ปราก (เอเอฟพี/รอยเตอร์ส/บีบีซี นิวส์) – ตำรวจสาธารณรัฐเช็กยังคงเร่งสืบสวนค้นหาแรงจูงใจที่ทำให้นักศึกษาวัย 24 ปี ก่อเหตุสังหารผู้เป็นบิดาที่บ้านพัก ก่อนเดินทางไปก่อเหตุกราดยิงภายในมหาวิทยาลัยใจกลางกรุงปรากที่ตนเองเป็นนักศึกษาอยู่ จนมีผู้เสียชีวิต 15 ศพ บาดเจ็บ 25 คน ก่อนจะยิงตัวตาย ถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สาธารณรัฐเช็ก
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงปรากเปิดเผยว่า เหตุกราดยิงเกิดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยชาลส์ ในย่านเมืองเก่าใจกลางกรุงปราก เมื่อช่วงก่อน 15.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 21 ธ.ค. ตามเวลาท้องถิ่นผู้ต้องสงสัยซึ่งภายหลังทราบว่าเป็นนักศึกษาชายวัย 24 ปี ใช้อาวุธปืนไรเฟิลกราดยิงผู้คนภายในอาคารเรียนคณะศิลปศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 ศพ ในจำนวนนี้หลายคนเป็นเพื่อนนักศึกษาของผู้ก่อเหตุ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 25 คน หลายคนอาการสาหัส ตำรวจรุดไปยังที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้ง 12 นาที และพยายามติดตามตัวมือปืน ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะพบร่างของเขาเสียชีวิตอยู่ภายในอาคารเบื้องต้นสันนิษฐานว่ายิงตัวตายเอง
เหตุกราดยิงครั้งนี้ส่งผลให้นักศึกษาจำนวนมากและผู้คนที่อยู่ด้านนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแหล่งท่องเที่ยวสำคัญต่าง
แตกตื่นวิ่งหนีตายอลหม่าน ขณะที่ตำรวจต้องประกาศเตือนให้ผู้คนหลบเข้าไปในอาคาร ปิดประตูหน้าต่างบ้านเรือนเพื่อความปลอดภัย รวมถึงปิดถนนรอบนอกมหาวิทยาลัย เนื่องจากมีผู้พบเห็นผู้ต้องสงสัยว่าเป็นมือปืนถือปืนออกมายืนด้านนอกระเบียงของอาคารที่เกิดเหตุกราดยิงด้วย
ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงปรากเผยในเวลาต่อมาว่า จากการตรวจสอบพบว่า มือปืนซึ่งทราบชื่อในเวลาต่อมาว่า ดาวิดโคซัค ได้ลงมือสังหารบิดาของตนเองที่บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ห่างจากกรุงปรากไปทางตะวันตกราว 21 กิโลเมตรเมื่อช่วงสายของวันเดียวกัน ก่อนจะเดินทางออกจากบ้านมาที่มหาวิทยาลัยเพื่อหวังฆ่าตัวตาย แต่กลับกลายเป็นว่าเขามาก่อเหตุกราดยิงภายในคณะศิลปศาสตร์ของมหาวิทยาลัยที่เขาเป็นนักศึกษาอยู่ โดยกราดยิงแบบสุ่มไม่จงใจว่าจะสังหารผู้ใด นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลเชื่อว่า เขาเป็นผู้ต้องสงสัยยิงชาย 1 คนและบุตรสาววัยแบเบาะเสียชีวิตในป่านอกกรุงปราก เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมาด้วย ส่วนแรงจูงใจในการลงมือก่อเหตุกราดยิงครั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงปรากบอกเพียงว่า มือปืนอาจได้แรงบันดาลใจมาจากเหตุกราดยิงลักษณะคล้ายกันนี้ที่เคยเกิดขึ้นในรัสเซีย ขณะนี้กำลังเร่งสืบสวนเพื่อหาเหตุจูงใจที่แท้จริงอยู่ แต่ยืนยันไม่มีส่วนเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายใดๆ และว่าผู้เสียชีวิตลงมือเพียงคนเดียว
ด้านประธานาธิบดี ปีเตอร์ พาเวล และนายกรัฐมนตรี ปีเตอร์ เฟียลา ของสาธารณรัฐเช็ก ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุกราดยิงครั้งนี้ ที่ถือเป็นเหตุกราดยิงครั้งเลวร้าย และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดนับตั้งแต่สาธารณรัฐเช็กแยกตัวเป็นเอกราชเมื่อปี 1993 และว่ารัฐบาลประกาศให้วันเสาร์ที่ 23 ธ.ค. เป็นวันไว้อาลัยทั่วประเทศ 1 วัน เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตครั้งนี้ พร้อมสั่งงดกิจกรรมด้านศิลปวัฒนธรรมและการแข่งขันกีฬาทั้งหมด ประธานาธิบดีพาเวลยังเรียกร้องให้ชาวเช็กทั้งประเทศรวมใจเป็นหนึ่งเดียว และไม่นำเหตุกราดยิงครั้งนี้มาใช้โจมตีทางการเมืองหรือเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี