ซานโตโดมิงโก/มะนิลา (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) - พายุฝนกระหน่ำสาธารณรัฐโดมินิกัน ประเทศในแถบแคริบเบียน ทำให้มีประชาชนอย่างน้อย 21 รายเสียชีวิต ขณะที่เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทางตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันศุกร์ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 9 ศพแล้ว และอาจจะเพิ่มขึ้นอีก

สถานการณ์ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันรุนแรงในหลายพื้นที่ของโดมินิกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับสาธารณูปโภค ทั้งถนนและสะพาน รวมถึงบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก ประธานาธิบดี ลูอิซ อาบินาแดร์ ผู้นำสาธารณรัฐโดมินิกัน กล่าวว่า พายุฝนครั้งนี้ทำให้มีปริมาณฝนสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ประเทศ ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนทั่วประเทศกว่า 13,000 คน รวมทั้งแจ้งเตือนภัยใน 32 จังหวัดทั้งประเทศ ซึ่งหลายจังหวัดยังคงไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ รวมทั้งปิดโรงเรียนไปจนถึงวันพุธเพื่อความปลอดภัย

จุดหนึ่งที่กรุงซานโตโดมิงโก เกิดโศกนาฏกรรมสะเทือนใจ เมื่อพายุฝนทำให้กำแพงริมถนนที่จะมุ่งหน้าไปยังอุโมงค์ถล่มพังทับรถยนต์ที่กำลังสัญจรบนถนนสายหลักอย่างน้อย 3 คัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 9 ศพ เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์นี้ ด้านสำนักอุตุนิยมวิทยาคาดว่า ฝนจะตกต่อเนื่องไปอีก 24 ชั่วโมง พร้อมกับชี้ว่า อุบัติภัยร้ายแรงเช่นนี้เป็นผลจากภาวะโลกร้อน

ด้านสภาการจัดการและบรรเทาความเสี่ยงภัยพิบัติทางธรรมชาติของฟิลิปปินส์ แจ้งความคืบหน้าแผ่นดินไหวขนาด 6.7 เขย่าภูมิภาคมินดาเนาเมื่อวันศุกร์ มีผู้เสียเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเจ้าหน้าที่กู้ภัยกู้ศพได้เพิ่มขึ้นจากใต้ซากปรักหักพัง โดยล่าสุดพบเพิ่มเป็น 9 รายแล้ว ขณะที่มีผู้บาดเจ็บ 15 คน บ้านเรือนเสียหายบางส่วนหรือทั้งหมด มากกว่า 800 หลัง แม้ปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยส่วนใหญ่ได้ยุติลงแล้ว แต่สำนักงานจะยังคงเปิดรับข้อมูลจากหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

แผ่นดินไหวนอกชายฝั่งขนาด 6.7 มีศูนย์กลางลึกลงไปในทะเล 60 กิโลเมตร แต่ได้ทำให้อาคารสั่นไหว ผู้คนพากันหนีออกจากอาคารหรือหลบใต้โต๊ะเพื่อความปลอดภัย ขณะที่เพดานส่วนหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้าพังถล่มลงมา