วอชิงตัน/เตหะราน (รอยเตอร์ส/ซีเอ็นเอ็น) - ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาทางเลือกตอบโต้เหตุทหารสหรัฐฯ 3 นายเสียชีวิตที่ฐานทัพสหรัฐฯ ในจอร์แดน จากการถูกกลุ่มติดอาวุธอิหร่านหนุนหลังโจมตีด้วยโดรนอากาศยานไร้คนขับ แต่เพนทากอนและทำเนียบขาว ย้ำ สหรัฐฯ ไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน ขณะที่อิหร่านปฏิเสธแล้วว่าไม่มีเอี่ยว
จอห์น เคอร์บี โฆษกความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดนของสหรัฐฯ กำลังพิจารณาทางเลือกเพื่อตอบโต้เหตุทหารสหรัฐฯ ถูกโจมตีในจอร์แดน เสียชีวิต 3 นาย แต่ย้ำว่า สหรัฐฯ ไม่ได้ต้องการเพิ่มความขัดแย้งใหม่ทางการทหาร ไม่ต้องการเพิ่มความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง และไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่าน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไบเดนเคยสั่งโจมตีตอบโต้กลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลัง ที่โจมตีทหารสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง แต่ไม่เคยโจมตีไปที่อิหร่านโดยตรง
ด้าน ซาบรินา ซิงก์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือเพนทากอน แถลงว่า สหรัฐฯ ไม่เชื่อว่า อิหร่านต้องการทำสงครามกับสหรัฐฯ และสหรัฐฯ เองก็ไม่ต้องการทำสงครามกับอิหร่านเช่นกัน พร้อมระบุว่า การโจมตีในจอร์แดนมีลักษณะคล้ายกับการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธกลุ่มหนึ่งที่อิหร่านหนุนหลัง คือกลุ่ม คาตาอิบ ฮิซบอลเลาะห์ (Kataib Hezbollah) และ อีกทั้งโดรนที่ใช้โจมตี ก็มีลักษณะเหมือนโดรนชาเฮ็ด ที่ผลิตในอิหร่าน และกล่าวโทษอิหร่าน ทำให้กลุ่มติดอาวุธมีความสามารถถึงขั้นโจมตีสหรัฐฯ ได้
การแถลงของเพนทากอนและทำเนียบขาวข้างต้น มีขึ้น 1 วัน หลังกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลัง ส่งโดรนอากาศยานไร้คนขับโจมตีค่ายทหารสหรัฐฯ ในจอร์แดนเมื่อวันอาทิตย์ (28 ม.ค.) ทำให้ทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต 3 นายบาดเจ็บเพิ่มเป็นกว่า 40 นาย พร้อมกับเผยชื่อและภาพทหาร 3 นายที่เสียชีวิต คือ และ สิบเอก วิลเลียมเจอโรม ริเวอร์ส อายุ 46 ปี, สิบโท เคนเนดี ลาดอน แซนเดอร์ส อายุ 24 ปี และสิบโท บรีออนนาอเล็กซอนเดรีย มอฟเฟ็ต อายุ 23 ปี
ส่วนความเคลื่อนไหวของอิหร่าน ล่าสุด นาสเซอร์คานานี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน แถลงที่กรุงเตหะราน ว่า อิหร่านไม่ต้อนรับความขัดแย้ง หรือ การทำให้ปัญหาตึงเครียดลุกลามในภูมิภาค ขณะเดียวกัน อิหร่านไม่ได้แทรกแซงการตัดสินใจของกองกำลังกลุ่มต่อต้านเพื่อสนับสนุนปาเลสไตน์ หรือป้องกันตนเองจากการรุกราน หรือการยึดครอง การกล่าวหาซ้ำๆ ที่ไม่มีมูลข้อเท็จจริงต่ออิหร่าน เป็นเพียงการสมคบคิดของบางกลุ่มบางประเทศ และว่าการโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่องของอิสราเอล และการสนับสนุนอิสราเอลของสหรัฐฯนำไปสู่การขยายวงขัดแย้งในภูมิภาค การละเมิดอธิปไตยแห่งชาติของอิรักและซีเรีย โดยทหารสหรัฐฯและการโจมตีของสหรัฐฯในอิรัก ซีเรียและเยเมนจะทำให้ภูมิภาคไร้เสถียรภาพมากยิ่งขึ้น คานานี กล่าวต่อไปด้วยว่า อิหร่านไม่ได้แสวงหาความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับฝ่ายใดและเชื่อว่าภูมิภาคและทั่วทั้งโลก จะไม่สามารถรับมือกับวิกฤตครั้งใหม่ได้ ซึ่งจะไม่เป็นผลดีกับฝ่ายใดรวมทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ อิหร่านจะเดินหน้าผลักดันความพยายามทางการทูตเพื่อลดทอนปัญหาตึงเครียดในภูมิภาค
ขณะเดียวกัน สื่อในภูมิภาคตะวันออกกลาง รายงานอ้างความเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านที่ระบุว่า จากสถานการณ์ตึงเครียดที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ทางการอิหร่านได้ยกระดับความพร้อมของระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศ ไว้ที่ระดับสูงสุด แต่ข่าวไม่ได้ระบุรายละเอียดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และทางการอิหร่าน ยังไม่แถลงใดๆ อันเป็นการตอบรับหรือปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี