ดราม่าอาเซียน! สส.ฟิลิปปินส์ โวยสิงคโปร์เสนอดีลพิเศษ ดึง‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’เล่นคอนเสิร์ตชาติเดียวในภูมิภาค
2 มีนาคม 2567 เว็บไซต์นิตยสารด้านสื่อบันเทิงของอังกฤษ New Musical Express (NME) รายงานข่าว Taylor Swift Singapore exclusive deal criticised by Philippines official ระบุว่า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) กำลังมีประเด็นดราม่าร้อนๆ เมื่อ โจอี้ ซัลเซดา (Joey Salceda) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ของฟิลิปปินส์ แสดงความไม่พอใจที่เพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคอย่าง สิงคโปร์ มีข้อตกลงพิเศษบางอย่างที่ทำให้ได้เป็นชาติเดียวในอาเซียน ที่ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ป็อปสตาร์สาวชาวอเมริกัน เลือกจัดงานคอนเสิร์ต
ซัลเซดา กล่าวว่า สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เพื่อนบ้านที่ดีทำ ประเทศของเราเป็นเพื่อนที่ดี นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการกระทำแบบนั้นจึงเจ็บปวด พร้อมกับเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ออกแถลงการณ์ประท้วงอย่างเป็นทางการ โดย เทย์เลอร์ สวิฟต์ จะแสดงคอนเสิร์ตแบบจัดเต็มถึง 6 รอบในสิงคโปร์ ตั้งแต่วันที่ 2-9 มี.ค. 2567 อย่างไรก็ตาม ซัลเซดา ยังเรียกร้องต่อผู้มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้องในฟิลิปปินส์ ว่าต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศด้วย เพื่อให้เอื้อต่อการจัดงานคอนเสิร์ตระดับโลก
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ท่าทีของ สส.ฟิลิปปินส์ เกิดขึ้นหลังจากท่าทีแบบเดียวกันของประเทศไทย โดยเมื่อเดือน ก.พ. 2567 เศรษฐา ทวีสิน (Srettha Thavisin) นายกรัฐมนตรีของไทย ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า มีรายงานว่าสิงคโปร์ได้ตกลงข้อตกลงกับป๊อปสตาร์รายนี้ ซึ่งหมายความว่าเธอจะไม่สามารถแสดงในประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ และยังระบุด้วยว่า รัฐบาลสิงคโปร์มีการเสนอเงินระหว่าง 2 -3 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.6 - 2.4 ล้านปอนด์ หรือ 73.6 – 110 ล้านบาท) ต่อการแสดงเพื่อแลกกับสิทธิพิเศษเป็นการเฉพาะ
“รัฐบาลสิงคโปร์ฉลาด หากเธอมาประเทศไทย การจัดที่นี่คงจะถูกกว่า และผมเชื่อว่าเธอจะสามารถดึงดูดผู้สนับสนุนและนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทยได้มากขึ้น แม้ว่าเราจะต้องอุดหนุนอย่างน้อย 500 ล้านบาท แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า ถ้าผมรู้เรื่องนี้ ผมคงเอารายการมาแสดงที่ประเทศไทย คอนเสิร์ตสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจได้” สื่ออังกฤษรายงานโดยอ้างคำพูดของนายกฯ ไทย
ทัวร์คอนเสิร์ตล่าสุดของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ซึ่งใช้ชื่อว่า “Eras” คาดว่าจะระดมทุนได้ทั้งหมด 5.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 2 แสนล้านบาท ตามการคาดการณ์ของ รศ.ปีเตอร์ โคฮาน (Assoc.Prof.Peter Cohan) ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการ วิทยาลัยแบ็บสัน (Babson College) รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่ารายได้จากทัวร์ของนักร้องสาว จะมีมากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ต่อปีของ 42 ประเทศทั่วโลก
การทัวร์ทำลายสถิติครั้งนี้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เช่นกัน โดยยอดขายตั๋ว การขายสินค้า และการเดินทางล้วนมีส่วนทำให้เกิดผลรวมโดยรวม บริษัทซอฟต์แวร์ QuestionPro ได้คำนวณว่าแต่ละรายการสามารถระดมทุนได้ประมาณ 93 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3 พันล้านบาท สำหรับเศรษฐกิจท้องถิ่น เช่นเดียวกับ
คริส เลย์เดน (Chris Leyden) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดการเติบโตของบริษัท SeatGeek เอเจนซี่ขายตั๋วเข้าชมงานต่างๆ ที่ให้ความเห็นว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ และทัวร์ Eras ของเธอได้กำหนดนิยามใหม่ของเศรษฐศาสตร์บันเทิง โดยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นทัวร์แรกที่ทำรายได้รวม 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ (796 ล้านปอนด์ หรือกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท)
รายงานของสื่ออังกฤษยังกล่าวอีกว่า เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้สร้างสถิติทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล โดยทะลุเกณฑ์หลักสิบหลักหลังจากการแสดง 60 รอบและ 8 เดือนของการอยู่ในเส้นทางทัวร์ สามารถขายตั๋วเข้าชมได้อย่างเหลือเชื่อถึง 4.3 ล้านใบ ในราคาตั๋วเฉลี่ย 238.95 เหรียญสหรัฐ หรือราว 8,600 บาท และคำนวณว่าป็อปสตาร์รายนี้ทำรายได้ประมาณ 17.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 620 ล้านบาท สำหรับการแสดงโดยเฉลี่ยสำหรับการทัวร์ในทวีปอเมริกาเหนือของเธอ ขณะที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ซีอีโอของ AMC Theatres เครือข่ายโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ในสหรัฐฯ ยังเปิดเผยว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากภาพยนตร์คอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ รวมถึง บียอนเซ (Beyonce) นักร้องสาวชื่อดังอีกราย
ขอบคุณเรื่องจาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เฉียบ!!!'วินทร์ เลียววาริณ'ตั้งคำถามตีแสกหน้านายกฯไทย 'เราต้องการ Taylor Swift จริงๆหรือ?'
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี