ฮอโนลูลู (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์)-เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนลงพื้นที่เกิดไฟป่าครั้งใหญ่บนเกาะเมาวี เกาะใหญ่อันดับ 2ของรัฐฮาวายในสหรัฐฯ เพื่อเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายและเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเหตุไฟป่าคร่าชีวิตผู้คนเพิ่มเป็น 89 ศพ แต่ยังสูญหายอีกหลายร้อย ขณะที่เจ้าหน้าที่เริ่มมีความคืบหน้าในการควบคุมเพลิง
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสำนักงานบริหารจัดการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ หรือ FEMA เผยกับบรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือ บีบีซี ว่าเจ้าหน้าที่จากหลายภาคส่วนได้เดินทางมาสมทบยังเกาะเมาวี เกาะใหญ่อันดับ 2ของรัฐฮาวาย ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงและเจ้าหน้าที่นิติเวช เพื่อปฏิบัติการกู้ภัย ค้นหาผู้สูญหาย และตรวจสอบเอกลักษณ์บุคคลของเหยื่อที่คาดว่าอาจจะยังติดอยู่ภายในซากอาคารบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ถูกไฟป่าครั้งใหญ่เผาผลาญตลอด 6 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเมืองลาไฮนาเมืองประวัติศาสตร์ริมชายฝั่งทะเลบนเกาะเมาวี ที่เสียหายทั้งเมือง เหลือแต่กองเศษซากที่คุกรุ่น เนื่องจากไฟได้ไหม้อาคารบ้านเรือนกว่า 2,000 หลังคาเรือน รถยนต์นับร้อยๆ คัน ทำชาวบ้านหลายพันคนไร้ที่อยู่อาศัย
ไฟป่าครั้งนี้ กลายเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐฮาวาย แซงเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิถล่มเกาะบิ๊กในปี 2503 มีผู้เสียชีวิต61 ศพ รวมถึงยังเป็นไฟป่าครั้งที่ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตมากที่สุดของสหรัฐฯ ในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา แซงหน้าไฟป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2561 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 85 ศพ
ขณะที่ชาวฮาวายจำนวนมากที่มีความวิตกกังวลและห่วงใย ทยอยเดินทางไปที่ศูนย์พักพิงแห่งหนึ่งบนเกาะเมาวีตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อบริจาคอาหาร น้ำดื่มเสื้อผ้า และผ้าอ้อมให้กับผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่า ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 89 ศพ แต่คาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน ซึ่งไม่แน่ชัดว่าสูญหายเพราะเสียชีวิตในกองเพลิง จมน้ำระหว่างกระโดดลงทะเลหนีตาย หรืออพยพนอกเกาะ
ด้านเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมีความคืบหน้าในการควบคุมไฟป่าขนาดใหญ่ที่สุด 3 จุดบนเกาะเมาวี โดยคุมไฟป่าที่เมืองลาไฮนาได้แล้วร้อยละ 85 ในช่วงบ่ายวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่คุมไฟป่าปูเลฮู บริเวณเมืองคีเฮ ซึ่งห่างออกไปทางตะวันออก ได้แล้วร้อยละ 80 ส่วนไฟป่าจุดที่ 3 บริเวณเขตชนบทกลางเกาะเมาวี ควบคุมได้แล้ว 50% อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่เตือนว่า แม้การดับไฟจะมีความคืบหน้าแต่ไฟป่าทั้ง 3 จุดยังคงลุกไหม้อยู่ และมีความเสี่ยงที่พวกมันจะปะทุขึ้นมาอีกได้ทุกเมื่อ
ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของรัฐฮาวายอยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบและสืบสวนว่า ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็วผ่านเมืองตากอากาศประวัติศาสตร์นี้ได้อย่างไร โดยมีการเตือนภัยเพียงเล็กน้อย ซึ่งในประเด็นนี้สร้างความเดือดดาลและไม่พอใจให้กับชาวบ้านในเมืองลาไฮนาอย่างมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ของ FEMA ประเมินว่า ต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูเมืองอย่างน้อย 5,520 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 190,000 ล้านบาท)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี