ปารีส (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - เหตุประท้วงในฝรั่งเศสเรื่องตำรวจยิงวัยรุ่นเสียชีวิตได้ยืดเยื้อเข้าสู่คืนที่ 3 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น มีการเผายวดยาน ทำลายอาคาร และมีผู้ถูกจับกุมหลายร้อยคนทั่วประเทศ ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง เรียกประชุมคณะรัฐมนตรีรับมือวิกฤต
เจรัลด์ ดาร์มาแนง รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส ทวีตผ่านทวิตเตอร์วันที่30 มิ.ย. ว่า เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมามีคนถูกจับกุมทั่วประเทศอย่างน้อย 667 คน เนื่องจากผู้ก่อจลาจลปะทะกับตำรวจในหลายเมือง ร้านค้าและธนาคารถูกวางเพลิง รถโดยสารถูกพลิกคว่ำ ทางการได้ส่งตำรวจ 40,000 นาย ออกไปดูแลความเรียบร้อยเมื่อคืนวันพฤหัสบดีหวังไม่ให้เกิดเหตุจลาจลเป็นคืนที่ 3 ติดต่อกัน แต่ยังคงเกิดเหตุรุนแรงในหลายเมือง รวมทั้งในกรุงปารีส และย่านนองแตร์ ที่เป็นย่านชานเมืองชนชั้นทำงานที่นายนาเฮล เอ็ม วัย 17 ปี เชื้อสายแอลจีเรียและโมร็อกโก ถูกยิงเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวใน 3 เมืองรอบกรุงปารีส ห้ามการชุมนุมในเมืองลีลล์และเมืองตูร์กวง ทางตอนเหนือของประเทศ โดยมีการส่งเฮลิคอปเตอร์และอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนออกลาดตระเวนตรวจตรา
การประท้วงเมื่อคืนวันพฤหัสบดีเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเดินขบวนในวันเดียวกันเพื่อรำลึกถึงเหยื่อกระสุน ที่ถูกตำรวจยิงระยะเผาขนขณะเรียกให้จอดรถเพื่อตรวจตราเมื่อวันอังคาร การเดินขบวนจบลงด้วยการที่ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตา เนื่องจากมีการเผายวดยานหลายคันในย่านนองแตร์ ชานเมืองฝั่งตะวันตกของกรุงปารีส ซึ่งเป็นย่านที่นาเฮลอาศัยอยู่และถูกสังหาร ทางการกรุงปารีสสั่งงดบริการเดินรถโดยสารและรถรางหลังเวลา 21.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย แต่ไม่สามารถหยุดยั้งไม่ให้เกิดเหตุไม่สงบเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งทวีความรุนแรงในช่วงเที่ยงคืน ส่วนที่เมืองมาร์กเซย์ ตำรวจปราบจลาจลยิงแก๊สน้ำตาสลายกลุ่มคน 100-150 คนที่พยายามตั้งสิ่งกีดขวาง
เคลมองต์ โบน รัฐมนตรีคมนาคมฝรั่งเศสแจ้งว่า บริการขนส่งมวลชนในกรุงปารีสจะได้รับผลกระทบอย่างหนักในวันศุกร์ และไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะต้องปิดให้บริการเร็วกว่าปกติ เนื่องจากมีรถโดยสารถูกวางเพลิงและทำลายเสียหาย 12 คัน ที่อู่รถในเมืองทางตอนเหนือของกรุงปารีส
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงว่า ประธานาธิบดีได้เรียกประชุมในเวลา 11.00 น.วันศุกร์ตามเวลามาตรฐานสากล ทำให้ต้องลดระยะเวลาการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปหรืออียูที่กรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม แต่จนถึงขณะนี้ประธานาธิบดีมาครงเห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ขณะเดียวกัน มารดาของนาเฮลให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรกตั้งแต่เกิดเหตุว่า เธอไม่โทษสำนักงานตำรวจ แต่โทษคนคนเดียวที่คร่าชีวิตบุตรชายของเธอ ตำรวจวัย 38 ปีนายนี้เห็นวัยรุ่นหน้าตาเป็นชาวอาหรับแล้วก็อยากฆ่าทิ้ง ตำรวจนายนี้ถูกควบคุมตัวและตั้งข้อหาทำให้คนตายโดยเจตนาเมื่อวันพฤหัสบดี คลิปที่มีการเผยแพร่เห็นตำรวจ 2 นายยืนข้างรถจอดคันหนึ่งที่จอดอยู่ ตำรวจนายหนึ่งจ่อปืนไปที่คนขับรถ และมีเสียงในคลิปว่า กระสุนกำลังจะเจาะหัวแก จากนั้นตำรวจนายนั้นพยายามยิงตามหลังรถที่ขับหนีไปกะทันหัน คลิปดังกล่าวจุดกระแสประท้วงทันที เนื่องจากขัดแย้งกับที่ตำรวจให้การว่า คนขับพยายามขับรถชนตำรวจ
เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้หลายฝ่ายนึกถึงเหตุจลาจลปี 2548 ที่เกิดขึ้นนาน 3 สัปดาห์ระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม-16 พฤศจิกายน ประธานาธิบดีฌากส์ ชีรัก ในเวลานั้นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ต้นเหตุเกิดจากตำรวจไล่จับกลุ่มวัยรุ่นที่บุกเข้าไปในสถานที่ก่อสร้าง วัยรุ่น 3 คนเข้าไปหลบในสถานีไฟฟ้าย่อย และถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิต 2 ศพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี