เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 สำนักข่าวรอยเตอร์ เสนอข่าว Macron promises wide array of reforms for France as he seeks reset ระบุว่า เอ็มมานูเอล มาครง (Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แถลงข่าวเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2567 ได้ประกาศมาตรการต่างๆ มากมาย ตั้งแต่การควบคุมเวลาดูหน้าจอของเด็กๆ ไปจนถึงการเพิ่มเงินค่าเลี้ยงดูบุตร เพื่อเลี้ยงดูบุตร เพื่อฟื้นฟูอาณัติที่สองที่ได้รับผลกระทบจากความไม่เป็นที่นิยมของเขาและการปฏิรูปที่โต้แย้งกัน
ในการแถลงข่าวที่มีความยาวและเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก มาครงมุ่งเน้นไปที่ความกังวลในชีวิตประจำวันของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึงโรงเรียนและค่าครองชีพ โดยยืนยันว่าเขาต้องการพลิกหน้าเกี่ยวกับการปฏิรูปเงินบำนาญและการย้ายถิ่นฐานที่มีการโต้แย้งในปีที่แล้ว โดยย้ำว่า ฝรั่งเศสจะแข็งแกร่งขึ้นในโลกแห่งความปั่นป่วนนี้หากคนในชาติสามัคคีกันมากขึ้น และตนมั่นใจว่าฝรั่งเศสมีทรัพยากรทั้งหมดที่จำเป็นในการประสบความสำเร็จ
ความไม่พอใจต่อค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นและการปฏิรูปในปี 2566 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อคะแนนนิยมของมาครง และโอกาสของเขาในการเลือกตั้งรัฐสภายุโรปในเดือน มิ.ย. 2567 ซึ่งพรรคของเขาตามหลังพรรคการเมืองแนวขวาจัดของ มารีน เลอ แปง (Marine Le Pen) อย่างเลวร้าย เพื่อเป็นการพยักหน้าในเรื่องนี้ มาครงยืนยันแผนการลดภาษีสำหรับชนชั้นกลาง และกล่าวว่าไฟฟ้าจะยังคงถูกกว่าในประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศอย่างมาก แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ
มาครง ยอมรับว่า ฝรั่งเศสมีจุดบอด นั่นคือประชาชนจำนวนไม่น้อยแม้มีรายได้มากเกินไปที่จะเข้าเกณฑ์ขอรับความช่วยเหลือ แต่ยังไม่เพียงพอหากพูดถึงการดำรงชีวิตที่ดี อนึ่ง การแต่งตั้งกาเบรียล แอตตัล (Gabriel Attal) วัย 34 ปี ของมาครงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถือเป็นดาวรุ่งแห่งวงการการเมืองฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมและเชี่ยวชาญด้านสื่อ ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของฝรั่งเศส ได้ส่งสัญญาณให้เห็นถึงความปรารถนาของประธานาธิบดีที่จะก้าวไปข้างหน้า และยังชนะใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่พอใจซึ่งถูกล่อลวงโดยคะแนนเสียงของเลอแปง
แต่ที่น่าสนใจคือ มาครงได้ประกาศมาตรการที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน ซึ่งรวมถึงการกำหนดเวลาหน้าจอทั้งโทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ แต่ยังไม่ระบุรายละเอียด นอกจากนี้ จะมีการทดลองใช้เครื่องแบบในโรงเรียนประมาณ 100 แห่ง และจะมีชั้นเรียนการเรียนการสอนสำหรับพลเมืองเพิ่มมากขึ้น และเด็กทุกคนในโรงเรียนมัธยมต้นควรได้เข้าเรียนในชั้นเรียนการละคร ส่วนการลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรอาจสั้นกว่านี้แต่ได้รับค่าตอบแทนที่ดีกว่า ขณะที่ด้านสาธารณสุข จะมีการปฏิรูปให้ประชาชนเข้าถึงแพทย์ได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ระบุรายละเอียด
มาครง ซึ่งมีขอบเขตจำกัดจากการไม่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา กล่าวว่า ตนจะขอให้รัฐบาลดำเนินการปฏิรูปแบบเสรีนิยมมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่าฝรั่งเศสจำเป็นต้องผลิตมากขึ้นและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้มากขึ้น เพราะฝรั่งเศสจะแข็งแกร่งขึ้นหากได้รับอิสรภาพทางการเงินกลับคืนมา และยืนยันคำมั่นสัญญาที่จะบรรลุการจ้างงานเต็มที่ โดยสัญญาว่าจะปฏิรูปใหม่เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว รวมถึงการช่วยให้ผู้ว่างงานหางานได้ดีขึ้น แต่ยังเข้มงวดมากขึ้นหากคนเหล่านั้นปฏิเสธการเสนองาน
นสพ.The Guardian ของอังกฤษ เสนอข่าว ‘France to stay France’, says Macron, as he lays out vision to counter far right ระบุว่า ในการแถลงข่าว ปธน.มาครง เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ตนได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์เพื่อขอให้พิจารณาการใช้หน้าจอให้ดีที่สุดสำหรับเด็กเล็ก ซึ่งครอบครัวชาวฝรั่งเศสรู้สึกสับสนกับเวลาที่เด็กๆ ควรใช้กับโทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์ควรให้แนวทางที่ชัดเจนว่า ก่อนถึงวัยหนึ่ง มันไม่สมเหตุสมผลที่จะให้เด็กอยู่กับหน้าจอ แต่ยังไม่บอกว่าจะแบนหรือจำกัดเวลาตามช่วงอายุเท่าไรอย่างไร
นสพ.Le Monde ของฝรั่งเศส เสนอข่าว Macron outlines term's next reforms ระบุว่า มาครงได้ประกาศสิ่งที่เรียกว่า “การจัดเตรียมพลเมือง (Civic Rearmament)” โดยชาวฝรั่งเศสทุกรุ่นต้องเรียนรู้ว่าสาธารณรัฐหมายถึงอะไร นอกจากนั้นยังประกาศด้วยว่า การแต่งเครื่องแบบนักเรียนอาจยกระดับสู่ภาคบังคับในอีก 2 ปีข้างหน้า หลังจากที่นำร่องในภาคสมัครใจกับโรงเรียน 100 แห่ง โดยมองว่า ชุดนักเรียนช่วยลดความเหลื่อมล้ำระหว่างครัวเรือน อีกทั้งเด็กทุกคนควรเรียนรู้ความหมายของเพลงชาติฝรั่งเศสด้วย
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี