อนามัยโลกประกาศแล้ว‘แอสปาร์แตม’สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เป็นไปได้ว่าอาจเป็นสารก่อมะเร็ง
วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 CITY A.M. หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในกรุงลอนดอนของอังกฤษ เสนอข่าว Artificial sweetener aspartame used in drinks like Diet Coke is ‘possible’ cause of cancer – WHO ระบุว่า สถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติ (IARC) ซึ่งทำงานภายใต้องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้ “แอสปาร์แตม (Aspartame)” สารให้ความหวานทดแทนน้ำตาล ที่ถูกใช้ในน้ำอัดลม ไอศกรีมและหมากฝรั่ง “มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งในมนุษย์ (Possible)” อย่างไรก็ตาม คณะผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสารให้ความหวานทดแทนน้ำตาลมีความปลอดภัยในปริมาณที่จำกัด ตามรายงานฉบับล่าสุดที่ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2566
การประกาศว่าแอสปาร์แตมมีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง ยังถือว่าอยู่ในระดับ 3 โดยยังมีอีก 2 ระดับที่จัดว่ามีความเสี่ยงสูงกว่า คือ “อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งในมนุษย์ (Probably)” อยู่ในระดับ 2 และ “เป็นสาเหตุของมะเร็งในมนุษย์ (Carcinogenic)” อยู่ในระดับ 1 อันเป็นระดับความเสี่ยงสูงสุด ทั้งนี้ การศึกษาเพิ่มเติมโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญร่วมด้านวัตถุเจือปนอาหารขององค์การอาหารและการเกษตร ยังคงคำแนะนำว่าปลอดภัยสำหรับคนที่จะดื่ม 0-40 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมของน้ำหนักตัวในแต่ละวัน
องค์การอนามัยโลก ยกตัวอย่างผู้ที่มีน้ำหนัก 70 กก. จะต้องบริโภคน้ำอัดลมสำหรับลดน้ำหนักประมาณ 9-14 กระป๋องต่อวัน หรือมากกว่านั้นเพื่อให้เกินเกณฑ์ของแนวปฏิบัติ ทั้งนี้ ฟรานเชสโก บรังกา (Francesco Branca) ผู้อำนวยการแผนกโภชนาการและความปลอดภัยด้านอาหารขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า มะเร็งเป็นหนึ่งในสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของโลก โดยการเสียชีวิตต่อปีอยู่ที่ 1 ใน 6 คน ซึ่งวิทยาศาสตร์กำลังขยายขอบเขตอย่างต่อเนื่องเพื่อประเมินปัจจัยเริ่มต้นที่เป็นไปได้หรือเอื้อต่อการเกิดมะเร็ง โดยหวังว่าจะลดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต
การประเมินแอสปาร์แตมระบุว่า แม้ว่าความปลอดภัยจะไม่ใช่ประเด็นหลักในขนาดที่ใช้กันทั่วไป แต่ก็มีการอธิบายถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นซึ่งจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบโดยการศึกษาที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ไม่ได้แนะนำให้หยุดบริโภคแอสปาร์แตมโดยสิ้นเชิง เพียงแต่แนะนำการกลั่นกรองเล็กน้อย โดยแอสปาร์แตมนั้นใช้กันอย่างแพร่หลายในฐานะสารให้ความหวานเทียมตั้งแต่ทศวรรษ 1980 (ปี 2523-2532) ในเครื่องดื่มลดน้ำหนัก หมากฝรั่ง เจลาติน ไอศกรีม ผลิตภัณฑ์นม เช่น โยเกิร์ต ซีเรียลอาหารเช้า ยาสีฟัน และยา เช่น ยาแก้ไอและวิตามินแบบเคี้ยว
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า การศึกษาทั้งสองอ้างถึงหลักฐานที่จำกัด และเรียกร้องให้มีการวิจัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยทั้งองค์การอนามัยโลก และสถาบันวิจัยมะเร็งนานาชาติ จะยังคงติดตามหลักฐานและสนับสนุนกลุ่มวิจัยอิสระ ขณะที่ แฮร์เรียท เบิร์ท Harriet Burt) เจ้าหน้าที่นโยบายอาวุโสและโครงการระหว่างประเทศของ World Action on Salt, Sugar & Health มหาวิทยาลัยควีนแมรี ลอนดอน (Queen Mary University of London) ในอังกฤษ ให้ความเห็นว่าา รายงานฉบับนี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในแนวทางใหม่ของผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม
“รายงานฉบับใหม่จากองค์การอนามัยโลก แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องลดความหวานโดยรวมของผลิตภัณฑ์ของตน แทนที่จะพึ่งพาสารให้ความหวานมากนัก เมื่อทำอย่างถูกต้อง การปรับโครงสร้างใหม่จะค่อยๆ กำจัดน้ำตาล เกลือ และไขมันอิ่มตัวส่วนเกินออกจากอาหาร เพื่อปรับปรุงสุขภาพโดยรวมโดยไม่จำเป็นต้องใช้ส่วนผสมทดแทน เช่น สารให้ความหวานที่ไม่ใช่น้ำตาล” เบิร์ท กล่าว
เบิร์ท ยังกล่าวอีกว่า สถานการณ์ในอังกฤษนั้นน่าเป็นห่วงจากการบริโภคน้ำตาลที่ยังคงเพิ่มเป็น 2 เท่าของระดับที่แนะนำ เนื่องจากระบบอาหารที่ส่งเสริมการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีรสหวานมากเกินไปซึ่งมีเกลือและไขมันอิ่มตัวมากเกินไป นี่คือเหตุผลที่การลดการบริโภคน้ำตาลควรยังคงมีความสำคัญ จากรายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก เป็นที่ชัดเจนว่า รัฐบาลอังกฤษต้องการกลยุทธ์ที่ครอบคลุมอย่างเร่งด่วนเพื่อลดไม่เพียงแค่น้ำตาล แต่รวมถึงความหวานของผลิตภัณฑ์โดยรวม รวมถึงการใช้สารให้ความหวานที่ไม่ใช่น้ำตาล เช่น แอสปาร์แตม
รายงานของสื่ออังกฤษทิ้งท้ายว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลและแรงงานประกาศห้ามการโฆษณาอาหารขยะ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า โดยอ้างถึงผลกระทบด้านลบโดยเฉพาะกับวัยรุ่น
ขอบคุณเรื่องจาก
https://www.cityam.com/artificial-sweetener-aspartame-used-in-drinks-like-diet-coke-is-possible-cause-of-cancer-who/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
https://www.naewna.com/inter/740774 เตรียมประกาศ'แอสปาร์เทม’สารให้ความหวาน อาจเป็นปัจจัยก่อมะเร็ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี