เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2567 นสพ.The Guardian ของอังกฤษ เสนอข่าว Tens of thousands face NHS cancellations as six-day strike begins in England ระบุว่า การประท้วงด้วยวิธีนัดหยุดงานเป็นเวลา 6 วันของบรรดาแพทย์จบใหม่ (Junior Doctor) จะทำให้ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. 2567 มีผู้ป่วยหลายหมื่นคนได้รับผลกระทบ โดยองค์กรการกุศลด้านสุขภาพในเมืองผู้ดี แสดงความกังวลว่า ผู้ที่ถูกเลื่อนนัดพบแพทย์ รวมถึงผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคมะเร็งและการมองเห็น จะถูกทิ้งให้วิตกกังวล อารมณ์เสีย และเสี่ยงที่อาการของพวกเขาจะแย่ลง เนื่องจากการหยุดงานทำให้ผู้ป่วยได้รับความช่วยเหลือล่าช้า
สมาคมผู้ป่วย กล่าวว่า ความปลอดภัยของผู้ป่วยอาจลดลง เนื่องจากโรงพยาบาลมีเจ้าหน้าที่น้อยเกินไปที่จะรับมือ โดยเรียกร้องให้บรรดารัฐมนตรีและสมาคมการแพทย์แห่งอังกฤษ (BMA) นำผู้ไกล่เกลี่ยเข้ามาช่วยยุติข้อพิพาทที่ยืดเยื้อเรื่องค่าจ้างของแพทย์จบใหม่ หลังการเจรจาครั้งที่แล้วในช่วงก่อนคริสต์มาสจะสิ้นสุดลงด้วยภาวะชะงักงัน ขณะที่ สตีเฟน โพวิส (Stephen Powis) ผู้อำนวยการด้านการแพทย์แห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (NHS) ระบุว่า มีแนวโน้มว่าจะมีการนัดพบแพทย์อีกหลายพันครั้งถูกยกเลิกหรือจัดกำหนดการนัดใหม่อีกครั้ง และนั่นเกินกว่า 1.2 ล้านครั้งที่ตนเคยเห็นมาตลอดช่วงปีที่ผ่านมาในช่วงระยะเวลาของการประท้วง
“ในช่วง 13 เดือน ที่มีการนัดหยุดงานของบุคลากรด้านสาธารณสุข ไม่ว่าแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อ NHS การหยุดงานประท้วงในสัปดาห์นี้ถือเป็นการหยุดงานครั้งที่ 10 ของแพทย์จบใหม่นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 2566 ซึ่งเมื่อถึงเวลาสิ้นสุดในวันอังคารหน้า พวกเขาจะปฏิเสธการทำงานรวมแล้วเป็นเวลา 34 วัน” โพวิส กล่าว
รายงานของสื่ออังกฤษกล่าวต่อไปว่า การนัดหยุดงาน 6 วัน ครั้งล่าสุดนี้ ถือว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ NHS ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 75 ปีก่อน ซึ่งการประท้วงครั้งก่อนๆ ที่รวมเวลาได้ 28 วัน ส่งผลให้มีการนัดหมายผู้ป่วยนอกเกือบ 1 ล้านรายและมีการเลื่อนตารางการผ่าตัดใหม่ ขณะที่การหยุดงานประท้วงในสัปดาห์นี้อาจเป็นเรื่องยากที่สุดสำหรับ NHS ที่จะรับมือ เนื่องจากเป็นระยะเวลายาวนานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดย โพวิส อธิบายว่า การที่สมาคมการแพทย์แห่งอังกฤษ เลือกประท้วงในสัปดาห์ที่การบริการยุ่งมากอย่างไม่น่าเชื่ออยู่แล้ว สืบเนื่องจากต้องรับมือกับอาการเจ็บป่วยในฤดูหนาวที่เพิ่มสูงขึ้น การประท้วงครั้งนี้จึงถือเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดของปีสำหรับ NHS
ฟิล แอมเบลอร์ (Phil Ambler) ผู้อำนวยการประจำประเทศอังกฤษของสถาบันคนตาบอดแห่งชาติ (RNIB) กล่าวว่า ผู้พิการทางสายตาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการนัดพบแพทย์ได้รับผลกระทบ เนื่องจากข่าวดังกล่าวถูกส่งมาในรูปแบบจดหมาย แทนที่จะส่งผ่านอักษรเบรลล์หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่นเดียวกับ จูลี ธัลลอน (Julie Thallon) รักษาการประธานสมาคมผู้ป่วย ที่กล่าวว่า ผู้ป่วยควรสามารถเข้าถึงการดูแลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเมื่อพวกเขาต้องการ
“การนัดหยุดงานทำให้เกิดอุปสรรคในการดูแลซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการรอคอยอันยาวนานที่ผู้ป่วยจำนวนมากกำลังประสบอยู่ เรากังวลอย่างยิ่งว่าการกระทำของแพทย์จบใหม่อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้ป่วยทุกคนในวันที่นัดหยุดงาน นำผู้ไกล่เกลี่ยเข้ามาหากต้องการ แต่โปรดหาทางผ่านพ้นทางตันนี้ไป” ธัลลอน กล่าว
ซาราห์ รัวเน (Sarah Ruane) ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนของ Macmillan Cancer Support กล่าวว่า ความไม่แน่นอนใดๆ ที่เกิดจากการนัดหยุดงานมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดความกังวลและวิตกกังวลอย่างแท้จริงสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งซึ่งมีการนัดพบแพทย์ที่กำลังจะมาถึงหรือกำลังรอผล ทั้งนี้ คณะกรรมการแพทย์จบใหม่ของสมาคมการแพทย์แห่งอังกฤษเรียกร้องขอขึ้นค่าจ้างร้อยละ 35 เพื่อเป็นการฟื้นฟูค่าจ้างเต็มจำนวน หลังจากที่มูลค่าที่แท้จริงของค่าจ้างแพทย์ลดลงร้อยละ 26 ตั้งแต่ปี 2551-2552
โรเบิร์ต ลอเรนสัน (Robert Laurenson) และ วิเวก เทรเวตี (Trevedi) ประธานร่วมของคณะกรรมการ เรียกร้องให้ วิคตอเรีย แอทกินส์ (Victoria Atkins) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ ปรับปรุงข้อเสนอการจ่ายเงินขั้นสุดท้ายให้กับแพทย์จบใหม่ ตาที่เคยสัญญาไว้เมื่อปี 2566 ขณะที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้กำหนดให้มีการปรับเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 8.8 สำหรับปี 2566-2567 และเสนอให้เพิ่มอีกร้อยละ 3
ถึงกระนั้น แพทย์ยังคงได้รับค่าตอบแทน 15.50 ปอนด์ต่อชั่วโมง และถูกบังคับให้หยุดงานประท้วงโดยรัฐบาลที่ไม่สามารถร่วมมือกันได้ และเสนอราคาที่สมเหตุสมผลโดยรู้ว่าจะต้องได้รับค่าจ้างในที่สุด โดยเรียกร้องให้แอตกินส์เสนอข้อเสนอที่น่าเชื่อถือ ซึ่งสามารถเสนอให้สมาชิกแพทย์จบใหม่ 46,000 คนของ BMA พิจารณาได้
แมทธิว เทเลอร์ (Matthew Taylor) ผู้บริหารระดับสูงของสมาพันธ์ NHS กล่าวว่า บรรดาผู้บริหารโรงพยาบาลได้เข้าสู่ปี 2567 ด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจและความกังวลใจ เนื่องจากการนัดหยุดงานเกิดขึ้นพร้อมกับการที่ NHS อยู่ภายใต้แรงกดดันพิเศษเนื่องจากฤดูหนาว ขณะที่รัฐมนตรีสาธารณสุขเมืองผู้ดี ให้ความเห็นว่า โดยปกติแล้วเดือนมกราคมจะเป็นช่วงเวลาที่คึกคักที่สุดของปีสำหรับ NHS และการหยุดงานประท้วงจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ป่วยทั่วประเทศ NHS ได้จัดทำแผนฉุกเฉินที่แข็งแกร่งอีกครั้งเพื่อปกป้องความปลอดภัยของผู้ป่วย และใครก็ตามที่ต้องการ ความช่วยเหลือทางการแพทย์จะยังคงเดินหน้าต่อไป
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี