เคียฟ/มอสโก (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - ผู้นำยูเครนยืนกรานไม่พร้อมจะเจรจากับรัสเซีย ตราบใดที่รัสเซียยังไม่ยอมถอนทหารทั้งหมดออกไปจากยูเครนเสียก่อน

ประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีผู้นำยูเครน ให้สัมภาษณ์ในรายการ Meet the Press ทางโทรทัศน์เอ็นบีซี ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าตนเองยังไม่พร้อมที่จะเจรจากับรัสเซีย จนกว่ารัสเซียจะยอมถอนทหารทั้งหมดออกไปยูเครนก่อน เป็นการปฏิเสธรายงานที่ว่าเจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ และยุโรปมีการพูดคุยกับรัฐบาลยูเครน เกี่ยวกับการเจรจาเพื่อหย่าศึกระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และมีขึ้นหลังจากผู้บัญชาการทหารของยูเครนคนหนึ่งบอกว่า เวลานี้ปัญหาขัดแย้งยูเครนกับรัสเซียได้มาถึงทางตันแล้ว

เซเลนสกีกล่าวต่อว่า สหรัฐฯ รู้ดีอยู่แล้วว่าตนไม่พร้อมจะเจรจากับผู้ก่อการร้ายเพราะคำพูดของผู้ก่อร้ายไม่มีความหมายใดๆและบอกว่าด้วยว่าในวันนี้ตัวเขาเองไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ กับชาวรัสเซีย ซึ่งคนรัสเซียเองก็รู้ดีถึงจุดยืนของตน และบอกด้วยว่าชาวรัสเซียทั้งหมดจะต้องออกไปจากดินแดนของยูเครน หลังจากนั้นถึงจะเริ่มมีการแก้ปัญหาด้วยวิธีทางการทูตได้

ผู้นำยูเครนบอกว่า สถานการณ์ในเวลานี้ถือว่ามีความยากลำบาก แต่ก็ปฏิเสธว่า ยังไม่ได้มาถึงทางตัน แต่ปัญหาของการสู้รบในแนวหน้าเวลานี้ก็คือยูเครนขาดแคลนระบบป้องกันภัยทางอากาศ จึงทำให้รัสเซียสามารถควบคุมน่านฟ้าเอาไว้ได้แต่ถ้ายูเครนได้รับการสนับสนุนระบบป้องกันภัยทางอากาศก็จะเดินหน้าตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว เขาบอกก่อนหน้านี้ว่า ความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซากำลังทำให้ประชาคมโลกละเลยสถานการณ์ความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ที่ดำเนินมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วและเชื่อว่าเหตุการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เป็นหนึ่งในเป้าหมายของรัสเซียที่หวังให้ทุกฝ่ายหันเหความสนใจไปจากสงครามกับยูเครน

ส่วนสถานการณ์สู้รบในแนวหน้าเวลานี้ ยูเครนกำลังถูกโจมตีอย่างหนักในภูมิภาคโดเนตสก์ ซึ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมารัสเซียระดมยิงกระสุนปืนใหญ่เข้ามาเป็นจำนวนมาก ทหารยูเครนบอกว่าไม่รู้ว่ารัสเซียนำกระสุนมาจากไหน ทั้งที่คาดว่าน่าจะร่อยหรอลงไปมากแล้ว ขณะที่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ชี้ว่า เกาหลีเหนือจัดส่งกระสุนปืนใหญ่ให้รัสเซียมากกว่า 1 ล้านลูกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา แต่ทั้งรัสเซียและเกาหลีเหนือต่างก็ยืนกรานปฏิเสธว่า ไม่มีการจัดส่งอาวุธให้รัสเซียนำไปใช้ในสงครามยูเครนอย่างแน่นอน