรประจำไตรมาสที่ต่ำที่สุดในรอบ 14 ปี ส่วนรายได้สุทธิอยู่ที่ 1.57 ล้านล้านวอน ลดลง 86.1% จากเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว และยอดขายลดลง 18% เหลือ 63.7 ล้านล้านวอน นอกจากนี้แผนกผลิตชิป ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ใหญ่ที่สุด มียอดขาดทุน 4.58 ล้านล้านวอน ซึ่งเป็นการขาดทุนครั้งแรกในรอบ 14 ปี โดยชิปในคลังสินค้าเพิ่มขึ้นสวนทางกับความต้องการที่ลดลง

ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เปิดเผยว่า ธุรกิจชิปจะมุ่งเน้นการผลิตป้อนเซิร์ฟเวอร์ที่มีขนาดความจำระดับสูง และอุกรณ์เคลื่อนที่ เนื่องจากคาดว่า ตลาดจะค่อยๆ ฟื้นตัว และความต้องการทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ไตรมาสปัจจุบัน ซัมซุงคาดหวังว่า ความต้องการชิปหน่วยความจำจะฟื้นตัวอย่างจำกัด เนื่องจากบริษัทศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ลงทุนด้านเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น เดือนนี้ซัมซุงเพิ่งประกาศลดการผลิตชิป เช่นเดียวกับผู้ผลิตรายอื่น ๆ ท่ามกลางความต้องการลดลงทั่วโลก หลังจากราคาชิปร่วงลงเกือบ 70% ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่า ตลาดชิปทั่วโลกจะหดตัว 6% จากปีที่แล้วเหลือ 563,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ และเตือนว่า สถานการณ์จะยังยากลำบากต่อเนื่องตลอดปีนี้ ซัมซุง คาดว่า ตลาดสมาร์ทโฟนจะสามารถเพิ่มยอดจัดส่งสินค้าเมื่อเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว